Key Takeaway
วีซ่า (Visa) คือเอกสารอนุญาตที่ประเทศปลายทางออกให้ เพื่ออนุญาตให้ผู้เดินทางสามารถเข้าประเทศนั้นๆ ได้ตามวัตถุประสงค์ เช่น ท่องเที่ยว ทำงาน หรือเรียน โดยมีเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนด
วีซ่ามีหลายประเภท เช่น วีซ่าท่องเที่ยว (Visitor Visa) วีซ่าทำงาน (Work Visa) วีซ่านักเรียน (Student Visa) และวีซ่าครอบครัว (Family Visa) ซึ่งผู้ยื่นต้องเลือกให้ตรงกับวัตถุประสงค์การเดินทาง
ขอวีซ่าอังกฤษต้องมีเงินในบัญชีเท่าไร ไม่มีการกำหนดจำนวนเงินตายตัว แต่ควรมีเงินหมุนเวียนและเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายจริง โดยทั่วไปแนะนำให้มีอย่างน้อย 100,000 บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและประเภทวีซ่า
เคล็ดลับในการยื่นวีซ่าอังกฤษให้ผ่าน เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน แสดงรายได้และสถานะการเงินที่น่าเชื่อถือ วางแผนการเดินทางอย่างละเอียด และอย่าให้ข้อมูลที่เกินจริง เพราะความโปร่งใสและความพร้อมคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้การอนุมัติวีซ่าง่ายขึ้น
ชาวออฟฟิศที่มีแพลนไปเที่ยวต่างประเทศ หลายๆ คนอาจรู้สึกกังวลใจในการยื่นขอวีซ่าอังกฤษ โดยเฉพาะเรื่อง “ขอวีซ่าอังกฤษต้องมีเงินในบัญชีเท่าไร?” ซึ่งเป็นข้อกำหนดสำคัญที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เพื่อยืนยันว่าคุณมีความพร้อมทางการเงินสำหรับการเดินทางครั้งนี้ สำหรับพนักงานออฟฟิศที่อยากลาพักร้อนไปเที่ยวประเทศอังกฤษ หรือต้องเดินทางไปทำงาน ประชุม ติดต่อธุรกิจ หรือเยี่ยมญาติ การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนและถูกต้องถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้กระบวนการขอวีซ่าผ่านได้รวดเร็ว ไม่เสียเวลา ในบทความนี้เราจะมาแชร์เคล็ดลับที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้การขอวีซ่าอังกฤษของคุณราบรื่นยิ่งขึ้น!
เมื่อพูดถึงการเดินทางไปอังกฤษเที่ยว ทำงาน ฝึกอบรม หรือเยี่ยมญาติ หลายคนอาจสงสัยว่า “วีซ่าอังกฤษมีกี่ประเภท?” เลือกประเภทวีซ่าอย่างไรให้เหมาะสม เพราะแต่ละประเภทมีเงื่อนไขและข้อจำกัดที่ต่างกัน หากคุณเป็นพนักงานที่กำลังมีแพลนลาพักร้อนไปเที่ยว ไปทำงานชั่วคราว ประชุม หรือเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมที่ต่างประเทศ การทำความเข้าใจประเภทวีซ่าจะช่วยให้การยื่นเอกสารง่ายขึ้นและลดความผิดพลาด
วีซ่าทำงานออกแบบสำหรับผู้ที่ต้องการทำงานในอังกฤษไม่ว่าจะเป็นงานเต็มเวลา งานเฉพาะทาง หรืองานชั่วคราว เช่น โครงการฝึกงานหรือสัญญาจ้างระยะสั้น การขอวีซ่าประเภทนี้มักต้องมีจดหมายรับรองจากนายจ้างที่ได้รับอนุญาตในอังกฤษ นอกจากนี้ ผู้สมัครต้องผ่านคุณสมบัติด้านภาษาอังกฤษ และอาจต้องแสดงหลักฐานการเงินที่เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตในอังกฤษ
วีซ่าธุรกิจเหมาะกับผู้ที่ต้องเดินทางไปอังกฤษเพื่อทำกิจกรรมทางธุรกิจ เช่น ประชุม สัมมนา เจรจาธุรกิจ หรือเข้าร่วมงานแสดงสินค้า ข้อสำคัญคือผู้ถือวีซ่านี้ ไม่สามารถทำงานประจำในอังกฤษได้ แต่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมทางธุรกิจชั่วคราว เช่น พรีเซนต์งาน พบลูกค้า หรือเข้าร่วมอบรมธุรกิจ
วีซ่าท่องเที่ยวออกให้ผู้ที่ต้องการไปอังกฤษเพื่อท่องเที่ยว สัมผัสวัฒนธรรม หรือเยี่ยมเพื่อนและครอบครัว นอกจากนี้ยังใช้ได้กับการเข้าร่วมกิจกรรมสั้นๆ เช่น การฝึกอบรมระยะสั้นหรือแข่งขันกีฬา วีซ่านี้มีระยะเวลาพำนักจำกัด มักไม่เกิน 6 เดือน และ ไม่อนุญาตให้ทำงานหรือเข้าร่วมกิจกรรมที่ได้รับค่าตอบแทน
วีซ่านักเรียนเหมาะกับผู้ที่ต้องการศึกษาในสถาบันการศึกษาของอังกฤษ ตั้งแต่หลักสูตรระยะสั้นไปจนถึงระดับปริญญา ผู้ถือวีซ่านี้สามารถทำงานพาร์ตไทม์ได้ในช่วงเรียนตามกฎหมาย เช่น 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และสามารถทำงานเต็มเวลาในช่วงวันหยุดเทอม การขอวีซ่าประเภทนี้ต้องมีจดหมายตอบรับจากสถาบันการศึกษาและหลักฐานการเงินเพียงพอสำหรับค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายส่วนตัว
วีซ่าครอบครัวออกให้กับคู่สมรส บุตร หรือผู้ที่เป็นญาติใกล้ชิดของชาวอังกฤษหรือผู้ที่มีสิทธิพำนักถาวรในอังกฤษ วีซ่านี้ช่วยให้ครอบครัวสามารถอยู่ร่วมกัน ทำงาน หรือเรียนได้ตามกฎหมาย ผู้สมัครต้องแสดงหลักฐานความสัมพันธ์ เช่น สูติบัตร ใบทะเบียนสมรส และหลักฐานการเงินที่เพียงพอต่อการดูแลตนเองและครอบครัว
วีซ่าเยี่ยมญาติเป็นวีซ่าสำหรับผู้ที่ต้องการเยี่ยมครอบครัวหรือญาติในอังกฤษระยะสั้น โดยมักใช้ได้ไม่เกิน 6 เดือน วีซ่านี้ไม่อนุญาตให้ทำงานหรือเรียนเป็นประจำ แต่เหมาะสำหรับการเยี่ยมเยือน เพื่อสร้างความสัมพันธ์หรือช่วยเหลือครอบครัวชั่วคราว
นอกจากวีซ่าหลักอย่างวีซ่าท่องเที่ยว วีซ่าทำงาน หรือวีซ่านักเรียนแล้ว แต่ละประเทศยังมีวีซ่าเฉพาะตามวัตถุประสงค์การเดินทางที่แตกต่างกัน เช่น วีซ่าเพื่อเข้าร่วมงานอาสาสมัคร วีซ่าสำหรับการฝึกงานระยะสั้น วีซ่ารักษาพยาบาล วีซ่าสำหรับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมถึงวีซ่าสำหรับผู้ลงทุนหรือผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจในต่างประเทศ
ผู้ยื่นจึงควรเช็กเงื่อนไข เอกสารประกอบการยื่น ตรวจสอบรายละเอียดกับสถานทูตหรือเว็บไซต์ทางการก่อนยื่นคำขอ ตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศ เพื่อให้การสมัครเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงในการถูกปฏิเสธ
ขอวีซ่าอังกฤษต้องมีเงินในบัญชีเท่าไร? โดยทั่วไปมักแนะนำให้มีเงินในบัญชีอย่างน้อย 100,000 บาท เพื่อให้การขอวีซ่าอังกฤษผ่าน แต่ความจริงแล้วไม่มีจำนวนเงินตายตัว ขึ้นอยู่กับประเภทวีซ่า ระยะเวลาที่อยู่ และจำนวนผู้เดินทาง จุดสำคัญคือเจ้าหน้าที่ต้องมั่นใจว่าคุณมีเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทาง
ในส่วนของการขอวีซ่าอังกฤษต้องมีเงินในบัญชีเท่าไรสำหรับวีซ่าประเภททำงาน (Work Visa) โดยทั่วไปแล้ว แนะนำให้มีเงินในบัญชีประมาณ 50,000–60,000 บาท เพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายในเดือนแรก เงินจำนวนนี้ต้องอยู่ในบัญชีต่อเนื่องอย่างน้อย 28 วันก่อนยื่นขอวีซ่า และเอกสารทางการเงินต้องไม่เก่าเกิน 31 วัน หากนายจ้างของคุณในประเทศอังกฤษระบุในใบรับรองการจ้างงาน (Certificate of Sponsorship - CoS) ว่าจะดูแลค่าใช้จ่ายช่วงเดือนแรก คุณไม่จำเป็นต้องแสดงหลักฐานเงินในบัญชีสำหรับส่วนนี้
ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าประเภทใดก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการแสดงให้เจ้าหน้าที่เห็นว่าคุณมีเงินเพียงพอที่จะดูแลตัวเองได้ และที่มาของเงินนั้นมีความน่าเชื่อถือ โดยการเตรียมเอกสารอย่างรอบคอบ เช่น Bank Statement ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและโอกาสผ่านวีซ่า
สำหรับพนักงานที่ต้องเดินทางไปอังกฤษเพื่อไปเที่ยว ทำงาน หรือผู้ที่เดินทางเพื่อวัตถุประสงค์อื่น เช่น เยี่ยมญาติ หรือฝึกอบรม การเตรียมเอกสารขอวีซ่าให้ครบถ้วนถือเป็นขั้นตอนสำคัญ เพราะจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลได้ง่าย ลดความเสี่ยงในการถูกปฏิเสธ และทำให้การเดินทางราบรื่น เอกสารที่ใช้ขึ้นอยู่กับประเภทวีซ่า แต่ส่วนใหญ่มีดังนี้
หนังสือเดินทาง (Passport) ต้องมีอายุใช้งานเหลืออย่างน้อย 6 เดือน และมีหน้าว่างเพียงพอสำหรับประทับตราวีซ่า เพื่อยืนยันตัวตนของพนักงานและสิทธิการเดินทาง
แบบฟอร์มขอวีซ่า (Visa Application Form) พนักงานต้องกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ถูกต้องตามความเป็นจริง และยื่นออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของ UK Visas & Immigration
รูปถ่ายขนาดตามมาตรฐานวีซ่าอังกฤษ (ขนาด 45x35 มม.) พื้นหลังสีอ่อน ไม่สวมหมวกหรือแว่นกันแดด
หลักฐานการเงิน เช่น สมุดบัญชีเงินฝาก สลิปเงินเดือน หรือจดหมายรับรองการเงิน เพื่อยืนยันว่าผู้เดินทางมีเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายระหว่างอยู่ในอังกฤษ
เอกสารยืนยันการทำงาน จดหมายรับรองการทำงานจากบริษัท ระบุชื่อตำแหน่ง เงินเดือน วันเริ่มงาน และวันลาพักร้อน สลิปเงินเดือน อย่างน้อย 3–6 เดือน หนังสืออนุมัติการลาพักร้อน เพื่อยืนยันว่าจะกลับมาทำงาน
จดหมายเชิญหรือเอกสารเกี่ยวกับกิจกรรม สำหรับพนักงานที่เดินทางไปทำงาน เช่น จดหมายจากนายจ้างในอังกฤษ หรือเอกสารเชิญเข้าร่วมโครงการ ฝึกอบรม หรือประชุมธุรกิจ สำหรับผู้เดินทางอื่นๆ จดหมายเชิญจากครอบครัว เพื่อน หรือองค์กรที่จัดกิจกรรม
หลักฐานที่พัก เช่น การจองโรงแรม หรือจดหมายรับรองการเข้าพักจากองค์กรที่เชิญ เพื่อยืนยันว่าพนักงานมีที่พักตลอดระยะเวลาทำงาน สำหรับผู้เดินทางอื่นๆ หลักฐานการจองโรงแรม หรือญาติ
หลักฐานการทำงาน พนักงานต้องใช้สัญญาจ้าง หรือจดหมายรับรองจากนายจ้างในประเทศไทยและอังกฤษ ระบุหน้าที่งาน ระยะเวลา และเงินเดือน เพื่อยืนยันว่ามีงานรองรับและตรงตามข้อกำหนดของวีซ่า กรณีไปศึกษา ต้องขอวีซ่านักเรียน มีจดหมายตอบรับจากสถาบันการศึกษาที่ได้รับอนุญาตในอังกฤษ และเอกสารแสดงวุฒิการศึกษาเดิม
เอกสารเสริมอื่นๆ เช่น ใบทะเบียนสมรส สูติบัตร หรือเอกสารอื่นตามข้อกำหนดของวีซ่าแต่ละประเภท เพื่อยืนยันความสัมพันธ์หรือสถานะอื่นๆ
ทำงานมาหนักทั้งปีแล้ว อยากลางานไปเที่ยวต่างประเทศเพื่อพักผ่อนเติมแรง ซึ่งชาวออฟฟิศจะต้องทำการยื่นวีซ่าอังกฤษก่อนเดินทางไป สิ่งสำคัญคือการแสดงหลักฐานความมั่นคงทางการเงิน และความน่าเชื่อถือว่าคุณจะกลับมาประเทศไทยตามกำหนด โดยวิธีเตรียมตัวจะแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่างพนักงานประจำและฟรีแลนซ์ ดังนี้
เอกสารรับรองการทำงาน ขอจากบริษัท ระบุชื่อตำแหน่ง เงินเดือน วันเริ่มงาน และวันลาพักร้อน (เป็นการยืนยันว่ามีงานและรายได้มั่นคง)
สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน อย่างน้อย 3–6 เดือน เพื่อแสดงรายได้ต่อเนื่อง
สเตตเมนต์ธนาคาร แนะนำให้มีเงินหมุนเวียนและคงเหลือพอสมควร เช่น 100,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับระยะเวลาพำนัก
เอกสารยืนยันการลางาน เช่น ใบอนุมัติลาพักร้อน เพื่อยืนยันว่าจะกลับมาทำงาน
การเดินทางไปอังกฤษมีหลายวัตถุประสงค์ ทั้งการไปเที่ยวพักร้อนจากการทำงาน ไปทำงาน อบรม ประชุม หรือไปเพื่อศึกษา หรือเยี่ยมครอบครัว สำหรับผู้ที่ไปทำงาน อบรม หรือเข้าร่วมประชุม หรือไปศึกษา การขอวีซ่าจำเป็นต้องเน้นการยืนยันจุดประสงค์การเดินทาง เอกสารรับรองจากองค์กร หรือผู้จัดงาน และความพร้อมด้านการเงินและที่พัก การเลือกประเภทวีซ่าและเตรียมเอกสารให้ตรงกับวัตถุประสงค์จริงเป็นสิ่งสำคัญ ไปดูกันว่าขั้นตอนการทำวีซ่าไปอังกฤษต้องทำอย่างไร
ก่อนเริ่มกระบวนการ ขอแนะนำให้ตรวจสอบว่าการเดินทางของคุณตรงกับประเภทวีซ่าใด เช่น หากไปทำงานระยะสั้นหรือเข้าร่วมประชุม อบรม สามารถเลือก Business Visitor Visa หรือ Training & Conference Visa แต่หากเป็นการไปท่องเที่ยว เยี่ยมครอบครัว หรือทำกิจกรรมสันทนาการ ควรเลือก Standard Visitor Visa การเลือกประเภทวีซ่าที่ถูกต้องจะช่วยให้กระบวนการขอวีซ่าเร็วขึ้นและลดโอกาสถูกปฏิเสธ
การเตรียมเอกสารเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุด เอกสารหลักประกอบด้วยหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุ จดหมายเชิญจากบริษัทหรือผู้จัดงานเพื่อยืนยันวัตถุประสงค์การเดินทาง การจองที่พักและตั๋วเดินทาง ตลอดจนหลักฐานทางการเงิน เช่น สลิปเงินเดือนหรือสมุดบัญชีธนาคารเพื่อแสดงความพร้อมในการเดินทาง
นอกจากนี้อาจต้องเตรียมเอกสารอื่นๆ ตามประเภทวีซ่า เช่น ประวัติการทำงาน หรือใบรับรองการอบรม หากเป็นนักเรียนให้ทำการนำหลักฐานจดหมายตอบรับจากสถาบันการศึกษาที่ได้รับอนุญาตในอังกฤษ และเอกสารแสดงวุฒิการศึกษาเดิม
ผู้สมัครต้องเข้าไปที่เว็บไซต์ UK Government Visa & Immigration เพื่อกรอกแบบฟอร์มออนไลน์ โดยขั้นตอนการกรอกวีซ่าอังกฤษ ต้องเลือกประเภทวีซ่าที่ตรงกับจุดประสงค์การเดินทาง กรอกข้อมูลส่วนตัว รายละเอียดการเดินทาง และข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารสนับสนุนอย่างครบถ้วน การกรอกข้อมูลให้ถูกต้องและครบถ้วนจะช่วยให้เจ้าหน้าที่พิจารณาได้รวดเร็วและลดข้อผิดพลาด
หลังจากกรอกแบบฟอร์มออนไลน์เรียบร้อย ผู้สมัครต้องชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า ค่าธรรมเนียมนี้ขึ้นอยู่กับประเภทวีซ่าและระยะเวลาเดินทาง การชำระเงินมักทำผ่านระบบออนไลน์ และควรเก็บหลักฐานการชำระค่าวีซ่าอังกฤษไว้ เพื่อยืนยันหากเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ
ขั้นตอนต่อไปคือการนัดหมายที่ Visa Application Center (VAC) ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้สมัครต้องไปยื่นเอกสารและสแกนลายนิ้วมือรวมถึงถ่ายรูป (Biometrics) การจองนัดหมายต้องทำผ่านเว็บไซต์และเลือกวันเวลาที่สะดวก การเตรียมเอกสารให้ครบและจัดเรียงตามลำดับจะช่วยให้กระบวนการราบรื่น
หลังจากยื่นเอกสารและทำ Biometric เรียบร้อยจะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณา ปกติใช้เวลาประมาณ 3–8 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับประเภทวีซ่าและความครบถ้วนของเอกสาร เจ้าหน้าที่อาจเรียกเอกสารเพิ่มเติมหากจำเป็น
เมื่อวีซ่าผ่านการอนุมัติ ผู้สมัครจะได้รับวีซ่าพร้อมติดลงในหนังสือเดินทาง ควรตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด เช่น ชื่อ-นามสกุล วันหมดอายุ และประเภทวีซ่า ให้ตรงกับแผนการเดินทาง หากพบข้อผิดพลาดควรแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเมื่อเดินทาง
จดหมายรับรองจากนายจ้าง ยืนยันตำแหน่งงาน ระยะเวลาทำงาน เงินเดือน และเหตุผลการเดินทาง ควรมีลายเซ็นและตราบริษัทเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
สัญญาจ้างงาน แสดงความมั่นคงในการทำงาน ระบุเงินเดือน วันลาหยุด และสวัสดิการ ยืนยันว่ามีงานจริงและมีข้อผูกพันทางกฎหมายกับนายจ้าง
ใบอนุญาตทำงาน หรือ Certificate of Sponsorship หลักฐานจากนายจ้างในอังกฤษ ใช้สำหรับงานที่ต้องการอนุมัติพิเศษ ยืนยันว่าวัตถุประสงค์การทำงานถูกต้องตามกฎหมาย
หลักฐานการเงินส่วนตัว เช่น สมุดบัญชีธนาคารหรือสเตตเมนต์ย้อนหลัง 3–6 เดือน แสดงความพร้อมทางการเงินและความสามารถดูแลค่าใช้จ่ายเอง
แผนการเดินทาง ระบุวันเดินทางกลับ ที่พัก และแผนทริป ช่วยยืนยันว่าไม่มีเจตนาอยู่เกินวีซ่า และแสดงการเตรียมตัวอย่างเป็นระบบ
เอกสารประกอบอื่นๆ เช่น CV จดหมายแนะนำจากนายจ้างเก่า หรือใบรับรองการศึกษา เพื่อเสริมความน่าเชื่อถือและยืนยันประวัติการทำงาน
กรณีอื่นๆ เช่น ท่องเที่ยว ศึกษา หรืออบรม ประชุม เตรียมเอกสารเฉพาะ เช่น ใบจองโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน จดหมายตอบรับ หรือจดหมายเชิญ พร้อมหลักฐานการเงินส่วนตัว
เคล็ดลับในการยื่นวีซ่าอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าท่องเที่ยว ทำงาน หรือเรียน สิ่งสำคัญคือการเตรียมตัวให้รอบคอบและหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจทำให้ถูกปฏิเสธ โดยมีเคล็ดลับและข้อควรระวังดังนี้
เตรียมเอกสารให้ครบ เช่น พาสปอร์ต สเตตเมนต์ธนาคาร หลักฐานงาน/รายได้
พนักงานออฟฟิศต้องแนบใบรับรองการทำงาน และสลิปเงินเดือน
ฟรีแลนซ์ต้องแนบหลักฐานรายได้ และภาษีที่ยื่นแล้ว (ภ.ง.ด. 90)
วางแผนการเดินทางละเอียด เช่น ใบจองตั๋ว ที่พัก และแผนทริป
ยื่นขอล่วงหน้า 1–2 เดือน ก่อนวันเดินทางจริง
อย่าฝากเงินก้อนใหญ่เข้าบัญชีก่อนยื่นวีซ่าอังกฤษ เพราะดูไม่น่าเชื่อถือ
หลีกเลี่ยงเอกสารไม่ครบ หรือข้อมูลไม่ตรงกัน เช่น รายได้ไม่สัมพันธ์กับยอดเงิน
ห้ามใช้เอกสารปลอมหรือให้ข้อมูลเกินจริง อาจถูกแบล็กลิสต์ได้
ตรวจสอบการแปลเอกสาร ต้องถูกต้องและเป็นทางการ
อย่ารอใกล้วันเดินทางค่อยยื่น เพราะอาจไม่ทันหากถูกขอเอกสารเพิ่มเติม
ขอวีซ่าอังกฤษต้องมีเงินในบัญชีเท่าไร โดยทั่วไปแนะนำอย่างน้อย 100,000 บาท เพื่อให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายจริงตลอดการเดินทาง พร้อมกับหลักฐานการเงินและจดหมายรับรองการทำงานช่วยให้กระบวนการขอวีซ่าอังกฤษราบรื่นขึ้น รวมทั้ง เตรียมเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นให้ตรงตามประเภทวีซ่าที่ยื่นขอ เช่น ทำงาน ธุรกิจ ท่องเที่ยว นักเรียน ครอบครัว หรือเยี่ยมญาติ และควรเตรียมสเตทเมนต์ จดหมายรับรอง สัญญาจ้าง และแผนการเดินทางช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ จะเพิ่มโอกาสอนุมัติ
โดยขั้นตอนขอวีซ่าประกอบกรอกสมัครออนไลน์ ชำระค่าธรรมเนียม นัด Biometric รอตรวจสอบผล เคล็ดลับสำคัญที่นำมาฝากคือเตรียมเอกสารครบ ให้ข้อมูลตรงจริง หลีกเลี่ยงฝากเงินก้อนใหญ่กะทันหัน และยื่นวีซ่าล่วงหน้า 1–2 เดือน เพื่อให้พนักงานออฟฟิศยื่นวีซ่าได้มั่นใจและลดความเสี่ยงถูกปฏิเสธ
ถ้าคุณกำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ ที่ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายในชีวิต และเติบโตในหน้าที่การงานไปอีกขั้น อย่าลืมหางานผ่าน Jobsdb แพลตฟอร์มหางานที่รวบรวมตำแหน่งงานหลากหลายสาขามาไว้ให้คุณแล้ว!
Work and Holiday วีซ่าคืออะไร? ใช้ชีวิตต่างแดนได้ทั้งปีแบบคุ้มค่า
เปิดประสบการณ์ Work and Travel คืออะไร? ทำงานก็ได้ เที่ยวก็สนุก
ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกเตรียมตัวอย่างไร คู่มือฉบับมือใหม่ควรรู้ก่อนเดินทาง
พนักงานออฟฟิศที่กำลังวางแผนไปเที่ยว หรือไปทำงานและกำลังเตรียมยื่นวีซ่าอังกฤษอาจจะยังมีข้อสงสัยอยู่ เรารวมคำถามยอดฮิตและคำตอบไว้ให้แล้ว
โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ Statement ย้อนหลังอย่างน้อย 3–6 เดือน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เห็นการหมุนเวียนของเงินในบัญชีอย่างต่อเนื่อง หากมีรายการเข้า-ออกชัดเจนจะเพิ่มความน่าเชื่อถือมากขึ้น
ไม่มีตัวเลขที่แน่นอน แต่ควรมีเงินในบัญชีเพียงพอกับค่าใช้จ่ายจริงตลอดการเดินทาง โดยทั่วไปแนะนำอย่างน้อย 100,000 บาท ทั้งนี้ควรเน้นการแสดงยอดเงินคงเหลือต่อเนื่อง ไม่ใช่ฝากก้อนใหญ่ครั้งเดียว
โอกาสผ่านอาจน้อยลงหากบัญชีไม่สม่ำเสมอ แต่ยังสามารถยื่นได้หากมีเอกสารประกอบอื่น เช่น หนังสือรับรองการทำงาน หลักฐานทรัพย์สิน หรือจดหมายอธิบายสถานะทางการเงินเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือเพิ่มเติม
การเพิ่งเปิดบัญชีอาจทำให้ยากขึ้น เพราะไม่มีประวัติการเงินย้อนหลัง เจ้าหน้าที่อาจมองว่าไม่น่าเชื่อถือ ควรใช้บัญชีที่มีการหมุนเวียนต่อเนื่อง หรือถ้าจำเป็นจริงควรแนบหลักฐานการทำงาน รายได้ และทรัพย์สินอื่นๆ เพิ่มเติม