ร้อนในบ่อยๆ รักษาไม่หาย อย่านิ่งนอนใจ! อาจต้องไปพบแพทย์

ร้อนในบ่อยๆ รักษาไม่หาย อย่านิ่งนอนใจ! อาจต้องไปพบแพทย์
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 03 November, 2025
Share

  • ร้อนในคือแผลเล็กๆ ในช่องปาก สีขาวหรือเหลือง ขอบแดง เจ็บหรือแสบร้อนขณะพูด เคี้ยว หรือกลืนอาหาร ส่วนใหญ่ไม่อันตรายและมักหายเองภายใน 7–14 วัน

  • ร้อนในเกิดจากภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ความเครียด การบาดเจ็บในช่องปาก การขาดสารอาหาร หรือปัจจัยพันธุกรรม อาการเริ่มต้นมักมีแสบร้อนหรือคันก่อนแผลขึ้น และบางรายอาจมีบวมหรือไข้เล็กน้อย

  • แก้ร้อนในด้วยตัวเองง่ายๆ ด้วยการกลั้วปากน้ำเกลือ ทายาเฉพาะที่ หลีกเลี่ยงอาหารระคายเคือง ดื่มน้ำเพียงพอ และพักผ่อนให้เพียงพอ

  • ร้อนในเกิดซ้ำบ่อยอาจสะท้อนปัญหาสุขภาพ เช่น ขาดสารอาหาร โลหิตจาง การติดเชื้อรุนแรง โรคทางเดินอาหาร โรคเบาหวาน โรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง หรือแม้แต่มะเร็งในช่องปาก

ร้อนในบ่อยๆ รักษาไม่หายอย่านิ่งนอนใจ! เพราะแม้ว่าแผลร้อนในส่วนใหญ่จะหายได้เองภายในไม่กี่วัน แต่หากคุณมีอาการซ้ำๆ ถี่ขึ้นเรื่อยๆ หรือแผลร้อนในมีขนาดใหญ่ เจ็บมากกว่าปกติ หรือใช้เวลานานเกิน 2 สัปดาห์ก็ยังไม่หาย นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายกำลังมีปัญหา หรือเป็นอาการร่วมของโรคบางชนิดที่ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์อย่างละเอียดเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว

ร้อนในคืออะไร? ทำไมจึงเกิดขึ้นได้บ่อย

ร้อนในคืออะไร? ทำไมจึงเกิดขึ้นได้บ่อย

ร้อนใน หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่าแผลร้อนใน (Aphthous Ulcer) คือแผลเล็กๆ ภายในช่องปากที่มักมีลักษณะเป็นวงกลมหรือวงรี สีขาวนวลหรือเหลือง โดยรอบแผลมักมีขอบสีแดง ทำให้รู้สึกเจ็บหรือระคายเคืองขณะพูด เคี้ยว หรือกลืนอาหาร

แผลร้อนในสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายตำแหน่ง ได้แก่

  • ด้านในกระพุ้งแก้ม

  • ริมฝีปากด้านใน

  • ลิ้น

  • เหงือก

  • เพดานปาก

โดยทั่วไป แผลร้อนในจะไม่อันตรายและสามารถหายได้เองภายใน 7–14 วัน แต่หลายคนมักเกิดซ้ำได้บ่อย เนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง อย่างไรก็ตาม หากร้อนในเกิดบ่อยหรือใช้เวลานานเกิน 2 สัปดาห์โดยไม่หาย ควรสังเกตและปรึกษาแพทย์ เพราะอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพอื่นที่ซ่อนอยู่ได้

อาการร้อนในที่พบบ่อยๆ

ร้อนในมีอาการเจ็บปวดหรือแสบร้อน แผลร้อนในมักมีขนาดไม่เกิน 1 เซนติเมตรในกรณีทั่วไป แต่บางครั้งก็อาจใหญ่กว่านั้นได้ ร้อนในมักเกิดเพียงครั้งละ 1–5 แผล นอกจากความเจ็บปวดที่ชัดเจนแล้ว ในบางคนอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น

  • รู้สึกแสบร้อนหรือคันบริเวณที่จะเกิดแผลก่อนแผลขึ้น

  • บางรายอาจมี อาการบวมเล็กน้อยของเนื้อเยื่อรอบแผล

  • รู้สึกไม่สบายทั่วไปหรือมีไข้เล็กน้อยในกรณีที่ร้อนในเกิดบ่อยหรือรุนแรง

เช็กสาเหตุของการเกิดแผลร้อนใน

เช็กสาเหตุของการเกิดแผลร้อนใน

ร้อนในเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งจากร่างกาย ภูมิคุ้มกัน และพฤติกรรมบางอย่าง การเข้าใจสาเหตุจะช่วยให้ป้องกันและดูแลตัวเองได้ดียิ่งขึ้น

  • ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำ ทำให้เยื่อบุในช่องปากไวต่อการอักเสบ

  • ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเหนื่อยล้าและความเครียดส่งผลให้แผลร้อนในเกิดบ่อยขึ้น

  • การบาดเจ็บหรือระคายเคืองในช่องปาก เช่น การกัดกระพุ้งแก้ม แปรงฟันแรงเกินไป หรือใส่เครื่องมือจัดฟัน

  • การขาดสารอาหาร โดยเฉพาะวิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก และโฟเลต ที่จำเป็นต่อสุขภาพเยื่อบุช่องปาก

  • ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ผู้หญิงบางรายอาจมีแผลร้อนในมากขึ้นช่วงมีรอบเดือน

  • ปัจจัยพันธุกรรม หากคนในครอบครัวเคยมีประวัติร้อนใน อาจมีโอกาสเกิดซ้ำสูงขึ้น

  • ปฏิกิริยาต่ออาหารบางชนิด เช่น อาหารรสจัด ของเปรี้ยว หรือถั่วบางชนิด

เป็นร้อนในซ้ำๆ ผิดปกติไหม?

แผลร้อนในมักหายได้และเกิดขึ้นไม่บ่อย แต่หากสังเกตเห็นว่าเกิดซ้ำบ่อยขึ้น หรือใช้เวลานานกว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังมีความผิดปกติบางอย่าง ไปดูกันว่ามีข้อสังเกตอาการอะไรบ้าง

ร้อนในเดือนละหลายครั้ง

หากร้อนในเกิดขึ้นเดือนละหลายครั้งหรือบ่อยกว่า 3–4 ครั้งต่อเดือน นั่นอาจไม่ใช่เรื่องปกติ แม้ว่ายังไม่ถึงขั้นรุนแรง แต่ร่างกายอาจกำลังส่งสัญญาณว่าภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือขาดสารอาหารบางชนิด การสังเกตความถี่และบันทึกอาการจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยสาเหตุได้แม่นยำยิ่งขึ้น

อาการที่อาจไม่ใช่แค่ร้อนในธรรมดา

บางครั้งแผลในช่องปากอาจดูเหมือนร้อนใน แต่จริงๆ แล้วอาจเป็นสัญญาณของโรคอื่น เช่น การติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส โรคภูมิคุ้มกันบางชนิด หรือปัญหาสุขภาพภายในร่างกาย หากแผลมีลักษณะขนาดใหญ่กว่าปกติ เจ็บมากผิดปกติ มีเลือดออก หรือไม่หายภายใน 2 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์ทันที เพราะอาจจำเป็นต้องตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง

รักษาร้อนในด้วยตัวเองง่ายๆ

วิธีแก้ร้อนในเร่งด่วนด้วยเองตัวเอง มีวิธีง่ายๆ ที่สามารถทำได้ที่บ้าน ดังนี้

  1. ใช้น้ำเกลือล้างปาก ละลายเกลือครึ่งช้อนชากับน้ำอุ่น 1 แก้ว ใช้กลั้วปากวันละ 2–3 ครั้ง จะช่วยลดเชื้อแบคทีเรียและบรรเทาอาการเจ็บ

  2. ทายาเฉพาะที่ ใช้ยาที่มีส่วนผสมของสารลดการอักเสบหรือยาชาเฉพาะที่ เช่น เจลหรือครีมสำหรับแผลร้อนใน เพื่อบรรเทาอาการเจ็บ

  3. หลีกเลี่ยงอาหารระคายเคือง ของรสจัด ของเปรี้ยว ของเค็ม หรืออาหารแข็งที่อาจเสียดสีกับแผล

  4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ รักษาความชุ่มชื้นในช่องปากช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

  5. พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด การนอนหลับเพียงพอและลดความเครียดช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว

  6. รับประทานอาหารเสริมเมื่อจำเป็น หากร้อนในเกิดจากการขาดสารอาหาร อาจพิจารณาวิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก หรือโฟเลตหลังปรึกษาแพทย์

ร้อนในบ่อยๆ สัญญาณเตือนโรคร้ายแรง

ร้อนในบ่อยๆ สัญญาณเตือนโรคร้ายแรง

แม้ร้อนในส่วนใหญ่จะไม่อันตราย แต่ถ้าเกิดบ่อยหรือรักษาไม่หาย อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคหรือภาวะสุขภาพร้ายแรงบางอย่าง การสังเกตอาการร่วมและปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ

ภาวะขาดสารอาหารบางชนิด

ร้อนในเกิดซ้ำอาจเป็นสัญญาณว่าร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็น เช่น วิตามินบี 12 โฟเลต หรือธาตุเหล็ก การขาดสารเหล่านี้ส่งผลให้เยื่อบุในช่องปากไวต่อการอักเสบและเกิดแผลได้ง่าย การปรับอาหารหรือรับประทานอาหารเสริมหลังปรึกษาแพทย์สามารถช่วยลดความถี่ของแผลร้อนในได้

ภาวะโลหิตจาง

ผู้ที่มีภาวะโลหิตจาง โดยเฉพาะจากการขาดธาตุเหล็ก มักมีโอกาสเกิดแผลร้อนในบ่อยขึ้น โลหิตจางทำให้เนื้อเยื่อขาดออกซิเจนเพียงพอ ส่งผลให้เยื่อบุช่องปากอ่อนแอและเกิดการอักเสบง่าย

การติดเชื้อรุนแรงในช่องปาก

บางครั้งร้อนในอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสรุนแรง เช่น เริมในช่องปาก หรือการติดเชื้อฉวยโอกาสในผู้ที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ การสังเกตร่วมกับอาการอื่น เช่น มีตุ่มน้ำพอง บวมแดง หรือมีไข้ ควรพบแพทย์ทันที

โรคทางเดินอาหาร เช่น ลำไส้อักเสบ

โรคทางเดินอาหารบางชนิด เช่น โรคลำไส้อักเสบ (IBD) อาจทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ไม่ดี ส่งผลให้เกิดร้อนในซ้ำบ่อย นอกจากนี้การอักเสบเรื้อรังในร่างกายยังเพิ่มความไวต่อการเกิดแผลในช่องปาก

โรคเบาหวาน

ผู้ป่วยเบาหวานมักมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตง่ายและร่างกายหายจากการอักเสบช้าลง จึงสังเกตร้อนในได้บ่อยและหายช้ากว่าคนปกติ

ผลข้างเคียงจากการรักษา เช่น เคมีบำบัดหรือรังสีบำบัด

ผู้ที่ได้รับเคมีบำบัดหรือรังสีบำบัด มักมีภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้เยื่อบุช่องปากบอบบางและเกิดร้อนในได้ง่าย การดูแลช่องปากอย่างเคร่งครัดและแจ้งแพทย์ถึงอาการแผลเป็นสิ่งสำคัญ

โรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง

บางโรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง เช่น โรค SLE หรือโรค Behçet ทำให้ร่างกายโจมตีเนื้อเยื่อตัวเอง เยื่อบุช่องปากจึงเกิดแผลบ่อยและลุกลามได้

มะเร็งในช่องปาก

แม้พบได้น้อย แต่แผลในช่องปากที่ไม่หายเกิน 2–3 สัปดาห์ หรือมีลักษณะเปลี่ยนสี ขอบแข็ง หรือเลือดออกง่าย อาจเป็นสัญญาณของมะเร็งในช่องปาก การตรวจวินิจฉัยทันทีจะช่วยให้การรักษาได้ผลดีที่สุด

อาการร้อนในแบบไหนต้องไปพบแพทย์

อาการร้อนในแบบไหนต้องไปพบแพทย์

แม้ร้อนในส่วนใหญ่จะไม่อันตราย แต่บางครั้งแผลในช่องปากอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง การสังเกตลักษณะอาการและรู้ว่าเมื่อไรควรไปพบแพทย์จึงเป็นสิ่งสำคัญ

  1. แผลร้อนในเกิดบ่อยหรือซ้ำหลายครั้งต่อเดือน อาจสะท้อนปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันหรือการขาดสารอาหาร

  2. แผลมีขนาดใหญ่หรือเจ็บมากผิดปกติ ร่างกายอาจมีการอักเสบรุนแรงหรือแผลติดเชื้อ

  3. แผลไม่หายภายใน 2 สัปดาห์ อาจเป็นสัญญาณของโรคเรื้อรังหรือมะเร็งในช่องปาก

  4. มีเลือดออกหรือแผลมีขอบแข็งผิดปกติ ควรตรวจเพื่อแยกจากมะเร็งหรือโรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง

  5. มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้ ปวดเมื่อยเนื้อตัว เจ็บคอ หรือบวมต่อมน้ำเหลือง

  6. แผลร้อนในเกิดพร้อมกับปัญหาสุขภาพเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคลำไส้อักเสบ หรือภาวะโลหิตจาง

วิธีป้องกันการเกิดร้อนใน

วิธีป้องกันการเกิดร้อนใน

แม้ร้อนในจะเกิดได้ง่าย แต่การดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีสามารถลดโอกาสเกิดแผลซ้ำและช่วยให้ช่องปากแข็งแรงขึ้นได้

  • รักษาความสะอาดในช่องปาก แปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ใช้ไหมขัดฟัน และบ้วนปากเพื่อลดเชื้อโรค

  • หลีกเลี่ยงอาหารระคายเคือง ของรสจัด ของเปรี้ยว ของเค็ม หรืออาหารแข็งที่เสียดสีกับเยื่อบุช่องปาก

  • ทานอาหารครบหมู่และเพียงพอ เน้นวิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก และโฟเลต เพื่อป้องกันการขาดสารอาหาร

  • ลดความเครียดและพักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับให้เพียงพอและจัดการความเครียดช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน

  • ระวังการบาดเจ็บในช่องปาก แปรงฟันเบาๆ ระวังการกัดกระพุ้งแก้ม หรือเครื่องมือจัดฟัน

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ รักษาความชุ่มชื้นในช่องปากช่วยลดโอกาสเกิดแผล

  • ตรวจสุขภาพประจำปี หากเกิดร้อนในบ่อย การตรวจสุขภาพช่วยวินิจฉัยปัญหาภูมิคุ้มกันหรือโรคเรื้อรัง

สรุป

ร้อนในคือแผลเล็กๆ ในช่องปาก สีขาวหรือเหลือง ขอบแดง ทำให้เจ็บหรือแสบร้อนขณะพูด เคี้ยว หรือกลืนอาหาร มักพบที่กระพุ้งแก้ม ริมฝีปาก ลิ้น เหงือก และเพดานปาก โดยทั่วไปไม่อันตรายและหายเองภายใน 7–14 วัน แต่หากเกิดบ่อยหรือไม่หายควรปรึกษาแพทย์ สาเหตุเกิดจากภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ความเครียด การบาดเจ็บ ช่องปากขาดสารอาหาร หรือปัจจัยพันธุกรรม การดูแลง่ายๆ เช่น กลั้วปากด้วยน้ำเกลือ ทายาเฉพาะที่ หลีกเลี่ยงอาหารระคายเคือง ดื่มน้ำเพียงพอ และพักผ่อนช่วยลดความเจ็บและเร่งการหาย

ถ้าคุณกำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายในชีวิต ลองค้นหางานผ่าน Jobsdb แพลตฟอร์มหางานที่รวมตำแหน่งงานหลากหลายสาขา ให้คุณเข้าถึงโอกาสที่ตรงกับความสามารถและความสนใจได้ง่ายๆ!

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับร้อนใน (FAQ)

ร้อนในเป็นแผลเล็กๆ ในช่องปากที่หลายคนมักเจอบ่อย แม้ว่าส่วนใหญ่จะไม่อันตราย แต่หลายคนก็สงสัยเรื่องสาเหตุ การดูแล และการป้องกัน เรามาดูคำถามยอดนิยมกัน

ร้อนในหายเองได้ไหม?

โดยทั่วไปแผลร้อนในจะหายเองภายใน 7–14 วัน แต่บางครั้งอาจใช้เวลานานกว่านี้ หากเกิดบ่อยหรือไม่หายควรปรึกษาแพทย์

ร้อนในติดต่อหรือแพร่เชื้อได้ไหม?

ร้อนในไม่ใช่โรคติดต่อ ไม่สามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นได้ และไม่ได้เกิดจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียโดยตรง

วิธีแก้ร้อนในเร่งด่วนทำอย่างไร?

สามารถทำได้โดยกลั้วปากด้วยน้ำเกลือ ใช้ยาทาเฉพาะที่ หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของเปรี้ยว ของแข็ง ดื่มน้ำเพียงพอ และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อลดความเจ็บปวดและเร่งการหายของแผล

More from this category: ความอยู่ดีมีสุขในที่ทำงาน

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
ท่านได้ยอมรับคำประกาศเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ท่านได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อยินยอมให้ Jobsdb และบริษัทในเครือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถยกเลิกได้ทุกเวลา