ทักษะที่จำเป็นสำหรับ Data Analysis คือทักษะด้านเทคนิค เช่น Excel, SQL, Python การใช้เครื่องมือ Visualization ควบคู่กับทักษะสถิติ การตีความธุรกิจ และการสื่อสารผลลัพธ์ให้เข้าใจง่าย
การใช้ Data Analysis ในยุคดิจิทัลนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลายในทุกๆ สายอาชีพ ทั้งในธุรกิจและการตลาด การเงินและบัญชี เทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ สาธารณสุข งานวิจัย รวมถึงด้านโลจิสติกส์ การศึกษา และทรัพยากรบุคคล
เรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะ Data Analysis ได้จากทำความเข้าใจพื้นฐาน ฝึกใช้เครื่องมือที่สำคัญ เช่น Excel หรือ SQL จากนั้นฝึก Data Cleaning การวิเคราะห์เชิงสำรวจ ตีความและนำเสนอผล พร้อมต่อยอดด้วยสถิติขั้นสูงและ Machine Learning ผ่านการทำโปรเจกต์จริง
ทุกวันนี้พนักงานในทุกสายงานไม่ได้ทำงานเพียงแค่ตามหน้าที่ แต่ต้องเผชิญกับข้อมูลจำนวนมากที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นยอดขายของทีม ความพึงพอใจของลูกค้า หรือแม้แต่ข้อมูลการทำงานภายในองค์กร การเข้าใจ Data Analysis จึงไม่ใช่ทักษะสำหรับเฉพาะสายงาน Data Analyst อีกต่อไป บทความนี้พาไปรู้จักว่า Data Analysis คืออะไร สำคัญต่อการทำงานอย่างไร และทักษะใดบ้างที่พนักงานยุคใหม่ควรพัฒนา
Data Analysis คือกระบวนการนำข้อมูลที่มีอยู่มาจัดระเบียบ ตรวจสอบ และตีความ เพื่อนำไปใช้ในการตัดสินใจหรือวางกลยุทธ์ โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่ทุกองค์กรเก็บข้อมูลจำนวนมาก ชาวออฟฟิศจึงควรเข้าใจการใช้ Data Analysis เพราะไม่ว่าจะทำงานในสายธุรกิจ การตลาด ทรัพยากรบุคคล หรือฝ่ายปฏิบัติการ การวิเคราะห์ข้อมูลช่วยให้ทำงานอย่างมีเหตุผล ลดความเสี่ยงในการตัดสินใจ และเพิ่มประสิทธิภาพของงานได้
การใช้ Data Analysis มีความสำคัญอย่างยิ่งในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลกลายเป็นหัวใจหลักของการขับเคลื่อนองค์กร เพราะการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ช่วยให้องค์กรตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยง และปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า สำหรับโลกการทำงานในยุคดิจิทัล Data Analysis ถือเป็นทักษะที่หลายสายอาชีพต้องการ เพราะช่วยให้การทำงานตรวจสอบได้ วัดผลได้จริง และสร้างความโปร่งใส
ขณะเดียวกันสำหรับพนักงาน การเข้าใจและประยุกต์ใช้ Data Analysis ทำให้สามารถทำงานอย่างมีเหตุผล มีหลักฐานข้อมูลสนับสนุนข้อเสนอ ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ เสริมคุณค่าในการทำงาน และยังเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยต่อยอดโอกาสความก้าวหน้าในสายอาชีพในอนาคตได้อย่างมั่นคง
ในสายงาน Data Analyst หน้าที่หลักคือการเก็บรวบรวม จัดระเบียบ และวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อเปลี่ยนข้อมูลดิบให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึกที่ธุรกิจสามารถนำไปใช้ตัดสินใจได้ ต้องทำงานกับฐานข้อมูล สร้างรายงานหรือแดชบอร์ด ใช้เครื่องมือทางสถิติและซอฟต์แวร์วิเคราะห์ พร้อมทั้งแปลผลออกมาให้ง่ายต่อการเข้าใจของผู้บริหารหรือทีมงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยให้การวางกลยุทธ์และการแก้ปัญหามีประสิทธิภาพมากขึ้น
ซึ่งในยุคที่ข้อมูลกลายเป็นทรัพยากรสำคัญของทุกองค์กร การทำงานในสาย Data Analysts จึงไม่ได้อาศัยเพียงแค่ความรู้ด้านตัวเลขเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยทักษะหลากหลายด้าน เพื่อให้สามารถดึงคุณค่าที่แท้จริงจากข้อมูลออกมาและสื่อสารต่อได้อย่างเข้าใจง่าย โดยอาศัยทักษะเสริมดังนี้
ทักษะด้านเทคนิคเป็นพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้สามารถจัดการและประมวลผลข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้ Excel, SQL, Python หรือ R ในการจัดการข้อมูล รวมถึงความสามารถในการใช้เครื่องมือ Data Visualization อย่าง Power BI หรือ Tableau เพื่อทำให้ข้อมูลเข้าใจง่ายและนำไปใช้ได้จริง
ทักษะด้านสถิติและการวิเคราะห์คือการเข้าใจหลักการทางสถิติ การทดสอบสมมติฐาน การหาความสัมพันธ์ของข้อมูล และการใช้โมเดลวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ เพื่อดึงสาระสำคัญออกจากข้อมูลที่ซับซ้อนและช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผล
การเข้าใจบริบทและเป้าหมายของธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแม้ว่าจะมีข้อมูลจำนวนมาก แต่หากไม่รู้ว่าธุรกิจต้องการแก้ปัญหาอะไรหรือมุ่งหวังผลลัพธ์แบบไหน ก็จะไม่สามารถวิเคราะห์ได้ตรงประเด็น การมีความรู้ด้านธุรกิจช่วยให้การวิเคราะห์เชื่อมโยงกับกลยุทธ์ขององค์กรได้จริง
การวิเคราะห์ข้อมูลที่ดีไม่ได้จบแค่การได้ผลลัพธ์ แต่ต้องสามารถสื่อสารให้ผู้บริหารหรือทีมงานเข้าใจได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องด้วยข้อมูล การทำรายงาน หรือการนำเสนอผลลัพธ์เชิงภาพ เพื่อให้เกิดการนำไปใช้จริง
ทักษะเสริมอื่นๆ ที่มีประโยชน์ ได้แก่ ความสามารถในการคิดเชิงวิพากษ์ การแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกับทีมข้ามสายงาน รวมถึงความเข้าใจเบื้องต้นด้าน AI และ Machine Learning ซึ่งช่วยต่อยอดการวิเคราะห์ข้อมูลให้ทันสมัยและลึกซึ้งยิ่งขึ้น
Data Analysis กลายเป็นทักษะสำคัญที่ใช้ได้แทบทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การเงิน หรือแม้กระทั่งการแพทย์ เพราะข้อมูลถูกเก็บในปริมาณมหาศาล การนำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์ช่วยให้องค์กรตัดสินใจแม่นยำและแข่งขันได้ดียิ่งขึ้น แล้วสายงาน Data Analysis ตัวอย่างอาชีพมีอะไรบ้าง ไปดูกัน!
นักวิเคราะห์การตลาดใช้ข้อมูลลูกค้า ยอดขาย และพฤติกรรมการซื้อ เพื่อนำมาวิเคราะห์หาข้อมูลเชิงลึก เช่น กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย กลยุทธ์การโปรโมตที่ได้ผล หรือแนวโน้มตลาด ทำให้องค์กรเพิ่มยอดขายและสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน
สาย Product และ Tech ใช้ข้อมูลเพื่อเข้าใจผู้ใช้งานและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เช่น Product Manager วิเคราะห์ฟีเจอร์ที่ได้รับความนิยม Data Scientist พัฒนาระบบแนะนำสินค้า (Recommendation System) หรือ UX Researcher ศึกษาพฤติกรรมการใช้งาน เพื่อทำให้สินค้าและบริการตอบโจทย์ความต้องการของตลาดมากที่สุด
ในวงการการเงิน ข้อมูลช่วยให้นักวิเคราะห์การเงินและนักลงทุนตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น เช่น ใช้การวิเคราะห์แนวโน้มตลาด การประเมินงบการเงิน คาดการณ์กำไร-ขาดทุน หรือแม้กระทั่งการตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติ ส่วนในสายบัญชี Data Analysis ยังช่วยตรวจสอบความถูกต้องและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
บุคลากรด้านสุขภาพและนักวิจัยนำข้อมูลมาใช้เพื่อติดตามผลการรักษา วิเคราะห์การแพร่ระบาดของโรค พัฒนายาและวัคซีนใหม่ รวมถึงการทำการทดลองทางคลินิก ตัวอย่างเช่น Data Analyst ในโรงพยาบาลใช้ข้อมูลเพื่อลดเวลารอคิวผู้ป่วย หรือ Research Analyst ใช้ข้อมูลเพื่อหาความสัมพันธ์ของปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน
ในอุตสาหกรรมการผลิตและขนส่ง Data Analysis มีบทบาทสำคัญ เช่น การพยากรณ์ความต้องการสินค้า (Demand Forecasting) การจัดการคลังสินค้า การเพิ่มประสิทธิภาพเส้นทางขนส่ง และการควบคุมต้นทุน ตัวอย่างเช่น Supply Chain Analyst ใช้ข้อมูลเพื่อป้องกันการขาดสต๊อก หรือปรับแผนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการจริง
นอกจากสายหลัก ยังมีอีกหลายอาชีพที่ใช้ Data Analysis เช่น
การศึกษา (Education) วิเคราะห์ประสิทธิภาพหลักสูตรและผลการเรียนของนักเรียน
ภาครัฐ (Government) วิเคราะห์ข้อมูลเชิงนโยบายและวางแผนบริการสาธารณะ
กีฬา (Sports Analytics) ใช้สถิติการแข่งเพื่อพัฒนาศักยภาพนักกีฬา
ทรัพยากรบุคคล (HR Analytics) ใช้ข้อมูลเพื่อปรับปรุงการสรรหา พัฒนา และรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กร
โดยทั่วไปแล้วสายงาน Data Analyst ที่มีทักษะ Data Analysis เงินเดือนโดยเฉลี่ยในประเทศไทยจะอยู่ที่ประมาณ 25,000 - 45,000 บาทต่อเดือนสำหรับตำแหน่งเริ่มต้นจนถึงระดับกลาง ซึ่งตัวเลขนี้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประสบการณ์ ทักษะเฉพาะทาง เช่น การใช้โปรแกรม SQL, Python หรือ R ขนาดและประเภทของบริษัท รวมถึงอุตสาหกรรมที่ทำงานด้วย สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์สูงหรือมีทักษะเฉพาะทางที่หายาก เงินเดือนอาจสูงขึ้นไปได้ถึง 50,000 บาทหรือมากกว่านั้น
หากชาวออฟฟิศคนไหนอยากพัฒนาทักษะด้าน Data Analysis ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากความรู้ลึกซึ้งทันที แต่สามารถเรียนรู้เป็นลำดับขั้นตอน เพื่อให้เข้าใจและประยุกต์ใช้ได้จริง โดยแนะนำแนวทางดังนี้
ทำความเข้าใจพื้นฐานของ Data Analysis เริ่มจากการรู้จักความหมาย บทบาท และประเภทของการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อวางรากฐานที่ถูกต้อง
เรียนรู้เครื่องมือพื้นฐาน เช่น Excel, SQL, Python, R หรือ Power BI ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในงานจริง
ฝึกการทำ Data Cleaning และ Data Wrangling เพราะข้อมูลดิบมักไม่สมบูรณ์ ต้องรู้วิธีลบ คัดกรอง และปรับรูปแบบให้พร้อมต่อการวิเคราะห์
เรียนรู้การวิเคราะห์เชิงสำรวจ (Exploratory Data Analysis) ฝึกใช้สถิติพื้นฐานและ Visualization เพื่อค้นหารูปแบบ แนวโน้ม และความสัมพันธ์เบื้องต้นในข้อมูล
ฝึกการตีความผลและทำรายงาน เน้นการเล่าเรื่องด้วยข้อมูล และนำเสนอผลการวิเคราะห์อย่างเข้าใจง่ายสำหรับผู้ที่ไม่ใช่นักเทคนิค
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสถิติและ Machine Learning (สำหรับขั้นสูง) เพื่อสร้างแบบจำลองที่ซับซ้อนและคาดการณ์อนาคตได้แม่นยำยิ่งขึ้น
ฝึกปฏิบัติจริง ลงมือทำโปรเจกต์เล็กๆ จากข้อมูลจริง เช่น Kaggle หรือ DataSet สาธารณะ เพื่อสร้างประสบการณ์และ Portfolio
Data Analysis คือกระบวนการนำข้อมูลมาจัดระเบียบ ตรวจสอบ และตีความเพื่อช่วยในการตัดสินใจและวางกลยุทธ์ โดยในยุคดิจิทัลนี้ Data Analysis ถือเป็นอีกหนึ่งทักษะที่ควรมีติดตัวไว้ เพราะช่วยให้การตัดสินใจมีเหตุผล ลดความเสี่ยง และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การทำงานในสาย Data Analyst ไม่ได้อาศัยแค่ความรู้เชิงเทคนิคแต่ยังต้องมีทักษะด้านอื่นๆ ด้วย เช่น ความสามารถด้านสถิติ การเข้าใจบริบททางธุรกิจ การสื่อสารข้อมูลที่ซับซ้อนให้เข้าใจง่าย และการคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ
โดยสายอาชีพที่ใช้ Data Analysis ครอบคลุมหลายวงการ ตั้งแต่ธุรกิจและการตลาด การเงิน การแพทย์ ไปจนถึงโลจิสติกส์ หากพนักงานคนไหนที่อยากพัฒนาทักษะนี้สามารถทำได้โดยเริ่มจากพื้นฐาน เรียนรู้เครื่องมือสำคัญอย่าง Excel, SQL หรือ Python การฝึกทำโปรเจกต์จริง เรียนรู้การวิเคราะห์เชิงสำรวจ หรือฝึกตีความก็ช่วยได้มากในการเริ่มต้นเรียนรู้สู่เส้นทาง Data Analyst
หากคุณอยากก้าวเข้าสู่สายงาน Data Analyst หรือสายอาชีพอื่นๆ ที่ตอบโจทย์เป้าหมายชีวิต อย่าลืมหางานผ่าน Jobsdb แพลตฟอร์มหางานที่รวบรวมตำแหน่งงานหลากหลายสาขา พร้อมพาคุณไปเจองานที่ใช่ และเส้นทางอาชีพที่ก้าวหน้า!
Data Visualization ด้วยเครื่องมือ Power BI คืออะไร ใช้งานอย่างไร?
สูตร Excel เบื้องต้น เพื่อความสะดวกในการวิเคราะห์และจัดการข้อมูล
รวม 25 AI Tools เครื่องมืออัจฉริยะ ตัวช่วยทำงาน ที่ชาวออฟฟิศควรรู้!
หลายคนที่สนใจสายงาน Data Analysis มักมีข้อสงสัยตั้งแต่ความหมาย ความแตกต่างกับสายอื่น ไปจนถึงทักษะและโอกาสในตลาดแรงงาน มาลองดูคำถามที่พบบ่อยกัน!
Data Analysis เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาความหมายและช่วยตัดสินใจ ส่วน Data Science ครอบคลุมกว่านั้น โดยรวมถึงการสร้างโมเดลเชิงลึก การทำ Machine Learning และการพัฒนาระบบอัตโนมัติด้วยข้อมูล
ควรรู้พื้นฐานสถิติ การใช้ Excel หรือ SQL สำหรับจัดการข้อมูล และเรียนรู้การทำ Visualization เพื่อเล่าเรื่องด้วยข้อมูล รวมถึงเข้าใจการทำ Data Cleaning เบื้องต้น
ภาษาหลักที่นิยมใช้คือ Python และ R สำหรับการวิเคราะห์และทำโมเดล รวมถึง SQL สำหรับดึงและจัดการข้อมูล นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือเสริมอย่าง Power BI และ Tableau
ปัจจุบันเป็นหนึ่งในสายงานที่องค์กรทุกอุตสาหกรรมต้องการ เพราะข้อมูลกลายเป็นทรัพยากรสำคัญในการตัดสินใจ โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย Data