อาชีพนักเทคนิคการแพทย์คืออะไร กับทักษะที่ต้องรู้ถ้าอยากทำงานสายนี้

อาชีพนักเทคนิคการแพทย์คืออะไร กับทักษะที่ต้องรู้ถ้าอยากทำงานสายนี้
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 11 April, 2025
Share

Key Takeaway

  • เทคนิคการแพทย์คือวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ เช่น เลือด ปัสสาวะ และเนื้อเยื่อ เพื่อช่วยแพทย์วินิจฉัยโรค นักศึกษาต้องเรียนวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เคมี ชีววิทยา พยาธิวิทยา และเทคนิคการตรวจวิเคราะห์ต่างๆ
  • หน้าที่ของนักเทคนิคการแพทย์ ทำการเก็บตัวอย่าง ตรวจวิเคราะห์ และรายงานผลทางห้องปฏิบัติการ รวมถึงควบคุมคุณภาพของการตรวจวิเคราะห์ ดูแลเครื่องมือทางการแพทย์ และร่วมมือกับแพทย์ในการวินิจฉัยและรักษาโรค
  • คุณสมบัติของนักเทคนิคการแพทย์ต้องมีความละเอียดรอบคอบ มีทักษะด้านวิทยาศาสตร์และการใช้เครื่องมือในห้องแล็บ รวมถึงความสามารถในการสื่อสารและทำงานเป็นทีม นอกจากนี้ต้องมีใบประกอบวิชาชีพนักเทคนิคการแพทย์เพื่อทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ก่อนจะก้าวเข้าสู่อาชีพนักเทคนิคการแพทย์ มาดูกันว่าทักษะสำคัญที่ต้องมีคืออะไร รวมถึงหน้าที่ของอาชีพนี้ในการช่วยแพทย์วินิจฉัยและรักษาโรคผ่านการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ พร้อมเจาะลึกบทบาทของอาชีพนี้กัน

เทคนิคการแพทย์คืออะไร?

เทคนิคการแพทย์คืออะไร?

เทคนิคการแพทย์คือวิชาชีพทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ เพื่อช่วยแพทย์ในการวินิจฉัย ติดตามผลการรักษา และป้องกันโรค โดยนักเทคนิคการแพทย์จะทำงานร่วมกับทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ในการตรวจสอบตัวอย่างทางชีวภาพ เช่น เลือด ปัสสาวะ สารคัดหลั่ง และเนื้อเยื่อ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและเป็นประโยชน์ต่อการดูแลผู้ป่วย

หลักสูตรเทคนิคการแพทย์ เรียนอะไรบ้าง?

คณะเทคนิคการแพทย์เป็นหนึ่งในคณะสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ ที่มุ่งเน้นการนำวิทยาศาสตร์การแพทย์มาประยุกต์ใช้ในการวินิจฉัยโรค ตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ รวมถึงติดตามผลการรักษา โดยนักศึกษาในหลักสูตรนี้จะได้เรียนทั้งวิทยาศาสตร์พื้นฐาน วิชาทางการแพทย์เฉพาะทาง และฝึกปฏิบัติงานในห้องแล็บเพื่อให้มีความรู้และทักษะที่แม่นยำ ก่อนออกไปปฏิบัติงานจริงในสถานพยาบาล เรามาดูกันว่าเทคนิคการแพทย์ในแต่ละปีเรียนอะไรบ้าง

เทคนิคการแพทย์ปี 1 - ปี 4 มีวิชาอะไรบ้าง?

เทคนิคการแพทย์ปี 1 - ปี 4 มีวิชาอะไรบ้าง?

ตลอด 4 ปีของหลักสูตรเทคนิคการแพทย์ นักศึกษาจะได้เรียนวิชาที่แตกต่างกันไปในแต่ละปี โดยเริ่มจากพื้นฐานทั่วไปไปจนถึงวิชาเฉพาะทางและการฝึกปฏิบัติ ดังนี้

  • ปีที่ 1: เรียนวิชาพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และวิชาศึกษาทั่วไป เช่น
    • ชีววิทยา เคมี ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์
    • ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และสังคมศึกษา
    • พื้นฐานเทคนิคการแพทย์และการดูแลผู้ป่วยเบื้องต้น
  • ปีที่ 2: เริ่มเรียนวิชาเฉพาะทางด้านเทคนิคการแพทย์มากขึ้น เช่น
    • กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา
    • จุลชีววิทยาและปรสิตวิทยา
    • พื้นฐานเคมีคลินิก โลหิตวิทยา และภูมิคุ้มกันวิทยา
  • ปีที่ 3: เน้นการเรียนเฉพาะทางเชิงลึกเกี่ยวกับการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ เช่น
    • โลหิตวิทยา เคมีคลินิก พิษวิทยาคลินิก
    • วิทยาศาสตร์การตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์
    • เทคนิคการตรวจและวิเคราะห์เซลล์และเนื้อเยื่อ
  • ปีที่ 4: ฝึกปฏิบัติงานจริงและทำโครงงานวิจัย เช่น
    • ฝึกงานในโรงพยาบาลหรือศูนย์วิจัย
    • ทำวิจัยหรือโครงงานด้านเทคนิคการแพทย์
    • ศึกษากฎหมายและจรรยาบรรณวิชาชีพก่อนสำเร็จการศึกษา

หลักสูตรเทคนิคการแพทย์จึงเป็นหลักสูตรที่ครอบคลุมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เพื่อให้นักศึกษามีความพร้อมในการประกอบอาชีพและสามารถช่วยเหลือแพทย์ในการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นักเทคนิคการแพทย์คืออะไร?

นักเทคนิคการแพทย์คืออะไร?

นักเทคนิคการแพทย์คือบุคลากรทางการแพทย์ที่มีบทบาทสำคัญในการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ เพื่อช่วยแพทย์ในการวินิจฉัยโรค ติดตามผลการรักษา และเฝ้าระวังโรคระบาด โดยต้องมีความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และเทคนิคการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างทางชีวภาพ เช่น เลือด ปัสสาวะ สารคัดหลั่ง และเนื้อเยื่อ

นักเทคนิคการแพทย์จะต้องสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาเทคนิคการแพทย์จากสถาบันที่ได้รับการรับรองจากสภาเทคนิคการแพทย์ และต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์จึงจะสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยสามารถใช้คำนำหน้าชื่อว่า ทนพ. (นักเทคนิคการแพทย์ชาย) หรือ ทนพญ. (นักเทคนิคการแพทย์หญิง)

ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเทคนิคการแพทย์มีอายุ 5 ปี และต้องสะสมคะแนนการศึกษาต่อเนื่องเพื่อใช้ในการต่ออายุใบอนุญาต ทั้งนี้ หากประกอบวิชาชีพโดยไม่มีใบอนุญาตถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งเป็นข้อกำหนดเพื่อให้มั่นใจว่านักเทคนิคการแพทย์มีความรู้และมาตรฐานวิชาชีพที่เหมาะสมในการปฏิบัติงาน

หน้าที่ของนักเทคนิคการแพทย์ ทำงานอะไรบ้าง?

หน้าที่ของนักเทคนิคการแพทย์ ทำงานอะไรบ้าง?

หากถามว่านักเทคนิคการแพทย์ทำงานอะไรบ้างนั้น ก็มีบทบาทสำคัญในการทำงานเบื้องหลังเพื่อสนับสนุนการรักษาและวินิจฉัยโรค พวกเขาทำงานในห้องปฏิบัติการเพื่อวิเคราะห์ตัวอย่างทางชีวภาพ คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ บทบาทสำคัญของนักเทคนิคการแพทย์ ได้แก่

เบื้องหลังในการรักษาและวินิจฉัยโรค

นักเทคนิคการแพทย์ทำหน้าที่ตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างจากผู้ป่วย เช่น เลือด ปัสสาวะ เนื้อเยื่อ และสารคัดหลั่งต่างๆ เพื่อช่วยแพทย์วินิจฉัยโรค รวมถึงการติดตามอาการและผลการรักษา โดยต้องใช้เครื่องมือและเทคนิคเฉพาะทางเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ

ค้นคว้าวิธีการรักษาด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ

นอกจากงานตรวจวิเคราะห์ นักเทคนิคการแพทย์ยังมีบทบาทในการศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคนิคใหม่ๆ เช่น การพัฒนาวิธีตรวจวินิจฉัยที่รวดเร็วขึ้น เทคโนโลยีการตรวจหาเชื้อโรคที่แม่นยำขึ้น รวมถึงพัฒนาการรักษาโรคด้วยเทคนิคทางห้องปฏิบัติการ

เป็นผู้ช่วยให้กับหมอ

แพทย์ต้องอาศัยข้อมูลจากนักเทคนิคการแพทย์เพื่อประกอบการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วย นักเทคนิคการแพทย์จึงเปรียบเสมือนผู้ช่วยเบื้องหลังที่ทำให้แพทย์สามารถตัดสินใจในการรักษาได้อย่างถูกต้อง โดยการให้ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียด

ให้คำแนะนำในการใช้ยา

ในบางกรณีนักเทคนิคการแพทย์มีส่วนช่วยให้คำแนะนำเกี่ยวกับผลข้างเคียงของยา หรือปฏิกิริยาของยาในร่างกายของผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแผนกพิษวิทยาคลินิกและเภสัชจุลชีววิทยา ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถเลือกใช้ยาที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับผู้ป่วยได้

คิดค้นเครื่องมือทางการแพทย์

นอกจากการตรวจวิเคราะห์และวิจัย นักเทคนิคการแพทย์ยังมีบทบาทในการคิดค้นและพัฒนาเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจวิเคราะห์ เช่น ชุดตรวจโรค เทคโนโลยีการตรวจเลือด หรืออุปกรณ์ที่ช่วยให้แพทย์สามารถตรวจวินิจฉัยโรคได้รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น

ด้วยบทบาทที่หลากหลายและสำคัญเหล่านี้ นักเทคนิคการแพทย์จึงเป็นฟันเฟืองสำคัญในระบบสาธารณสุขที่ช่วยให้กระบวนการรักษาและดูแลผู้ป่วยมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

คุณสมบัติและทักษะที่จำเป็นของนักเทคนิคการแพทย์

คุณสมบัติและทักษะที่จำเป็นของนักเทคนิคการแพทย์ 

นักเทคนิคการแพทย์เป็นวิชาชีพที่ต้องอาศัยความรู้ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ และความรับผิดชอบสูง เนื่องจากเกี่ยวข้องโดยตรงกับสุขภาพและชีวิตของผู้ป่วย ดังนั้นผู้ที่ต้องการทำงานในสายอาชีพนี้จำเป็นต้องมีคุณสมบัติและทักษะที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

  • มีความรู้และทักษะทางวิชาการด้านเทคนิคการแพทย์ ต้องสามารถตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างทางชีวภาพ เช่น เลือด ปัสสาวะ และเนื้อเยื่อ ได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว รวมถึงมีความเข้าใจในมาตรฐานวิชาชีพและแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง
  • สามารถปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการได้อย่างปลอดภัย นักเทคนิคการแพทย์ต้องมีความละเอียดรอบคอบ รู้จักหลักการควบคุมคุณภาพการตรวจวิเคราะห์ และปฏิบัติงานตามมาตรฐานความปลอดภัยของห้องปฏิบัติการ
  • มีทักษะในการแก้ไขปัญหาและการตัดสินใจ ต้องสามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในกรณีที่พบข้อผิดพลาดในกระบวนการตรวจวิเคราะห์
  • มีวุฒิภาวะทางอารมณ์และความรับผิดชอบสูง เนื่องจากงานเกี่ยวข้องกับสุขภาพของผู้ป่วยโดยตรง นักเทคนิคการแพทย์จึงต้องมีความรับผิดชอบสูง ควบคุมอารมณ์ได้ดี และสามารถทำงานภายใต้แรงกดดันได้
  • มีทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ดี ต้องสามารถประสานงานกับแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการวินิจฉัยและรักษาโรค
  • มีความสามารถในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ วิทยาการทางการแพทย์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นักเทคนิคการแพทย์จึงต้องติดตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและแนวทางปฏิบัติใหม่ๆ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มีมนุษยสัมพันธ์และอัธยาศัยที่ดี : แม้ว่าจะทำงานในห้องปฏิบัติการเป็นหลัก แต่นักเทคนิคการแพทย์ต้องสามารถสื่อสารกับผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ได้ดี เพื่อให้การทำงานราบรื่นและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ด้วยคุณสมบัติและทักษะเหล่านี้ นักเทคนิคการแพทย์จึงเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยสนับสนุนระบบสาธารณสุข และมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้กระบวนการรักษาผู้ป่วยเป็นไปอย่างถูกต้องและแม่นยำ

เงินเดือนของนักเทคนิคการแพทย์

เงินเดือนของนักเทคนิคการแพทย์

เงินเดือนและรายได้ของนักเทคนิคการแพทย์จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งงานที่ทำ สถานที่ทำงาน ประสบการณ์ และความสามารถส่วนบุคคล โดยมีข้อมูลที่สามารถอ้างอิงได้ดังนี้

  • นักเทคนิคการแพทย์ที่ทำงานในโรงพยาบาลหรือคลินิก เงินเดือนประมาณ 18,000 – 25,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดของโรงพยาบาลและตำแหน่งที่รับผิดชอบ
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ในหน่วยงานรัฐ เงินเดือนประมาณ 18,000 – 22,000 บาท โดยมักจะมีสวัสดิการและสิทธิพิเศษที่แตกต่างจากงานเอกชน
  • นักพัฒนาวิจัยด้านชีวการแพทย์ในอุตสาหกรรมยาและเครื่องมือแพทย์ เงินเดือนประมาณ 20,000 – 30,000 บาท ซึ่งจะมีโอกาสในการเติบโตขึ้นหากทำงานในบริษัทขนาดใหญ่หรือมีผลงานวิจัยที่โดดเด่น
  • ผู้แทนขายเครื่องมือและที่ปรึกษาด้านอุปกรณ์และเทคโนโลยีทางการแพทย์ เงินเดือนประมาณ 15,000 – 25,000 บาท (ยังไม่รวมคอมมิชชัน) ซึ่งรายได้จะขึ้นอยู่กับยอดขายและคอมมิชชันที่ได้รับจากบริษัท
  • อาจารย์ผู้สอนด้านเทคนิคการแพทย์ในสถาบันการศึกษา เงินเดือนประมาณ 18,000 – 25,000 บาท โดยเงินเดือนในบางสถาบันอาจสูงขึ้นตามประสบการณ์และตำแหน่งทางวิชาการ

สรุป

สรุปแล้วอาชีพนักเทคนิคการแพทย์เป็นวิชาชีพที่มีบทบาทสำคัญในการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วย โดยต้องมีทักษะในการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการและความสามารถในการทำงานร่วมกับทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ต่างๆ นักเทคนิคการแพทย์ต้องมีความรู้เฉพาะด้านและทักษะการทำงานที่แม่นยำ รวมถึงมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีและสามารถทำงานภายใต้ความกดดันได้

เงินเดือนของนักเทคนิคการแพทย์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งงาน สถานที่ทำงาน และประสบการณ์ แต่โดยรวมจะอยู่ในช่วง 18,000 – 30,000 บาท และยังมีโอกาสทำงานในหลายตำแหน่งเช่น นักวิจัย อาจารย์ หรือผู้แทนขายเครื่องมือแพทย์ หากคุณสนใจหาสมัครงานเทคนิคการแพทย์มีที่ไหนบ้าง สามารถเข้าไปเยี่ยมชม Jobsdb เว็บไซต์หางานที่ครอบคลุมตำแหน่งงานด้านเทคนิคการแพทย์มากมาย พร้อมโอกาสในการสมัครงานจากบริษัทชั้นนำทั่วประเทศ

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

More from this category: งานแรก

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สำรวจหัวข้อที่เกี่ยวข้อง

เลือกสิ่งที่สนใจเพื่อเรียกดูอาชีพที่เกี่ยวข้อง

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
ท่านได้ยอมรับคำประกาศเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ท่านได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อยินยอมให้ Jobsdb และบริษัทในเครือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถยกเลิกได้ทุกเวลา