Key Takeaway
บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจตลาดแข่งขันสมบูรณ์แบบง่ายๆ ผ่านการอธิบายที่ไม่ซับซ้อน พร้อมยกตัวอย่างประกอบให้เห็นภาพชัดเจน เข้าใจได้แม้ไม่มีพื้นฐานเศรษฐศาสตร์มาก่อน เหมาะสำหรับทุกคนที่อยากรู้จักตลาดรูปแบบนี้อย่างเข้าใจจริงในเวลาไม่นาน
ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ (Perfect Competition) คือตลาดที่มีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก โดยสินค้าของผู้ขายแต่ละรายมีลักษณะเหมือนกันทุกประการ ส่งผลให้ผู้ขายไม่สามารถตั้งราคาสูงกว่าราคาตลาดได้ และต้องยอมรับราคาที่เกิดจากกลไกอุปสงค์และอุปทาน
อย่างไรก็ตามผู้ขายไม่จำเป็นต้องลดราคาต่ำกว่าตลาด แต่สามารถเพิ่มกำไรได้ด้วยการลดต้นทุนการผลิตแทน นอกจากนี้ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายใหม่และรายเก่าสามารถเข้าออกตลาดได้อย่างเสรี โดยไม่มีเงื่อนไขหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เป็นหนึ่งในหัวข้อสำคัญที่ผู้เรียนเศรษฐศาสตร์ควรเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และยังเชื่อมโยงไปถึงคำถามยอดฮิตอย่างเศรษฐศาสตร์ จบมาทํางานอะไรได้อีกด้วย
ตลาดแข่งขันสมบูรณ์สามารถจำแนกย่อยออกเป็น 5 แบบที่มีความแตกต่างกันในรายละเอียดแต่ละด้าน ซึ่งการเข้าใจโครงสร้างตลาดแต่ละแบบก็เปรียบได้กับการใช้สูตร VLOOKUP ในโปรแกรม Excel ที่ช่วยดึงข้อมูลเฉพาะจุดออกมาอย่างแม่นยำ เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นว่าลักษณะสำคัญของตลาดแข่งขันสมบูรณ์เป็นอย่างไร
ในตลาดแข่งขันสมบูรณ์ สินค้าทั้งหมดถือเป็นสินค้าที่มีลักษณะเหมือนกันทุกประการ สามารถใช้ทดแทนกันได้อย่างสมบูรณ์ ตัวอย่างเช่น สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปอย่างสบู่ แชมพู หรือยาสีฟัน แม้แต่ละแบรนด์อาจมีความแตกต่างกันในเรื่องสีสัน รูปลักษณ์ บรรจุภัณฑ์ หรือยี่ห้อ แต่ในแง่ของประสิทธิภาพและลักษณะการใช้งานแล้วถือว่าเหมือนกัน
ตลาดแข่งขันสมบูรณ์มีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก ทำให้แต่ละฝ่ายเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของตลาดโดยรวม ผู้ขายทุกคนจึงเป็น Price Taker หรือผู้รับราคาที่ต้องจำหน่ายสินค้าตามราคาตลาดเท่านั้น หากผู้ขายรายใดตั้งราคาสูงกว่าตลาด ผู้บริโภคก็จะหันไปซื้อสินค้าจากผู้ขายรายอื่นทันที
ผู้ขายไม่สามารถควบคุมราคาตลาดได้ และต้องยอมรับราคาที่กำหนดขึ้นจากกลไกอุปสงค์และอุปทาน (Demand & Supply) สิ่งที่สามารถทำได้คือการลดต้นทุนให้ต่ำที่สุด เพื่อเพิ่มผลกำไรให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ในตลาดแข่งขันสมบูรณ์ ผู้ซื้อและผู้ขายมีข้อมูลในการตัดสินใจเท่าเทียมกัน ทั้งด้านราคา ปริมาณ คุณภาพ และแหล่งซื้อขายสินค้า ทำให้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วน
ลักษณะของตลาดแข่งขันสมบูรณ์คือความต้องการสินค้าที่เท่ากันในตลาด ทำให้การแข่งขันเป็นไปอย่างเสรี ผู้ขายรายใหม่สามารถเข้าตลาดได้อย่างง่ายดาย และผู้ขายที่มีอยู่สามารถออกจากตลาดได้โดยไม่มีเงื่อนไขหรือค่าใช้จ่ายจำนวนมากเป็นอุปสรรค
ตัวอย่างตลาดแข่งขันสมบูรณ์ในประเทศไทยสามารถพบเห็นได้ชัดเจนในหลายๆ สินค้าและบริการ ซึ่งมีลักษณะการทำงานที่สอดคล้องกับหลักการของตลาดแข่งขันสมบูรณ์ ดังนี้
สินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities Goods) เช่น ทองคำ โลหะ ธัญพืช หรือสินค้าเกษตร มักมีราคาทั่วโลกที่ใกล้เคียงกัน หากราคาผิดปกติจะเกิดการ Arbitrage หรือการทำกำไรจากส่วนต่างราคาจนราคากลับสู่สมดุล (Market Equilibrium) โดยทองคำที่มีความบริสุทธิ์เท่ากัน จะไม่มีความแตกต่างกันในตลาดต่างๆ ราคาจะถูกกำหนดโดยความต้องการซื้อและขายในตลาดโลก เช่นเดียวกับตลาดหลักทรัพย์ที่มีลักษณะคล้ายกันตามเงื่อนไขตลาดแข่งขันสมบูรณ์
ตลาดนัดของเกษตรกรมีลักษณะเด่นที่มีผู้ซื้อและผู้ขายรายย่อยจำนวนมาก โดยผลิตภัณฑ์และราคามักไม่แตกต่างกันมากจากตลาดนัดแห่งหนึ่งไปยังอีกแห่ง วิธีการปลูกสินค้าไม่ถือเป็นปัจจัยสำคัญ เว้นแต่จะเป็นตลาดออร์แกนิก ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือวิธีการบรรจุหีบห่อหรือการสร้างตราสินค้า ซึ่งแม้บางร้านจะเลิกกิจการไป ราคาเฉลี่ยของสินค้าก็จะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
อีกตัวอย่างของตลาดแข่งขันสมบูรณ์คือซูเปอร์มาร์เก็ตสองแห่งที่แข่งขันกัน โดยจำหน่ายสินค้าจากบริษัทกลุ่มเดียวกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์ของทั้งสองแห่งแทบไม่แตกต่างกัน และราคามักจะเท่ากัน เนื่องจากทั้งสองแห่งไม่สามารถตั้งราคาสูงหรือต่ำเกินไปได้ เพราะผู้บริโภคสามารถเปรียบเทียบราคาและเลือกซื้อได้ง่าย
ในตลาดแข่งขันสมบูรณ์ สินค้าลอกเลียนแบบมักมีราคาที่ใกล้เคียงกันและแทบไม่แตกต่างกันเลย หากบริษัทผู้ผลิตสินค้าลอกเลียนแบบเลิกกิจการ สินค้าชิ้นหนึ่งก็จะถูกแทนที่ด้วยสินค้าชิ้นใหม่โดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคาหรือความต้องการของตลาด
การพัฒนาตลาดในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสามารถเปรียบเทียบกับการแข่งขันที่สมบูรณ์แบบ เช่น การขยายตัวของเว็บไซต์โซเชียลมีเดียเริ่มต้นอย่าง Sixdegrees.com, Blackplanet.com และ Asianave.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ฟรีและไม่มีส่วนแบ่งการตลาดที่โดดเด่น ในตลาดนี้ เว็บไซต์เป็นผู้ขาย และผู้บริโภคส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาวที่เป็นผู้ซื้อ
ต้นทุนการเริ่มต้นค่อนข้างต่ำ เพราะเทคโนโลยีอย่าง PHP และ Java เป็นโอเพนซอร์สและเข้าถึงได้ง่าย เช่นเดียวกับ Facebook ที่ Mark Zuckerberg ก่อตั้งจากหอพักในวิทยาลัย
ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์ ตลาดผูกขาด ตลาดกึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด และตลาดผู้ขายรายน้อย มีลักษณะและการทำงานที่แตกต่างกัน โดยแต่ละประเภทจะมีปัจจัยที่กำหนดในด้านผู้ขาย การแข่งขัน ราคา และการควบคุมตลาดที่แตกต่างกัน ดังนี้
ประเภทตลาด | จำนวนผู้ขาย | ลักษณะสินค้า | การเข้าตลาด | การกำหนดราคาขาย | ตัวอย่างสินค้า |
แข่งขันสมบูรณ์ | มีจำนวนมาก | เหมือนกันทุกอย่าง | เสรี | ตามอุปสงค์และอุปทาน | สินค้าทางการเกษตร ผัก ผลไม้ |
แข่งขันไม่สมบูรณ์ | ผูกขาด | อย่างอื่นทดแทนไม่ได้ | ไม่เสรี | กำหนดเองหรือรัฐบาลควบคุม | ไฟฟ้า ประปา บุหรี่ |
กึ่งแข่งขันกึ่งผูกขาด | มีจำนวนมาก | ต่างกันที่แบรนด์ ใช้แบรนด์อื่นแทนกันได้ | เสรี | กำหนดเองแบบจำกัด | เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ปากกา |
ผู้ขายรายน้อย | ประมาณ 2-3 ราย | สินค้ามีความคล้ายกัน | เข้าตลาดยาก เพราะใช้ทุนสูง | กำหนดเองหรือกำหนดร่วมกับเจ้าอื่น | เครือข่ายโทรศัพท์ น้ำอัดลม |
หลายคนอาจสงสัยว่าข้อเสียของตลาดแข่งขันสมบูรณ์คืออะไรบ้าง แต่จริงๆ แล้วไม่มีข้อเสียที่ชัดเจน สิ่งที่พบได้จะเป็นข้อจำกัดและข้อควรรู้ ได้แก่
ตลาดแข่งขันสมบูรณ์คือตลาดที่มีผู้ซื้อและผู้ขายจำนวนมาก โดยสินค้าของทุกผู้ผลิตมีลักษณะเหมือนกันและไม่สามารถแยกแยะได้ ผู้ขายต้องยอมรับราคาตลาดที่เกิดจากกลไกอุปสงค์และอุปทาน และไม่สามารถตั้งราคาสูงกว่าตลาดได้ ผู้ขายทำได้เพียงลดต้นทุนให้ต่ำที่สุดเพื่อเพิ่มกำไร การแข่งขันในตลาดนี้เกิดขึ้นอย่างเสรี โดยผู้ประกอบการสามารถเข้าและออกจากตลาดได้อย่างง่ายดาย ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ไม่มีการควบคุมราคา หรือการแทรกแซงจากผู้ผลิต ทำให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่เป็นธรรมที่สุด
หากคุณกำลังมองหางานด้านเศรษฐศาสตร์ในประเทศไทย เว็บไซต์ Jobsdb มีตำแหน่งงานหลากหลาย เช่น นักวิเคราะห์เศรษฐกิจ นักวิเคราะห์นโยบาย และเจ้าหน้าที่วางแผนกลยุทธ์ รวมถึงตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ข้อมูลและการพัฒนานโยบาย