นอนน้อยแค่ไหนถึงอันตราย? รู้ไว้ก่อนสุขภาพพังแบบไม่รู้ตัว

นอนน้อยแค่ไหนถึงอันตราย? รู้ไว้ก่อนสุขภาพพังแบบไม่รู้ตัว
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 16 October, 2025
Share

Key Takeaway

  • การนอนที่เหมาะสมคือผู้ใหญ่ควรนอน 7–9 ชั่วโมงต่อคืน หากนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงถือว่านอนน้อย ส่วนเด็กและวัยรุ่นต้องการชั่วโมงนอนมากกว่า 8–10 ชั่วโมง

  • การนอนน้อยผลเสียคือ ทำให้สมองทำงานช้าลง ความจำลดลง อารมณ์แปรปรวน ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และเสี่ยงน้ำหนักขึ้นง่าย

  • อาการนอนน้อยสะสมคือ ร่างกายเหนื่อยล้าเรื้อรัง ง่วงระหว่างวัน สมาธิแย่ ปวดหัว หรือหงุดหงิดง่าย เป็นสัญญาณว่าการนอนน้อยสะสมจนกระทบสุขภาพ

  • นอนน้อยเรื้อรังเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ ความดันสูง เบาหวาน โรคอ้วน ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ปัญหาสมอง เช่น ความจำลดลง อารมณ์แปรปรวน และผิวพรรณหมองคล้ำ

หลายคนอาจคิดว่าแค่นอนน้อยวันสองวันคงไม่เป็นไร แต่รู้ไหมว่านอนน้อยเกินไป อาจส่งผลร้ายแรงกว่าที่คิด ทั้งสมองล้า ภูมิต้านทานลดลง ความจำแย่ลง ไปจนถึงเพิ่มความเสี่ยงโรคเรื้อรังโดยไม่รู้ตัว แล้วต้องนอนน้อยแค่ไหนถึงเข้าขั้นอันตราย? บทความนี้พาไปเช็กสัญญาณเตือนจากร่างกาย พร้อมรู้วิธีป้องกันก่อนสุขภาพจะพังแบบไม่ทันตั้งตัว!

นอนน้อยคืออะไร นอนกี่ชั่วโมงถึงจะพอ?

นอนน้อยคืออะไร นอนกี่ชั่วโมงถึงจะพอ?

“นอนน้อย” คือการนอนไม่ถึงความต้องการตามธรรมชาติของร่างกายทั้งในแง่ “ชั่วโมง” และ “คุณภาพการนอน” ผลคือสมองและร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้ไม่เต็มที่ ทำให้เช้าวันถัดไปง่วงง่าย สมาธิลดลง อารมณ์แกว่ง และถ้าสะสมเรื้อรังจะเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพหลายด้าน

การนอนคือช่วงที่ร่างกายสลับไปมาระหว่าง NREM (หลับลึก) และ REM (หลับฝัน)

  • NREM (หลับลึก) เน้นซ่อมแซมร่างกาย ภูมิคุ้มกัน ฮอร์โมนการเจริญเติบโต กล้ามเนื้อ

  • REM (หลับฝัน) เน้นจัดระเบียบความจำ การเรียนรู้ อารมณ์ และความคิดสร้างสรรค์

ถ้านอนไม่พอ เช่น นอนแค่ 4–5 ชั่วโมงต่อคืนวงจรเหล่านี้ไม่ครบหลายรอบ เช่น สมองอาจได้ REM (หลับฝัน) แค่รอบเดียว แต่ปกติควรได้ 4–5 รอบ ส่งผลให้สมองและร่างกายทำงานไม่เต็มที่ทั้งวันเกิดอาการลืมง่าย เรียนรู้ช้า รู้สึกอ่อนเพลีย เจ็บป่วยง่าย หงุดหงิดง่าย เครียดง่าย เป็นต้น

โดยแต่ละช่วงวัยควรมีจำนวนชั่วโมงการนอนที่เหมาะสม ดังนี้

  • ทารกแรกเกิด (0–3 เดือน) ควรนอน 14–17 ชั่วโมง/วัน น้อยกว่า 12 ชั่วโมง ถือว่านอนน้อย

  • ทารก (4–11 เดือน) ควรนอน 12–15 ชั่วโมง/วัน น้อยกว่า 10 ชั่วโมง ถือว่านอนน้อย

  • เด็กเล็ก (1–2 ปี) ควรนอน 11–14 ชั่วโมง/วัน น้อยกว่า 9 ชั่วโมง ถือว่านอนน้อย

  • เด็กก่อนวัยเรียน (3–5 ปี) ควรนอน 10–13 ชั่วโมง/วัน น้อยกว่า 8 ชั่วโมง ถือว่านอนน้อย

  • เด็กวัยเรียน (6–13 ปี) ควรนอน 9–11 ชั่วโมง/วัน น้อยกว่า 7 ชั่วโมง ถือว่านอนน้อย

  • วัยรุ่น (14–17 ปี) ควรนอน 8–10 ชั่วโมง/วัน น้อยกว่า 7 ชั่วโมง ถือว่านอนน้อย

  • วัยผู้ใหญ่ (18–64 ปี) ควรนอน 7–9 ชั่วโมง/วัน น้อยกว่า 6 ชั่วโมง ถือว่านอนน้อย

  • ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป) ควรนอน 7–8 ชั่วโมง/วัน น้อยกว่า 6 ชั่วโมง ถือว่านอนน้อย

การนอนหลับไม่เพียงพอตามความต้องการของร่างกาย ทำให้ร่างกายและสมองฟื้นฟูได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้เหนื่อย ง่วงง่าย สมาธิลดลง และเสี่ยงต่อสุขภาพในระยะยาว

นอนน้อยส่งผลเสียอย่างไร

นอนน้อยส่งผลเสียอย่างไร?

การนอนหลับไม่เพียงพอไม่ใช่แค่ทำให้เรารู้สึกง่วงหรือเหนื่อยเท่านั้น นอนไม่พอคลื่นไส้ นอนน้อยวูบ ยังส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจในหลายด้าน หากสะสมเป็นเวลานาน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ และทำให้คุณภาพชีวิตลดลง โดยส่งผลเสียดังนี้

สมองทำงานช้าลง ความจำแย่ลง

เมื่อเรานอนน้อย สมองจะไม่ได้มีเวลาจัดเรียงและเก็บข้อมูลในหน่วยความจำระยะยาว ทำให้การเรียนรู้และการจำสิ่งใหม่ๆ มีประสิทธิภาพลดลง การตัดสินใจประจำวันผิดพลาดง่ายขึ้น สมาธิลดลง และมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์หรือแก้ปัญหาซับซ้อนลดลง นอกจากนี้ การนอนน้อยยังเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อโรคสมองเสื่อมในระยะยาว

อารมณ์แปรปรวน เครียดง่าย หงุดหงิด

เมื่อเรานอนน้อยสมองจะไม่ได้มีเวลาจัดเรียงและเก็บข้อมูลในหน่วยความจำระยะยาวทำให้การเรียนรู้และการจำสิ่งใหม่ๆ มีประสิทธิภาพลดลง การตัดสินใจประจำวันผิดพลาดง่ายขึ้น สมาธิลดลง และมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์หรือแก้ปัญหาซับซ้อนลดลง และการนอนน้อยยังเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อโรคสมองเสื่อมในระยะยาว

ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง

การนอนหลับไม่เพียงพอส่งผลต่อสมดุลของฮอร์โมนและสารสื่อประสาทในสมอง ทำให้เกิดความเครียดสะสมง่าย อารมณ์ไม่มั่นคง หงุดหงิดง่าย หรือบางครั้งเกิดความวิตกกังวลโดยไม่ทราบสาเหตุ หากสะสมเป็นเวลานาน อาจกระทบความสัมพันธ์กับคนรอบข้างและคุณภาพชีวิตโดยรวม

น้ำหนักขึ้นง่าย ระบบเผาผลาญเสียสมดุล

ร่างกายใช้เวลานอนหลับในการซ่อมแซมเซลล์และสร้างเซลล์ภูมิคุ้มกัน การนอนน้อยทำให้การผลิตแอนติบอดีลดลง และเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ช่วยต่อสู้เชื้อโรคทำงานไม่เต็มที่ จึงมีโอกาสป่วยง่าย เป็นหวัดหรือโรคติดเชื้อง่ายขึ้น การฟื้นตัวจากโรคหรือบาดเจ็บก็ช้าลง

หัวใจและหลอดเลือดเสื่อมเร็ว

การนอนน้อยส่งผลต่อฮอร์โมนควบคุมความหิวและอิ่ม ได้แก่ ฮอร์โมนเกรลินเพิ่มขึ้น ทำให้หิวมากขึ้น และฮอร์โมนเลปตินลดลง ทำให้รู้สึกอิ่มยากขึ้น นอกจากนี้ การนอนน้อยยังทำให้ร่างกายเก็บไขมันได้ง่ายขึ้น และลดประสิทธิภาพการเผาผลาญพลังงานทำให้น้ำหนักขึ้นง่าย แม้จะควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้วก็ยังอาจเพิ่มน้ำหนักได้

ผิวพรรณโทรม แก่เร็ว

นอนน้อยทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะเครียดเรื้อรัง ความดันโลหิตสูงขึ้น หัวใจทำงานหนักขึ้น และหลอดเลือดเกิดการอักเสบสะสม ทำให้เสี่ยงต่อโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคเรื้อรังอื่นๆ การนอนเต็มที่ช่วยให้หัวใจได้พัก ลดความเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงเหล่านี้

ประสิทธิภาพการทำงานลดลง

ช่วงเวลานอนหลับร่างกายจะสร้างคอลลาเจนซ่อมแซมผิวและลดการอักเสบ การนอนน้อยทำให้ผิวหมองคล้ำ เกิดริ้วรอยง่ายขึ้น ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น และฟื้นตัวช้าจากมลภาวะหรือความเครียด นอกจากนี้ยังส่งผลให้รอยคล้ำใต้ตาเด่นชัดขึ้น และผิวแห้งกร้านหรือเกิดสิวง่ายขึ้น

สัญญาณเตือนอาการนอนน้อยสะสม

สัญญาณเตือนอาการนอนน้อยสะสม

อาการที่เกิดจากการนอนน้อยบ่อยครั้งแม้จะไม่รู้สึกเหนื่อยทันที แต่ร่างกายก็จะส่งสัญญาณเตือนที่บอกว่ากำลังพักผ่อนไม่พอ หากละเลยนานอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและประสิทธิภาพการทำงานได้ การนอนน้อยสะสมอาการที่สังเกตได้มีดังนี้

  • สมองล้า ความคิดช้าลง ความจำแย่

  • หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน

  • สมองเบลอ คิดช้า จำอะไรไม่ค่อยได้

  • ผิวโทรม หน้าไม่สดใส

  • ปวดหัว ปวดตา เวียนหัวง่าย

  • ภูมิคุ้มกันลด ป่วยบ่อย

  • น้ำหนักขึ้นหรือลดผิดปกติ

วิธีฟื้นฟูร่างกายเมื่อจำเป็นต้องนอนน้อย

วิธีฟื้นฟูร่างกายเมื่อจำเป็นต้องนอนน้อย

เวลาจำเป็นต้องนอนน้อยร่างกายและสมองของเราย่อมได้รับผลกระทบ การฟื้นฟูตัวเองอย่างถูกวิธีจึงช่วยลดความเหนื่อยล้าและเพิ่มสมาธิในระหว่างวันได้ ต่อไปนี้เป็นวิธีฟื้นฟูร่างกายง่ายๆ เมื่อเวลานอนน้อย

  1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ การนอนน้อยผลเสียทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ ดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอช่วยให้สมองและร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ลดอาการอ่อนเพลียและปวดหัว

  2. ทานอาหารที่มีประโยชน์ เลือกอาหารที่ให้พลังงานและสารอาหารครบถ้วน เช่น โปรตีน ผัก และผลไม้ เพื่อช่วยซ่อมแซมร่างกายและรักษาระดับน้ำตาลในเลือด

  3. งีบสั้น (Power Nap) การงีบ 10–20 นาทีช่วยกระตุ้นสมองและลดความเหนื่อยล้า

  4. เคลื่อนไหวร่างกายเบาๆ ยืดเส้นยืดสายหรือเดินสั้นๆ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย

  5. หลีกเลี่ยงคาเฟอีนช่วงดึก การดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มชูกำลังช่วงดึกอาจรบกวนการนอนคืนถัดไป 

  6. พักสายตาและผ่อนคลายสมอง หากต้องใช้หน้าจอเป็นเวลานาน ควรพักสายตา 5–10 นาทีทุกชั่วโมง ช่วยลดความตึงเครียดและป้องกันปวดหัว

  7. จัดตารางนอนให้กลับมาปกติ เมื่อผ่านวันที่นอนน้อยแล้ว ควรเข้านอนให้เพียงพอในคืนถัดไป เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูเต็มที่

เคล็ดลับนอนหลับเร็ว และมีคุณภาพ

การนอนหลับที่เพียงพอและมีคุณภาพสำคัญต่อร่างกายและสมอง การปรับพฤติกรรมง่ายๆ ก่อนนอนสามารถช่วยให้หลับเร็วขึ้นและตื่นมาสดชื่น โดยเคล็ดลับนอนหลับเร็วและมีคุณภาพที่เราแนะนำ คือ

  1. สร้างตารางนอนประจำ เข้านอนและตื่นเวลาเดียวกันทุกวันช่วยปรับนาฬิกาชีวิต ทำให้หลับง่ายและตื่นสดชื่น

  2. หลีกเลี่ยงหน้าจอก่อนนอน แสงจากมือถือหรือคอมพิวเตอร์รบกวนการหลั่งเมลาโทนิน ควรพักหน้าจออย่างน้อย 30–60 นาทีก่อนนอน

  3. ผ่อนคลายร่างกายและสมอง ทำกิจกรรมที่สงบๆ เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลงเบาๆ หรือทำสมาธิ ลดความเครียดก่อนนอน

  4. หลีกเลี่ยงคาเฟอีนและอาหารหนักช่วงดึก กาแฟ ชา หรืออาหารมื้อหนักก่อนนอนทำให้ร่างกายตื่นตัวและย่อยอาหารช้า ส่งผลให้นอนหลับไม่สนิท

  5. จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะกับการนอน ห้องมืด เงียบ และอุณหภูมิพอดี ช่วยให้ร่างกายเข้าสู่โหมดพักผ่อนง่ายขึ้น

  6. ออกกำลังกายสม่ำเสมอแต่ไม่ดึกเกินไป การเคลื่อนไหวร่างกายช่วยให้เหนื่อยพอดีและหลับง่าย แต่ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 2–3 ชั่วโมงก่อนนอน

  7. ใช้เทคนิคช่วยผ่อนคลายการหายใจ การหายใจลึก ช้าๆ หรือฝึก 4-7-8 Breathing ช่วยลดความเครียดและทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะพร้อมนอน

นอนน้อยเรื้อรัง เสี่ยงโรคอะไรบ้าง?

นอนน้อยเรื้อรัง เสี่ยงโรคอะไรบ้าง?

การนอนน้อยเรื้อรังส่งผลเสียต่อร่างกายและสมองอย่างมาก เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคดังนี้

  • โรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ

  • เบาหวานและโรคอ้วน ระบบเผาผลาญเสียสมดุล น้ำหนักขึ้นง่าย

  • ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ป่วยง่าย ติดเชื้อง่าย

  • ปัญหาสมองและอารมณ์ ความจำลดลง สมาธิแย่ อารมณ์แปรปรวน

  • ผิวพรรณและความแก่เร็ว ผิวหมองคล้ำ เกิดริ้วรอยง่าย

หากมีอาการอ่อนเพลียมาก น้ำหนักผิดปกติ ใจสั่น ปวดหน้าอก หรือซึมเศร้า ควรพบแพทย์เพื่อตรวจและฟื้นฟูร่างกาย การนอนให้เพียงพอและมีคุณภาพจึงสำคัญต่อสุขภาพระยะยาว

สรุป

การนอนเป็นสิ่งสำคัญต่อร่างกายและสมอง การนอนน้อยหรือไม่เพียงพอส่งผลเสียทั้งสมองล้า ความจำแย่ อารมณ์แปรปรวน ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ น้ำหนักผิดปกติ และเสี่ยงโรคหัวใจ เบาหวาน โรคอ้วน รวมถึงผิวพรรณโทรม การฟื้นฟูร่างกายเมื่อต้องนอนน้อยทำได้โดยดื่มน้ำเพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ งีบสั้น และปรับตารางนอนให้กลับมาเป็นปกติ ส่วนเคล็ดลับนอนหลับเร็วและมีคุณภาพ ได้แก่ สร้างตารางนอนประจำ ผ่อนคลายร่างกายและสมอง จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม และใช้เทคนิคหายใจช่วยผ่อนคลาย การนอนให้เพียงพอจึงสำคัญต่อสุขภาพระยะยาวและคุณภาพชีวิต

ถ้าคุณกำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายในชีวิต ลองหางานผ่าน Jobsdb แพลตฟอร์มหางานที่รวมตำแหน่งงานหลากหลายสาขา ให้คุณค้นหาโอกาสที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายและรวดเร็ว!

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับนอนน้อย (FAQ)

การนอนน้อยเป็นปัญหาที่หลายคนเจอ และบางครั้งอาจไม่รู้ตัวว่ากำลังสะสมผลเสียต่อร่างกายและสมอง เรามาดูคำถามที่พบบ่อยและคำตอบกัน!

นอนน้อยแต่ไม่ง่วง เป็นเรื่องปกติไหม?

บางคนอาจรู้สึกไม่ง่วงแม้นอนน้อย แต่ร่างกายยังคงได้รับผลกระทบ เช่น สมาธิลด ความจำแย่ และอารมณ์แปรปรวน จึงไม่ควรมองข้ามการนอนให้เพียงพอ

งีบกลางวันแทนการนอนกลางคืนได้ไหม?

งีบสั้นช่วงกลางวันช่วยเพิ่มความสดชื่น แต่ไม่สามารถทดแทนการนอนกลางคืนได้เต็มที่ การนอนต่อเนื่อง 7–9 ชั่วโมงยังสำคัญที่สุด

นอนน้อย เวียนหัว คลื่นไส้ แก้อย่างไร?

ควรดื่มน้ำเพียงพอ ทานอาหารที่ย่อยง่าย งีบสั้น และพักสายตา หากอาการรุนแรงหรือเกิดบ่อย ควรปรึกษาแพทย์

นอนดึกแต่ตื่นสาย เท่ากับการนอนให้เพียงพอหรือไม่?

การนอนดึกแม้ตื่นสายอาจไม่ได้คุณภาพเท่าการนอนตามนาฬิกาชีวิต ปัญหาสมองและร่างกายอาจยังเกิดขึ้น แนะนำเข้านอนและตื่นเวลาเดิมทุกวันเพื่อสุขภาพที่ดี

More from this category: ความอยู่ดีมีสุขในที่ทำงาน

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
ท่านได้ยอมรับคำประกาศเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ท่านได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อยินยอมให้ Jobsdb และบริษัทในเครือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถยกเลิกได้ทุกเวลา