คู่มือคนทำงานยุคใหม่ เลือกโรงพยาบาลประกันสังคม ต้องเช็กอะไรบ้าง?

คู่มือคนทำงานยุคใหม่ เลือกโรงพยาบาลประกันสังคม ต้องเช็กอะไรบ้าง?
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 17 November, 2025
Share
  • โรงพยาบาลประกันสังคมคือโรงพยาบาลคู่สัญญาที่ให้ผู้ประกันตนใช้สิทธิรักษาพยาบาลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ครอบคลุมค่ารักษา ผ่าตัด ฝากครรภ์ วัคซีน และตรวจสุขภาพ ผู้มีสิทธิได้แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 และ 40
  • วิธีตรวจสอบโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคมผ่านเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม แอป SSO Plus หรือ สายด่วน 1506 เพื่อให้แน่ใจว่าโรงพยาบาลสะดวกและรองรับสิทธิได้
  • ก่อนเลือกโรงพยาบาลประกันสังคมใหม่ควรเช็กสิทธิและความครอบคลุม ความสะดวกในการเดินทางและเวลาให้บริการ คุณภาพและประสิทธิภาพการรักษา ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และรีวิวจากผู้ใช้จริง
  • ข้อควรรู้ก่อนเปลี่ยนสิทธิโรงพยาบาลประกันสังคมคือควรแจ้งล่วงหน้า และทำความเข้าใจผลกระทบต่อสิทธิเดิม เช่น การไม่สามารถใช้โรงพยาบาลเดิมได้ และวางแผนการใช้บริการหลังเปลี่ยนให้เหมาะสม

ชีวิตคนทำงานยุคใหม่เต็มไปด้วยตารางงานแน่นๆ และความเร่งรีบ การเลือกโรงพยาบาลประกันสังคมที่สะดวก ใกล้ที่ทำงาน และตอบโจทย์เวลารักษา จึงสำคัญต่อทั้งสุขภาพและการทำงานของคุณ บทความนี้รวบรวมทุกสิ่งที่คนทำงานควรเช็กก่อนตัดสินใจ เลือกโรงพยาบาลอย่างชาญฉลาด ลดเวลารอ ลดปัญหาลาหยุดงานไม่จำเป็น!

โรงพยาบาลประกันสังคมคืออะไร ใครใช้บริการบ้าง

โรงพยาบาลประกันสังคมคืออะไร ใครใช้บริการบ้าง?

โรงพยาบาลประกันสังคม คือโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการกับสำนักงานประกันสังคม เพื่อให้ผู้ประกันตน (คนที่ทำงานและจ่ายเงินสมทบประกันสังคมทุกเดือน) ได้รับสิทธิการรักษาพยาบาลตามกฎหมาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในความคุ้มครองที่กำหนด โรงพยาบาลที่เข้าร่วมอาจเป็นทั้งโรงพยาบาลของรัฐและโรงพยาบาลเอกชนที่ผ่านการคัดเลือกตามมาตรฐานที่กำหนด

ใครมีสิทธิใช้บริการได้บ้าง?

  • ผู้ประกันตนมาตรา 33 (ลูกจ้างที่ทำงานอยู่ในบริษัท องค์กร)
  • ผู้ประกันตนมาตรา 39 (ผู้ที่เคยทำงานในระบบประกันสังคม แล้วสมัครต่อสิทธิเองหลังลาออก)
  • ผู้ประกันตนมาตรา 40 (แรงงานอิสระ หรือฟรีแลนซ์ที่สมัครเข้าร่วมโครงการ) จะมีสิทธิประโยชน์บางส่วนที่ต่างออกไป
  • ครอบครัวหรือบุคคลอื่นที่ไม่ได้เป็นผู้ประกันตนจะไม่สามารถใช้สิทธิแทนได้ สิทธินี้เฉพาะตัวผู้ประกันตนเท่านั้น

การเลือกโรงพยาบาลประกันสังคมเป็นสิ่งสำคัญ และสามารถเปลี่ยนโรงพยาบาลได้ปีละครั้งเท่านั้น (ยกเว้นกรณีเปลี่ยนงานหรือมีเหตุพิเศษ) หากเลือกโรงพยาบาลที่ใกล้บ้านหรือที่ทำงาน จะช่วยให้สะดวกต่อการเดินทางไปพบแพทย์และติดตามการรักษา นอกจากนี้โรงพยาบาลแต่ละแห่งยังมีความเชี่ยวชาญและศักยภาพต่างกัน เช่น บางแห่งมีแพทย์เฉพาะทางครบถ้วน บางแห่งมีเวลารอคิวไม่นาน การเลือกให้ตรงกับความต้องการด้านสุขภาพของตัวเองจึงช่วยให้ได้รับการรักษาที่มีคุณภาพและทันเวลา

วิธีตรวจสอบโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคม

วิธีตรวจสอบโรงพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคม

ก่อนที่ผู้ประกันตนจะตัดสินใจเปลี่ยนและเลือก รพ. ประกันสังคม ควรตรวจสอบรายชื่อโรงพยาบาลในเครือข่ายให้แน่ใจก่อนว่ามีโรงพยาบาลไหนที่สะดวกต่อการเดินทาง เหมาะสมกับความต้องการ และตอบโจทย์ด้านสุขภาพของตัวเองได้มากที่สุด โดยสามารถตรวจสอบได้หลายช่องทาง ดังนี้

  1. ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์สำนักงานประกันสังคม โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ www.sso.go.th
  2. แล้วเลือกเมนู “ตรวจสอบสิทธิ” หรือ “โรงพยาบาลคู่สัญญา” จากนั้นกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประชาชน ก็จะสามารถเช็กได้ว่า สิทธิประกันสังคมปัจจุบันอยู่ที่โรงพยาบาลใด และมีโรงพยาบาลคู่สัญญาในพื้นที่ไหนบ้าง
  3. ตรวจสอบผ่าน แอป SSO Plus ด้วยการติดตั้งแอป ทั้งบน iOS และ Android จากนั้นลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ แอปจะแสดงข้อมูลสิทธิของผู้ประกันตน รวมถึงรายชื่อโรงพยาบาลเครือข่ายประกันสังคมใกล้เคียงที่สามารถเลือกหรือเปลี่ยนได้
  4. ตรวจสอบผ่านสายด่วนสำนักงานประกันสังคมเบอร์ 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จะช่วยตรวจสอบสิทธิและแจ้งรายชื่อโรงพยาบาลในเครือข่ายที่ยังเปิดรับสิทธิให้เลือกได้

เลือกโรงพยาบาลประกันสังคม ต้องเช็กอะไรบ้าง

เลือกโรงพยาบาลประกันสังคม ต้องเช็กอะไรบ้าง?

การเลือกโรงพยาบาลประกันสังคมไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เพราะสิทธิที่เลือกจะใช้ไปตลอดทั้งปี และมีผลโดยตรงต่อความสะดวกสบาย ภาพการรักษาพยาบาล เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับการดูแลที่ตอบโจทย์ ลองเช็กตามหัวข้อต่อไปนี้ก่อนตัดสินใจ

สิทธิและความครอบคลุมของประกันสังคม

ควรตรวจสอบก่อนว่าโรงพยาบาลที่เลือกเป็นโรงพยาบาลคู่สัญญาของสำนักงานประกันสังคมหรือไม่ และมีสิทธิครอบคลุมการรักษาอะไรบ้าง เช่น ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป การตรวจสุขภาพ การผ่าตัด หรือบริการฉุกเฉิน การรู้ขอบเขตสิทธิที่ชัดเจนจะช่วยป้องกันความสับสนเมื่อต้องเข้ารับการรักษาจริง

ความสะดวกในการเดินทางและเวลาให้บริการ

ทำเลที่ตั้งเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อเจ็บป่วยหรือมีนัดตรวจ การเดินทางที่สะดวกและไม่ไกลเกินไปจะช่วยลดภาระและประหยัดเวลา นอกจากนี้ควรตรวจสอบเวลาเปิด-ปิด หรือมีคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการหรือไม่ เพื่อให้สอดคล้องกับตารางชีวิตการทำงาน

ประสิทธิภาพและคุณภาพการบริการ

คุณภาพของโรงพยาบาลสะท้อนจากจำนวนแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ที่เพียงพอ รวมถึงความรวดเร็วในการรับบริการ เช่น เวลารอคิวพบแพทย์ ความพร้อมของเครื่องมือทางการแพทย์ และความชัดเจนในการสื่อสารกับผู้ป่วย โรงพยาบาลที่มีระบบจัดการที่ดี จะช่วยให้การรักษาเป็นไปอย่างราบรื่นและมั่นใจมากขึ้น

ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางและบริการเสริม

หากมีโรคประจำตัวหรือกังวลเรื่องสุขภาพด้านใดด้านหนึ่ง ควรตรวจสอบว่าโรงพยาบาลมีแพทย์เฉพาะทางสาขานั้นๆ หรือไม่ เช่น อายุรกรรม หัวใจ ศัลยกรรม หรือสูตินรีเวช รวมถึงบริการเสริมอื่นๆ เช่น ศูนย์ตรวจสุขภาพ คลินิกวัคซีน หรือคลินิกทันตกรรม เพื่อความสะดวกในการดูแลสุขภาพแบบครบวงจร

พิจารณารีวิวและประสบการณ์จริงจากผู้ที่เคยใช้บริการ

รีวิวและคำบอกเล่าจากคนที่เคยใช้สิทธิจริงช่วยให้เห็นภาพการให้บริการมากขึ้น เช่น การดูแลของบุคลากร การจัดการคิว ความสะอาด และประสบการณ์โดยรวม การฟังข้อมูลจากหลายๆ แหล่งจะช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและตรงกับความต้องการของตัวเอง

วิธีเปลี่ยนสิทธิโรงพยาบาลประกันสังคม

วิธีเปลี่ยนสิทธิโรงพยาบาลประกันสังคม

การเปลี่ยนสิทธิโรงพยาบาลประกันสังคมถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ประกันตนควรรู้ เพราะสิทธิการรักษาจะใช้กับโรงพยาบาลที่เลือกไว้ตลอดทั้งปี โดยปกติสามารถเปลี่ยนได้ ปีละ 1 ครั้ง ช่วงต้นปีที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด เว้นแต่กรณี ย้ายที่ทำงาน หรือ เหตุฉุกเฉินจำเป็น จึงจะสามารถเปลี่ยนสิทธิได้กลางปี ไปดูกันว่ามีวิธีเปลี่ยนสิทธิโรงพยาบาลประกันสังคมกี่วิธี!

เปลี่ยนสิทธิด้วยตัวเองผ่าน เว็บไซต์ประกันสังคม (SSO)

  • เข้าเว็บไซต์ www.sso.go.th เลือกเมนู “บริการออนไลน์”
  • เข้าสู่ระบบด้วยเลขบัตรประชาชนและรหัสผ่าน (หากยังไม่เคยสมัคร ต้องลงทะเบียนก่อน)
  • เลือก “เปลี่ยนสถานพยาบาล” จะมีรายชื่อโรงพยาบาลคู่สัญญาที่เปิดให้เลือกในช่วงนั้น
  • เลือกโรงพยาบาลที่สะดวกและกดยืนยัน ระบบจะบันทึกข้อมูลอัตโนมัติ

เปลี่ยนสิทธิผ่าน แอป SSO Plus

  • ดาวน์โหลดแอป SSO Plus (iOS และ Android) ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบด้วยข้อมูลส่วนตัว
  • ไปที่เมนู “ข้อมูลผู้ประกันตน” หรือ “เปลี่ยนสถานพยาบาล”
  • เลือกโรงพยาบาลคู่สัญญาที่ต้องการจากระบบ
  • กดยืนยัน และจะได้รับข้อความแจ้งผลการเปลี่ยนสิทธิ

เปลี่ยนสิทธิด้วยตัวเองที่ สำนักงานประกันสังคม

ผู้ประกันตนเดินทางไปที่สำนักงานประกันสังคมสาขาใกล้บ้านหรือใกล้ที่ทำงานเพื่อดำเนินการเปลี่ยนสิทธิด้วยตนเอง โดยต้องกรอกแบบฟอร์ม สปส. 9-02 (คำขอเปลี่ยนสถานพยาบาล) และยื่นพร้อมบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูล หากข้อมูลถูกต้อง ครบถ้วน เจ้าหน้าที่จะบันทึกการเปลี่ยนสิทธิให้ทันที

เปลี่ยนสิทธิผ่านนายจ้าง (สำหรับลูกจ้าง)

สำหรับผู้ประกันตนที่ยังทำงานในบริษัทหรือองค์กร การเปลี่ยนสิทธิโรงพยาบาลสามารถทำผ่านนายจ้างได้ โดยแจ้งความประสงค์กับฝ่ายบุคคล (HR) หรือเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องประกันสังคมของบริษัทจะเป็นผู้ดำเนินการยื่นเรื่องผ่านระบบ e-Service ของสำนักงานประกันสังคมแทน สิทธิใหม่จะถูกบันทึกลงในระบบ ซึ่งผู้ประกันตนสามารถเข้าไปเช็กสถานะได้ผ่านเว็บไซต์หรือแอป SSO Plus ได้

เคล็ดลับการใช้สิทธิประโยชน์ให้คุ้มค่า

เคล็ดลับการใช้สิทธิประโยชน์ให้คุ้มค่า

ก่อนจะใช้สิทธิประโยชน์ประกันสังคมให้คุ้มค่า สิ่งสำคัญคือการเข้าใจว่าประกันสังคมครอบคลุมการรักษาและบริการอะไรบ้าง เพื่อจะได้วางแผนใช้สิทธิได้อย่างเหมาะสมและไม่พลาดสิทธิที่ควรได้รับ โดยมีเคล็ดลับดังนี้

  • ตรวจสอบสิทธิ์ก่อนเข้ารับบริการ เช็กว่าปัจจุบันมีสิทธิรักษาที่โรงพยาบาลใด ครอบคลุมบริการอะไรบ้าง เพื่อป้องกันความสับสนหรือค่าใช้จ่ายเกินจำเป็น
  • เลือกโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลเครือข่ายที่สะดวก เลือกโรงพยาบาลที่เดินทางง่าย และถ้ามีเครือข่ายคลินิกหรือโรงพยาบาลสาขาใกล้ที่พักหรือที่ทำงาน ช่วยเพิ่มความสะดวกมากขึ้น
  • นัดหมายล่วงหน้าเมื่อเป็นไปได้ จองคิวหรือทำนัดหมายล่วงหน้าช่วยลดเวลารอ และทำให้มั่นใจว่าจะได้พบแพทย์ตามเวลาที่สะดวก
  • ใช้สิทธิ์ตรวจสุขภาพประจำปี ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับการตรวจสุขภาพฟรีปีละครั้ง ควรใช้สิทธิ์นี้เพื่อตรวจเช็กสุขภาพและป้องกันโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
  • ใช้บริการตามสิทธิ์เฉพาะโรคหรือการรักษา เช่น การฟอกไต การผ่าตัดใหญ่ หรือการดูแลโรคเรื้อรังที่ประกันสังคมครอบคลุม ควรสอบถามรายละเอียดเพื่อใช้สิทธิ์อย่างเต็มที่
  • เก็บใบเสร็จและเอกสารสำคัญ บางกรณีอาจต้องสำรองจ่ายก่อน เช่น ฉุกเฉินแล้วไปโรงพยาบาลนอกเครือข่าย การเก็บหลักฐานจะช่วยให้สามารถเบิกคืนได้ถูกต้อง
  • ปรึกษาเจ้าหน้าที่หรือพยาบาลโรงพยาบาล หากไม่แน่ใจว่าสิทธิครอบคลุมบริการใด ควรถามเจ้าหน้าที่ที่ดูแลประกันสังคมของโรงพยาบาลเพื่อให้ได้ข้อมูลชัดเจน
  • วางแผนล่วงหน้าเรื่องยาหรือการรักษาต่อเนื่อง ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือจำเป็นต้องใช้ยาต่อเนื่อง ควรวางแผนการรับยาและนัดหมายล่วงหน้า เพื่อไม่ให้ขาดยาและต่อเนื่องในการรักษา
  • อัปเดตสิทธิ์เมื่อเปลี่ยนงานหรือเปลี่ยนโรงพยาบาล หากเปลี่ยนที่ทำงานหรืออยากเปลี่ยนโรงพยาบาล ต้องรีบอัปเดตสิทธิ์ให้ทันช่วงที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด เพื่อไม่ให้เสียสิทธิในการรักษา

ข้อควรรู้ก่อนเปลี่ยนสิทธิโรงพยาบาลประกันสังคม

ก่อนจะตัดสินใจเปลี่ยนและเลือกโรงพยาบาลประกันสังคม ควรรู้ข้อมูลสำคัญเพื่อไม่ให้เสียสิทธิหรือเกิดความไม่สะดวกในภายหลัง โดยมีข้อควรรู้ดังนี้

  • แจ้งการเปลี่ยนสิทธิ์ล่วงหน้า ต้องดำเนินการตามช่วงเวลาที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด และควรรีบแจ้งก่อนหมดเขตเพื่อไม่พลาดสิทธิใหม่ที่ต้องการ
  • เข้าใจผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์เดิม เมื่อเปลี่ยนสิทธิแล้ว จะไม่สามารถใช้สิทธิที่โรงพยาบาลเดิมได้อีกทันที จึงควรจัดการเรื่องการรักษาหรือรับยาต่อเนื่องให้เรียบร้อยก่อน
  • วางแผนการใช้บริการหลังเปลี่ยน ตรวจสอบว่าโรงพยาบาลใหม่สะดวกต่อการเดินทาง มีแพทย์เฉพาะทางที่ต้องการ และพร้อมรองรับการรักษาที่จำเป็นต้องใช้บริการ

สรุป

โรงพยาบาลประกันสังคมคือโรงพยาบาลคู่สัญญาที่ให้ผู้ประกันตนมาตรา 33, 39 และ 40 ใช้สิทธิ์รักษาพยาบาลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ครอบคลุมทั้งค่ารักษาพยาบาลทั่วไป ผ่าตัด ฝากครรภ์ วัคซีน และตรวจสุขภาพ ก่อนเลือกโรงพยาบาลประกันสังคมควรตรวจสอบรายชื่อผ่านเว็บไซต์ แอป SSO Plus หรือสายด่วน 1506 เพื่อความสะดวกและตอบโจทย์สุขภาพ การเลือกโรงพยาบาลควรพิจารณาสิทธิ์และความครอบคลุม ความสะดวกในการเดินทาง คุณภาพการบริการ และความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ส่วนการเปลี่ยนสิทธิสามารถทำได้ปีละ 1 ครั้ง ผ่านเว็บไซต์ แอป สำนักงานประกันสังคม หรือผ่านนายจ้างสำหรับลูกจ้าง การวางแผนใช้สิทธิ เช่น นัดหมายล่วงหน้า ตรวจสุขภาพประจำปี และเก็บเอกสารสำคัญ จะช่วยให้คุณใช้สิทธิประโยชน์ได้เต็มที่และสะดวกต่อการรักษา

หากคุณอยากลองเปลี่ยนงาน เพื่อได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ได้ก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ตั้งใจไว้ พร้อมบรรลุเป้าหมายในชีวิต อย่าลืมหางานผ่าน Jobsdb แพลตฟอร์มที่รวมโอกาสงานหลากหลายตำแหน่งงานหลากหลายสาขาให้เลือกไว้ในที่เดียว!

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลือกโรงพยาบาลประกันสังคม (FAQ)

หากมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจเกี่ยวกับการเลือกหรือเปลี่ยนโรงพยาบาล ลองอ่านคำถามที่พบบ่อยต่อไปนี้เพื่อความเข้าใจมากขึ้น

เลือกโรงพยาบาลประกันสังคมไม่ได้ ทำอย่างไร?

หากไม่สามารถเลือกโรงพยาบาลประกันสังคมได้ ควรตรวจสอบก่อนว่าคุณอยู่ในช่วงเวลาที่สำนักงานประกันสังคมเปิดให้เปลี่ยนสิทธิ์หรือไม่ และตรวจสอบสิทธิ์ของตัวเองว่าตรงกับมาตรา 33, 39 หรือ 40 หรือไม่ รวมถึงตรวจสอบว่ามีโรงพยาบาลคู่สัญญาในพื้นที่ของคุณหรือไม่ หรือติดต่อสายด่วน 1506 หรือสำนักงานประกันสังคมใกล้บ้านเพื่อขอคำแนะนำ

เปลี่ยนโรงพยาบาลประกันสังคมใช้เอกสารอะไรบ้าง?

โรงพยาบาลประกันสังคมครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั่วไป ค่าผ่าตัด การฝากครรภ์ วัคซีนบางชนิด และตรวจสุขภาพประจำปี แต่หากเข้ารับบริการนอกเครือข่ายหรือในกรณีฉุกเฉิน อาจต้องสำรองจ่ายก่อนและขอคืนเงินตามเงื่อนไข ผู้ประกันตนจึงควรเก็บใบเสร็จและเอกสารสำคัญทุกครั้งเพื่อยืนยันสิทธิและขอเบิกคืนได้

ถ้าโรงพยาบาลเต็มสามารถไปใช้สิทธิที่ไหนได้?

สำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนโรงพยาบาลด้วยตัวเองที่สำนักงานประกันสังคม ต้องใช้บัตรประชาชนและกรอกแบบฟอร์มสปส. 9-02 เพื่อยื่นขอเปลี่ยนสิทธิ ส่วนลูกจ้างมาตรา 33 ที่เปลี่ยนสิทธิผ่านนายจ้าง สามารถแจ้งฝ่ายบุคคลหรือ HR ของบริษัทเพื่อให้ดำเนินการยื่นเรื่องแทน

เลือกโรงพยาบาลประกันสังคมใกล้บ้านหรือที่ทำงาน?

หากโรงพยาบาลเต็มหรือไม่สามารถเข้ารับบริการได้ทันที ผู้ประกันตนสามารถไปยังโรงพยาบาลคู่สัญญาอื่นในเครือข่ายได้ สำหรับกรณีฉุกเฉิน สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใดก็ได้ก่อน แล้วสำรองจ่ายและขอเบิกคืนตามเงื่อนไขของประกันสังคม

More from this category: แหล่งข้อมูลและเทมเพลต

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
ท่านได้ยอมรับคำประกาศเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ท่านได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อยินยอมให้ Jobsdb และบริษัทในเครือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถยกเลิกได้ทุกเวลา