ตำแหน่ง Ads Optimizer คืออะไร ผู้ปรับแต่งและพัฒนาคุณภาพโฆษณา

ตำแหน่ง Ads Optimizer คืออะไร ผู้ปรับแต่งและพัฒนาคุณภาพโฆษณา
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 11 April, 2025
Share

Key Takeaway

  • Ads Optimizer คือผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารและปรับแต่งโฆษณาออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยใช้ข้อมูลและกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเพิ่ม ROI
  • รับผิดชอบการวางแผน ตั้งค่า วิเคราะห์ และปรับปรุงแคมเพนโฆษณาบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Facebook Ads, Google Ads และ TikTok Ads
  • ต้องมีทักษะวิเคราะห์ข้อมูล การใช้เครื่องมือโฆษณา ความเข้าใจ Digital Marketing รวมถึงความคิดสร้างสรรค์และการจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ

Ads Optimizer หรือ "ผู้ปรับแต่งและพัฒนาคุณภาพโฆษณา" เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัลที่มีหน้าที่เปลี่ยนแคมเพนโฆษณาธรรมดาให้กลายเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงในการสร้างผลลัพธ์ Ads Optimizer ไม่เพียงแต่เข้าใจกลไกการทำงานของแพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์เท่านั้น แต่ยังมีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ปรับแต่งกลยุทธ์ และค้นหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเพนให้ดีที่สุด

ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ Ad คือ ตําแหน่งอะไร เจาะลึกถึงบทบาทหน้าที่ ทักษะที่จำเป็น และเครื่องมือที่ Ads Optimizer ใช้ในการสร้างสรรค์แคมเพนโฆษณาที่ประสบความสำเร็จ พร้อมทำความเข้าใจว่าทำไมตำแหน่งนี้จึงเป็นที่ต้องการอย่างมากในยุคดิจิทัลปัจจุบัน

Ads Optimizer คืองานอะไร?

Ads Optimizer คืองานอะไร?

Ads Optimizer เป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการ วิเคราะห์ ปรับแต่ง และเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ และช่วยให้ธุรกิจได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) สูงสุด ซึ่ง Optimize Ads คือการอาศัยทั้งทักษะการวิเคราะห์ วางแผน และความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้โฆษณาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

หน้าที่สำคัญของ Ads Optimizer

หน้าที่สำคัญของ Ads Optimizer

Ads Optimizer มีหน้าที่หลักในการบริหารและปรับปรุงแคมเพนโฆษณาออนไลน์ให้ได้ตามเป้าหมาย โดย Ads optimization คือกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูล ปรับแต่งแคมเพน และใช้กลยุทธ์เครื่องมือการตลาดดิจิทัลที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาให้เกิดผลลัพธ์สูงสุด โดยหน้าที่สำคัญ คือ

1. วิเคราะห์ข้อมูลและตัวชี้วัด (KPIs)

การวิเคราะห์ข้อมูลและตัวชี้วัด (Key Performance Indicators: KPIs) เป็นกระบวนการสำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเพนโฆษณาออนไลน์ ช่วยให้ Ads Optimizer สามารถวัดผลลัพธ์ ประเมินความสำเร็จ และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับเป้าหมายของธุรกิจ

2. จัดสรรงบประมาณ

การจัดสรรงบประมาณในแคมเพนโฆษณาเป็นกระบวนการบริหารเงินลงทุนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยต้องกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม กระจายงบประมาณตามประสิทธิภาพของแต่ละช่องทาง และปรับเปลี่ยนงบประมาณตามผลลัพธ์ที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้แคมเพนสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ได้ดีที่สุด

3. ทดสอบและปรับปรุงโฆษณา

การทดสอบและปรับปรุงโฆษณาเป็นกระบวนการที่ช่วยให้แคมเพนมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยใช้การทดสอบ A/B Testing เพื่อตรวจสอบว่าส่วนประกอบใดของโฆษณา เช่น รูปภาพ วิดีโอ ข้อความ หรือกลุ่มเป้าหมาย ให้ผลลัพธ์ดีที่สุด จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงองค์ประกอบต่างๆ เช่น การเปลี่ยนครีเอทีฟ การปรับกลยุทธ์การตั้งค่าโฆษณา หรือการปรับงบประมาณ เพื่อเพิ่มอัตราการมีส่วนร่วม (Engagement Rate) ลดต้นทุนต่อคลิก (CPC) และเพิ่มโอกาสในการเกิด Conversion ให้มากขึ้น

4. วิเคราะห์ Keyword และกำหนดเป้าหมาย

การวิเคราะห์ Keyword และการกำหนดเป้าหมายเป็นขั้นตอนสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาออนไลน์ โดยต้องเลือกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการ ศึกษาปริมาณการค้นหา และวิเคราะห์เจตนาของผู้ใช้งาน (Search Intent) ว่าต้องการข้อมูล เปรียบเทียบ หรือพร้อมซื้อ จากนั้นนำคีย์เวิร์ดไปใช้ในโฆษณา พร้อมกำหนดเป้าหมายกลุ่มลูกค้าให้ตรงกับพฤติกรรมและความสนใจ เช่น การใช้ Exact Match เพื่อเข้าถึงผู้ที่ค้นหาคำตรงตัว หรือ Broad Match เพื่อขยายการเข้าถึง

นอกจากนี้ ยังต้องปรับแต่ง Targeting ด้านพิกัด อายุ เพศ และความสนใจ เพื่อให้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและคุ้มค่าที่สุด

5. ปรับปรุงแคมเพนอยู่เสมอ

การปรับปรุงแคมเพนอยู่เสมอเป็นกระบวนการที่ช่วยให้โฆษณามีประสิทธิภาพสูงสุด โดยต้องวิเคราะห์ข้อมูลจากตัวชี้วัด (KPIs) เช่น CTR (Click-Through Rate), CPC (Cost per Click), Conversion Rate และ ROAS (Return on Ad Spend) เพื่อระบุจุดที่ต้องแก้ไข จากนั้นปรับเปลี่ยนองค์ประกอบต่างๆ เช่น การทดสอบ A/B Testing กับครีเอทีฟโฆษณา ปรับ Targeting ให้แม่นยำขึ้น เพิ่มงบประมาณให้กับโฆษณาที่ได้ผลลัพธ์ดี และลดงบในส่วนที่ไม่คุ้มค่า

นอกจากนี้ ควรติดตามการเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึมแพลตฟอร์มและแนวโน้มตลาด เพื่อนำมาปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายอยู่เสมอ

ทักษะหลักที่ Ads Optimizer ควรมีเพื่อเพิ่มผลลัพธ์โฆษณา

ทักษะหลักที่ Ads Optimizer ควรมีเพื่อเพิ่มผลลัพธ์โฆษณา 

Ads Optimizer ต้องมีทั้ง Hard Skills และ Soft Skills ที่เป็นทักษะที่จำเป็นในงาน Marketing เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ ปรับปรุง และเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทักษะสำคัญที่ช่วยให้แคมเพนโฆษณาประสบความสำเร็จ ได้แก่

วิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นทักษะสำคัญของ Ads Optimizer ซึ่งรวมถึงการตีความตัวชี้วัด เช่น CTR, CPC, CPM, Conversion Rate และ ROAS เพื่อนำไปปรับปรุงแคมเพนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะช่วยให้ Ads Optimizer สามารถวัดผลลัพธ์ของโฆษณาได้แม่นยำ ปรับกลยุทธ์ตามข้อมูลจริง ลดต้นทุน และเพิ่ม ROI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มีความรู้ในเรื่อง Digital Marketing

Ads Optimizer จะต้องเข้าใจหลักการตลาดดิจิทัล เช่น SEM (Search Engine Marketing), SEO (Search Engine Optimization), Social Media Marketing และการสร้าง Funnel การตลาด เพราะช่วยให้สามารถเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับแต่ละธุรกิจ วางแผนโฆษณาได้ตรงจุด และสามารถแข่งขันในตลาดออนไลน์ได้ดีขึ้น

เข้าใจในแพลตฟอร์มโฆษณา

นักการตลาดต้องรู้จักแพลตฟอร์มโฆษณาต่าง ๆ เช่น Facebook Ads, Google Ads, TikTok Ads, YouTube Ads รวมถึงอัลกอริทึมและฟีเจอร์ที่ใช้ในการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย เพราะแต่ละแพลตฟอร์มมีข้อดีและข้อจำกัดต่างกัน หากเข้าใจแพลตฟอร์มได้ดี ก็จะสามารถเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมและเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาได้

ใช้เครื่องมือวิเคราะห์เป็น

การใช้เครื่องมือ เช่น Google Analytics, Facebook Pixel, UTM Tracking หรือ Google Tag Manager ช่วยให้ Ads Optimizer สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากแคมเพนได้อย่างแม่นยำ เพราะข้อมูลที่แม่นยำช่วยให้สามารถวางแผนและปรับกลยุทธ์โฆษณาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และเพิ่ม Conversion Rate ได้ด้วย

ทักษะในการจัดการงบประมาณ

Ads Optimizer ต้องสามารถกำหนดงบประมาณโฆษณาให้เหมาะสม กระจายเงินลงทุนไปยังแคมเพนที่มีศักยภาพ และปรับงบประมาณตามผลลัพธ์ที่ได้รับ เพราะการจัดการงบประมาณที่ดีช่วยให้สามารถใช้เงินโฆษณาได้อย่างคุ้มค่า ลดต้นทุนต่อ Conversion และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI)

สื่อสารได้อย่างชัดเจน

สามารถอธิบายผลลัพธ์ของโฆษณาให้กับทีม หรือลูกค้าเข้าใจได้อย่างชัดเจน รวมถึงการสื่อสารกับทีมกราฟิกและคอนเทนต์เพื่อสร้างโฆษณาที่มีประสิทธิภาพ เพราะช่วยให้การทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาด และทำให้การปรับปรุงแคมเพนเป็นไปอย่างราบรื่น

มีความคิดสร้างสรรค์

มีความคิดครีเอทีฟโฆษณาที่โดดเด่น เพื่อดึงดูดความสนใจ และกระตุ้นการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมาย เพราะโฆษณาที่มีเอกลักษณ์และสร้างสรรค์ช่วยเพิ่ม Engagement ลด Ad Fatigue และทำให้แคมเปญมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

ปรับตัวอยู่ตลอดเวลา

มีการติดตามการเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึมโฆษณา เทรนด์ตลาด และพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม เพราะแพลตฟอร์มโฆษณามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หากไม่ปรับตัว อาจทำให้โฆษณาไม่มีประสิทธิภาพและสูญเสียโอกาสทางธุรกิจได้

สามารถทำงานเป็นทีมได้

สามารถทำงานร่วมกับทีมกราฟิก ทีมคอนเทนต์ และฝ่ายการตลาดเพื่อพัฒนาแคมเพนให้ประสบความสำเร็จ เพราะการทำงานเป็นทีมช่วยให้สามารถสร้างโฆษณาที่สื่อสารตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ปรับปรุงแคมเพนให้มีประสิทธิภาพ และลดข้อผิดพลาดในการดำเนินงาน

เงินเดือนของตำแหน่ง Ads Optimizer

เงินเดือนของตำแหน่ง Ads Optimizer 

เงินเดือนของ Ads Optimizer อยู่ในช่วงประมาณ 20,000 - 60,000 บาทต่อเดือน โดยขึ้นอยู่กับระดับประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และขนาดขององค์กรที่ทำงานด้วย เช่น

  • ระดับเริ่มต้น (Junior Level) 20,000 - 30,000 บาท
    • มีประสบการณ์ 0-2 ปี
    • ดูแลแคมเพนโฆษณาเบื้องต้น ตั้งค่าและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน
    • ทำงานภายใต้คำแนะนำของ Ads Manager หรือทีมการตลาด
  • ระดับกลาง (Mid-Level) 30,000 - 45,000 บาท
    • มีประสบการณ์ 2-5 ปี
    • วางแผนและบริหารแคมเพนโฆษณาด้วยตนเอง
    • วิเคราะห์และปรับกลยุทธ์โฆษณาให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • ระดับสูง (Senior Level) 45,000 - 60,000 บาทขึ้นไป
    • มีประสบการณ์ 5 ปีขึ้นไป
    • ควบคุมงบประมาณโฆษณาในระดับสูง วางกลยุทธ์และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
    • อาจมีบทบาทในการบริหารทีม Ads Optimizer หรือให้คำปรึกษากับองค์กร

อัตราเงินเดือนอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ ขนาดบริษัท และแพลตฟอร์มที่ต้องดูแล และตำแหน่งนี้สามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมจากค่าคอมมิชชันหรือโบนัสตามผลลัพธ์ของแคมเพนได้ในบางองค์กร

แนวโน้มในอนาคตของตำแหน่ง Ads Optimizer

แนวโน้มในอนาคตของตำแหน่ง Ads Optimizer 

ธุรกิจต่างๆ กำลังให้ความสำคัญกับการใช้โฆษณาออนไลน์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ส่งผลให้ตำแหน่ง Ads Optimizer ยังคงเป็นที่ต้องการสูง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ๆ ตามแนวโน้มของตลาด ดังนี้

1. ตลาดดิจิทัลที่เติบโตขึ้น

  • การซื้อสินค้าและบริการผ่าน E-commerce, Social Commerce และ Marketplace เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ธุรกิจต่างๆ ต้องแข่งขันกันมากขึ้นในการทำโฆษณา
  • งบโฆษณาดิจิทัลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มอย่าง Facebook, Google, TikTok และ YouTube
  • Ads Optimizer ต้องปรับตัวให้สามารถวางกลยุทธ์ที่คุ้มค่า และช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2. มีเทคโนโลยีและเครื่องมือที่ซับซ้อน

  • การใช้ AI และ Machine Learning ในโฆษณา เช่น Google Performance Max, Facebook Advantage+ ทำให้ระบบอัตโนมัติสามารถเรียนรู้และปรับโฆษณาได้เอง
  • Ads Optimizer ต้องเรียนรู้การใช้ Automation Tools, Data Analytics Software และ AI-driven Optimization เพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและบริหารแคมเพน
  • ความสามารถในการใช้ Google Analytics 4 (GA4), Facebook Pixel, Conversion API และ CDP (Customer Data Platform) จะกลายเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้น

3. เทรนด์และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

  • ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับ Privacy & Data Protection มากขึ้น เช่น การยกเลิก Third-Party Cookies ทำให้การกำหนดเป้าหมายแบบเดิมๆ เปลี่ยนไป
  • แนวโน้ม Short-form Video Ads (โฆษณาวิดีโอสั้น) และ Interactive Ads (โฆษณาที่มีปฏิสัมพันธ์) บนแพลตฟอร์มอย่าง TikTok, Instagram Reels และ YouTube Shorts กำลังมาแรง
  • Ads Optimizer ต้องติดตามเทรนด์ใหม่ๆ และปรับกลยุทธ์ให้เหมาะกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

สรุป

Ads Optimizer เป็นตำแหน่งที่มีบทบาทสำคัญในการบริหารและเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาออนไลน์ โดยต้องมีทักษะทั้งวิเคราะห์ข้อมูล วางกลยุทธ์โฆษณา จัดสรรงบประมาณ และใช้เครื่องมือดิจิทัลได้อย่างเชี่ยวชาญ แนวโน้มในอนาคตของตำแหน่ง Ads Optimizer ยังคงเติบโตจากการขยายตัวของตลาดดิจิทัล การใช้ AI และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ หากคุณกำลังมองหาโอกาสในสายงานนี้ สามารถสมัครงาน ตำแหน่งงาน Ads Optimizer บน Jobsdb เพื่อค้นหางานที่ตรงกับทักษะและเป้าหมายของคุณได้ง่ายขึ้น

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

More from this category: เทรนด์งานยอดฮิตและเงินเดือน

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
ท่านได้ยอมรับคำประกาศเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ท่านได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อยินยอมให้ Jobsdb และบริษัทในเครือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถยกเลิกได้ทุกเวลา