นักโภชนาการทำอะไรบ้าง? บทบาทในการดูแลและปรับพฤติกรรมการกิน

นักโภชนาการทำอะไรบ้าง? บทบาทในการดูแลและปรับพฤติกรรมการกิน
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 11 April, 2025
Share

Key Takeaway

  • นักโภชนาการ คือผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและโภชนาการ ที่ให้คำแนะนำและวางแผนการกินเพื่อส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค และช่วยปรับพฤติกรรมการบริโภคให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
  • ดูแลโภชนาการของบุคคลและกลุ่มเป้าหมาย โดยให้คำปรึกษา วางแผนมื้ออาหาร วิเคราะห์ภาวะโภชนาการ และช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับอาหาร เช่น เบาหวาน โรคอ้วน และโรคหัวใจ
  • ต้องมีความรู้ด้านโภชนาการ การให้คำปรึกษา วางแผนอาหารเฉพาะบุคคล วิเคราะห์ข้อมูลทางโภชนาการ และมีทักษะการสื่อสารที่ดีเพื่อให้คำแนะนำที่เข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริง

นักโภชนาการมีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพ โดยช่วยแนะนำพฤติกรรมการกินให้สมดุลและตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคลได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีภาวะสุขภาพเฉพาะด้าน เพื่อช่วยให้ผู้คนมีสุขภาพดีและอาจช่วยลดโอกาสเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับโภชนาการได้ในระยะยาว

ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับบทบาทและหน้าที่ของนักโภชนาการให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงนักโภชนาการโรงพยาบาล ทําอะไรบ้าง มีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพอย่างไร และเหตุผลใดนักโภชนาการถึงเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีความสำคัญต่อพฤติกรรมการกินของเราในชีวิตประจำวัน

นักโภชนาการคือใคร?

นักโภชนาการ คือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ ที่มีความรู้เกี่ยวกับสารอาหารและหลักการทำงานของร่างกาย มีบทบาทสำคัญในการแนะนำแนวทางการกินที่เหมาะสมเพื่อเสริมสร้างสุขภาพ ป้องกันโรค และช่วยฟื้นฟูร่างกายในกรณีที่มีปัญหาสุขภาพ โดยนักโภชนาการจะใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ในการวิเคราะห์และวางแผนโภชนาการเฉพาะบุคคลเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละคน

ความสำคัญของนักโภชนาการในการวางแผนการกิน

ความสำคัญของนักโภชนาการในการวางแผนการกิน

นักโภชนาการมีส่วนช่วยให้ประชาชนมีสุขภาพดี เพราะได้วางแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสม ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับโภชนาการเพื่อช่วยผู้บริโภคปรับพฤติกรรมการกิน ลดความเสี่ยงของโรค และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

1. ป้องกันโรคที่เกี่ยวข้องกับโภชนาการ

พฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ นักโภชนาการจะช่วยให้คำแนะนำในการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ ลดการบริโภคอาหารที่ก่อให้เกิดโรค เช่น

  • โรคเบาหวาน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดด้วยการเลือกอาหารที่เหมาะสม
  • โรคหัวใจและความดันโลหิตสูง วางแผนลดการบริโภคโซเดียม ไขมันอิ่มตัว และเพิ่มผักผลไม้
  • โรคอ้วน วางแผนอาหารที่สมดุลและส่งเสริมการควบคุมน้ำหนัก
  • โรคไต แนะนำอาหารที่ช่วยลดภาระการทำงานของไต

2. ส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

นักโภชนาการช่วยให้แต่ละคนเข้าใจวิธีการกินที่ถูกต้องและเหมาะสมกับร่างกายของตนเอง เช่น

  • สนับสนุนการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่สมวัย
  • ช่วยให้แม่และลูกได้รับสารอาหารครบถ้วน
  • ปรับอาหารให้เหมาะสมกับแต่ละวัย เพื่อลดความเสี่ยงของโรคและเสริมสร้างสุขภาพ

3. ฟื้นฟูสุขภาพในผู้ป่วยและผู้ที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

  • นักโภชนาการช่วยออกแบบแผนอาหารสำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงพักฟื้นจากโรคหรือการผ่าตัด
  • ช่วยให้ผู้ป่วยที่มีภาวะขาดสารอาหารกลับมามีสุขภาพแข็งแรง
  • ช่วยผู้ที่ต้องการเพิ่มน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนักให้ทำได้อย่างปลอดภัย

4. ให้ความรู้และสร้างพฤติกรรมการกินที่ดีในระยะยาว

ปลูกฝังนิสัยการกินที่ดีต่อสุขภาพ โดยนักโภชนาการจะให้คำแนะนำที่สามารถนำไปใช้ได้จริง เช่น

  • วิธีอ่านฉลากโภชนาการ
  • วิธีเลือกวัตถุดิบและประกอบอาหารเพื่อสุขภาพ
  • เทคนิคการกินอาหารให้สมดุลในชีวิตประจำวัน
หน้าที่หลักของนักโภชนาการ ทำอะไรบ้าง?

หน้าที่หลักของนักโภชนาการ ทำอะไรบ้าง?

นักโภชนาการมีหน้าที่ในการดูแลสุขภาพของผู้คนผ่านการให้คำแนะนำด้านอาหารและโภชนาการ โดยหน้าที่หลักของนักโภชนาการสามารถแบ่งออกได้ดังนี้

ให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโภชนาการ

หนึ่งในหน้าที่สำคัญของนักโภชนาการคือการให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโภชนาการ เพื่อช่วยให้ประชาชนเข้าใจถึงความสำคัญของอาหารและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะการมีความรู้ด้านโภชนาการที่ถูกต้องจะช่วยให้สามารถเลือกกินอาหารที่เหมาะสม ป้องกันโรค และมีสุขภาพที่ดีในระยะยาวได้

วิจัยคุณค่าทางอาหาร

นักโภชนาการมีหน้าที่ศึกษาสารอาหารในอาหารแต่ละประเภท และวิเคราะห์ผลกระทบของสารอาหารเหล่านั้นต่อสุขภาพ โดยนำข้อมูลที่ได้มาประยุกต์ใช้ในการให้คำแนะนำด้านโภชนาการ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับอาหารและโภชนาการให้กับบุคคลและชุมชน

การทำงานของนักโภชนาการจึงเน้นที่การส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค ผ่านการให้ความรู้และการพัฒนาโภชนาการที่มีคุณภาพ โดยใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพื่อสนับสนุนการแนะนำและการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารที่ดีต่อสุขภาพ

วิทยากรในการสาธิตการทำอาหาร

การสาธิตไม่เพียงแต่สอนวิธีการปรุงอาหาร แต่ยังช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้เข้าใจคุณค่าทางโภชนาการของอาหาร รวมถึงวิธีการรับประทานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งนักโภชนาการจะเน้นการใช้วัตถุดิบที่สดใหม่และมีคุณค่าทางโภชนาการ พร้อมทั้งอธิบายถึงวิธีการเตรียมและปรุงอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อส่งเสริมการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และเหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกอาหารที่ดีในชีวิตประจำวันอีกด้วย

รวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลด้านโภชนาการ

ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในการคัดกรอง วิเคราะห์ และเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัย ซึ่งช่วยให้ผู้คนสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้เหมาะสม เพราะข้อมูลที่เผยแพร่จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคและเสริมสร้างสุขภาพที่ดีในระยะยาว โดยการให้คำแนะนำที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกอาหาร การบริโภคสารอาหารที่สำคัญ และการสร้างนิสัยการกินที่ดี เพื่อให้ผู้คนสามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้

ให้คำปรึกษาและแนะนำเกี่ยวกับโภชนาการ

ช่วยให้บุคคลสามารถเลือกอาหารที่เหมาะสมกับสุขภาพและความต้องการของร่างกาย โดยใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์เพื่อวิเคราะห์ภาวะโภชนาการของแต่ละบุคคล และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านสุขภาพ

วางแผนมื้ออาหารที่เหมาะสม

มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้บุคคลได้รับสารอาหารที่เพียงพอและสมดุลตามความต้องการของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนอาหารสำหรับคนทั่วไป ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เพิ่มกล้ามเนื้อ หรือผู้ที่มีภาวะสุขภาพเฉพาะ เช่น เบาหวาน โรคไต หรือโรคหัวใจ

ทักษะที่ควรมีของนักโภชนาการ

ทักษะที่ควรมีของนักโภชนาการ 

ทักษะของนักโภชนาการจะช่วยให้คำแนะนำด้านโภชนาการได้อย่างถูกต้อง มีประสิทธิภาพ และสื่อสารกับบุคคลหรือกลุ่มเป้าหมายได้ดี นักโภชนาการไม่เพียงต้องมีความรู้ด้านอาหารและโภชนาการเท่านั้น แต่ยังต้องมีทักษะที่หลากหลายเพื่อช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและเกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เช่น

  • มีความเข้าใจเกี่ยวกับโภชนาการ สารอาหาร ระบบเผาผลาญของร่างกาย และผลกระทบของอาหารต่อสุขภาพ
  • สามารถอธิบายแนวทางโภชนาการที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย และให้คำแนะนำที่ปฏิบัติได้จริง
  • สามารถปรับแผนอาหารให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละบุคคล เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย หรือผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
  • วิเคราะห์พฤติกรรมการกิน คำนวณพลังงานและสารอาหารที่จำเป็น และพิจารณาปัจจัยสุขภาพที่เกี่ยวข้อง
  • ถ่ายทอดความรู้ด้านโภชนาการแก่ประชาชน โรงเรียน องค์กร หรือบุคลากรทางการแพทย์ ผ่านการบรรยาย อบรม หรือสื่อดิจิทัล
  • ศึกษางานวิจัยเกี่ยวกับโภชนาการ ประเมินแนวโน้มอาหารเพื่อสุขภาพ และนำข้อมูลมาปรับใช้ในงานให้คำปรึกษา
  • ทำงานร่วมกับแพทย์ พยาบาล นักกายภาพบำบัด หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ เพื่อให้การดูแลสุขภาพเป็นไปอย่างครบถ้วน
  • ใช้ซอฟต์แวร์คำนวณสารอาหาร วิเคราะห์ข้อมูล และจัดทำแผนโภชนาการอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ประเมินปัญหาทางโภชนาการของผู้รับคำปรึกษา และหาวิธีปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินให้เหมาะสม
  • จัดการโครงการส่งเสริมโภชนาการ วางแผนกิจกรรม และบริหารทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

อยากเป็นนักโภชนาการ ต้องเรียนจบอะไร

เส้นทางสู่อาชีพนักโภชนาการเริ่มต้นจากการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์อาหารและโภชนาการ รวมถึงการฝึกฝนทักษะที่จำเป็นเพื่อสามารถให้คำปรึกษา วางแผนโภชนาการ และทำงานร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์ได้ และหากต้องการเป็นนักโภชนาการ คุณต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาที่เกี่ยวข้องกับโภชนาการหรืออาหาร ดังนี้

  • จบการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาที่เกี่ยวข้อง
    • สาขาโภชนาการและการกำหนดอาหาร (Nutrition & Dietetics)
    • สาขาวิทยาศาสตร์การอาหารและโภชนาการ (Food Science & Nutrition)
    • สาขาสาธารณสุขศาสตร์ (Public Health – Nutrition)
    • สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพที่เกี่ยวข้อง
  • ศึกษาเกี่ยวกับหลักการโภชนาการและวิทยาศาสตร์อาหาร
    • เรียนรู้เกี่ยวกับสารอาหารและผลกระทบของอาหารต่อร่างกาย
    • ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคที่เกี่ยวข้องกับโภชนาการ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคหัวใจ
    • ศึกษาเทคนิคการวางแผนอาหารและให้คำปรึกษา
  • เข้ารับการฝึกงานหรืออบรมภาคปฏิบัติ
    • ฝึกงานในโรงพยาบาล คลินิกโภชนาการ หรืออุตสาหกรรมอาหาร
    • ได้รับประสบการณ์ในการวิเคราะห์ภาวะโภชนาการของผู้ป่วยและการวางแผนอาหารเฉพาะบุคคล
  • ศึกษาต่อหรือได้รับใบรับรองวิชาชีพ (หากต้องการเป็นนักกำหนดอาหาร – Dietitian)
    • ในบางประเทศ อาชีพนี้ต้องมีใบรับรองนักกำหนดอาหาร (Registered Dietitian - RD)
    • อาจต้องสอบใบอนุญาต หรืออบรมหลักสูตรเพิ่มเติมเกี่ยวกับโภชนาการทางการแพทย์
  • พัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการเป็นนักโภชนาการ
    • ทักษะการสื่อสารและการให้คำปรึกษา
    • ทักษะการวางแผนโภชนาการเฉพาะบุคคล
    • ความสามารถในการวิจัย วิเคราะห์ และให้ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับโภชนาการ
  • สามารถศึกษาต่อในระดับปริญญาโทหรือเอก (สำหรับผู้ที่ต้องการเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน)
    • โภชนาการคลินิก
    • โภชนาการกีฬา
    • โภชนาการสำหรับประชากรเฉพาะกลุ่ม เช่น เด็ก หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้สูงอายุ
    • การวิจัยด้านโภชนาการและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร
รายได้ของนักโภชนาการ

รายได้ของนักโภชนาการ

​นักโภชนาการมีอัตราเงินเดือนที่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ประสบการณ์การทำงาน ตำแหน่งหน้าที่ และสถานที่ปฏิบัติงาน​ เช่น

  • นักโภชนาการที่เพิ่งสำเร็จการศึกษา เงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 15,000 - 30,000 บาทต่อเดือน​
  • นักโภชนาการอาวุโส ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่เพิ่มขึ้น รายได้อาจอยู่ระหว่าง 40,000 - 60,000 บาทต่อเดือน​
  • หัวหน้าฝ่ายโภชนาการ ตำแหน่งบริหารที่มีความรับผิดชอบสูง รายได้สามารถอยู่ในช่วง 60,000 - 80,000 บาทต่อเดือน​

นอกจากนี้ นักโภชนาการที่ทำงานเป็นวิทยากรหรือให้คำปรึกษาเฉพาะทาง อาจได้รับค่าตอบแทนเพิ่มเติม โดยค่าวิทยากรเริ่มต้นที่ประมาณ 5,000 - 6,000 บาทต่อครั้ง​ แต่รายได้ดังกล่าวอาจแตกต่างกันไปตามสถานที่ทำงาน เช่น โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน หรือองค์กรต่างๆ รวมถึงประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของนักโภชนาการแต่ละคน

ความก้าวหน้าในสายอาชีพของนักโภชนาการ

ความก้าวหน้าในสายอาชีพของนักโภชนาการ

อาชีพนักโภชนาการมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากประชาชนให้ความสำคัญกับสุขภาพและโภชนาการมากขึ้น รวมถึงแนวโน้มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคอ้วน เบาหวาน และโรคหัวใจ ทำให้ตลาดต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการมากขึ้น โดยความก้าวหน้าในสายอาชีพนี้มีหลายเส้นทางที่น่าสนใจ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนต่างๆ ดังนี้

โอกาสเติบโตในสายงานนักโภชนาการ

  • เริ่มต้นจากนักโภชนาการทั่วไป
    • ทำงานในโรงพยาบาล คลินิกโภชนาการ หรืออุตสาหกรรมอาหาร
    • ให้คำแนะนำเกี่ยวกับโภชนาการพื้นฐานแก่บุคคลทั่วไป
  • พัฒนาเป็นนักโภชนาการเฉพาะทาง
    • โภชนาการคลินิก ให้คำปรึกษาด้านโภชนาการแก่ผู้ป่วยเฉพาะโรค
    • โภชนาการกีฬาหรือฟิตเนส วางแผนอาหารให้กับนักกีฬาและผู้ที่ต้องการเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกาย
    • โภชนาการสำหรับเด็ก ผู้สูงอายุ หรือกลุ่มเฉพาะ ออกแบบอาหารให้เหมาะสมกับช่วงวัยหรือภาวะสุขภาพ
  • ก้าวสู่ตำแหน่งบริหาร
    • หัวหน้าฝ่ายโภชนาการในโรงพยาบาลหรือองค์กร
    • ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโภชนาการในบริษัทอาหารและเครื่องดื่ม
    • ที่ปรึกษาด้านโภชนาการให้กับหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชน
  • ขยายโอกาสในสายงานอิสระ
    • เป็นวิทยากรหรือโค้ชโภชนาการ ให้ความรู้ผ่านเวิร์กช็อปหรือสื่อออนไลน์
    • เปิดคลินิกโภชนาการ ให้บริการวางแผนอาหารเฉพาะบุคคล
    • สร้างคอนเทนต์ด้านโภชนาการ เช่น บล็อก เว็บไซต์ หรือช่อง YouTube เพื่อให้ความรู้และสร้างรายได้
  • ศึกษาต่อระดับสูงและวิจัยทางโภชนาการ
    • ศึกษาต่อในระดับปริญญาโทหรือเอกเพื่อความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
    • ทำงานด้านการวิจัยและพัฒนาอาหารเพื่อสุขภาพ หรือเป็นอาจารย์ในสถาบันการศึกษา

ความต้องการในตลาดแรงงาน

  • อัตราการจ้างงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากความตื่นตัวเรื่องสุขภาพและโรคที่เกี่ยวข้องกับโภชนาการ
  • ธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพเติบโต ทำให้มีความต้องการนักโภชนาการในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น
  • สายงานอิสระขยายตัว เช่น การให้คำปรึกษาออนไลน์ การเป็นนักเขียนด้านโภชนาการ และการเป็นอินฟลูเอนเซอร์สายสุขภาพ

สรุป

นักโภชนาการเป็นอาชีพที่มีบทบาทสำคัญในการให้คำปรึกษาด้านโภชนาการ วางแผนมื้ออาหาร และช่วยปรับพฤติกรรมการกินเพื่อส่งเสริมสุขภาพ ทั้งในโรงพยาบาล อุตสาหกรรมอาหาร และคลินิกโภชนาการ ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสายสุขภาพและธุรกิจอาหาร ทำให้หลายคนสงสัยว่านักโภชนาการตกงานไหม ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว โอกาสในสายงานนี้ยังมีอีกมาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางหรือประสบการณ์ในด้านที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งหากคุณสนใจสมัครงาน นักโภชนาการ สามารถค้นหาตำแหน่งงานที่เหมาะสมได้ผ่าน Jobsdb ที่ได้รวบรวมโอกาสงานจากหลากหลายองค์กรที่กำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการในหลายตำแหน่งในขณะนี้

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

More from this category: เทรนด์งานยอดฮิตและเงินเดือน

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
ท่านได้ยอมรับคำประกาศเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ท่านได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อยินยอมให้ Jobsdb และบริษัทในเครือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถยกเลิกได้ทุกเวลา