Work and Holiday วีซ่าคืออะไร? ใช้ชีวิตต่างแดนได้ทั้งปีแบบคุ้มค่า

Work and Holiday วีซ่าคืออะไร? ใช้ชีวิตต่างแดนได้ทั้งปีแบบคุ้มค่า
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 11 June, 2025
Share

Key Takeaway

  • Work and Holiday คือโครงการที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ไปทำงานและเที่ยวในต่างประเทศได้อย่างถูกกฎหมายเป็นเวลาประมาณ 1 ปี
  • ค่าใช้จ่ายของ Work and Holiday คร่าวๆ ได้แก่ ค่าวีซ่า 13,000 บาท เงินในบัญชี 100,000 บาท ค่าตรวจสุขภาพ และค่าเครื่องบินเพิ่มเติม
  • การสมัคร Work and Holiday เริ่มจากลงทะเบียน กรอกข้อมูล ส่งเอกสาร รอหนังสือรับรอง ยื่นขอวีซ่า แล้วรออนุมัติวีซ่า ก่อนเดินทางไปออสเตรเลีย

อยากลองใช้ชีวิตในต่างประเทศแบบยาวๆ แต่ไม่อยากเป็นแค่นักท่องเที่ยว? Work and Holiday วีซ่า อาจเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับคุณ มาเปิดโลกกับวีซ่าประเภทนี้ว่าคืออะไร ใครสามารถสมัครได้ และมีข้อดีอะไรบ้าง ที่จะช่วยให้คุณได้ทั้งทำงานและท่องเที่ยวไปพร้อมกันอย่างเต็มที่ 

อยากไป Work and Holiday มีประเทศไหนให้เลือกบ้าง

Work and Holiday คืออะไร? วีซ่าทำงานและท่องเที่ยว 

Work and Holiday คือโครงการที่เปิดรับสมัครตั้งแต่อายุ 18 ถึง 30 ปี ให้วัยทำงานได้มีโอกาสไปใช้ชีวิต ทำงาน และเที่ยวในออสเตรเลียแบบถูกกฎหมายได้นานถึง 1 ปี โดยถือเป็นหนึ่งในรูปแบบของ Work and Travel ที่ได้รับความนิยม โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างไทยและออสเตรเลีย เริ่มตั้งแต่ปี 2005 และโควตาเพิ่มจาก 500 คนเป็น 2,000 คนต่อปีแล้ว

อยากไป Work and Holiday มีประเทศไหนให้เลือกบ้าง

อยากไป Work and Holiday มีประเทศไหนให้เลือกบ้าง

ถ้าใครสนใจอยากไปหางานต่างประเทศ ต้องเตรียมตัวอย่างไร? ต้องเริ่มจากการรู้ก่อนว่าโครงการ Work and Holiday มีแค่โครงการเดียว คือ Work and Holiday Australia ส่วนประเทศนิวซีแลนด์จะมีโครงการแยกชื่อว่า Working Holiday Scheme แม้รูปแบบจะใกล้เคียงกัน แต่ไม่สามารถสมัครทั้งสองโครงการพร้อมกันได้ ผู้สมัครต้องเลือกสมัครเพียงโครงการใดโครงการหนึ่งเท่านั้น

วางแผนงบไป Work and Holiday รวมค่าใช้จ่ายที่ต้องรู้

วางแผนงบไป Work and Holiday รวมค่าใช้จ่ายที่ต้องรู้ 

สำหรับใครที่อยากทำงานต่างประเทศ แล้วสนใจเข้าร่วมโครงการ Work and Holiday จะมีค่าใช้จ่ายหลักๆ ดังนี้

  • ค่าวีซ่า Work and Holiday ประมาณ 635 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือราว 13,500 บาท (ควรตรวจสอบราคาล่าสุดก่อนยื่นวีซ่า)
  • ค่าสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ เช่น IELTS หรือเทียบเท่า อยู่ที่ประมาณ 6,300-7,990 บาท (ข้อมูลปี 2024)
  • ค่าตรวจสุขภาพ เริ่มต้นประมาณ 2,000 บาท ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลแต่ละแห่ง
  • ค่าเครื่องบินไปออสเตรเลีย ประมาณ 12,000-35,000 บาท ขึ้นกับช่วงเวลาการจองและโปรโมชั่นของสายการบิน
  • เงินใช้จ่ายส่วนตัว (Pocket money) เริ่มต้นที่ 25,000-45,000 บาท สำหรับค่าที่พักและค่าเดินทางในออสเตรเลีย
เช็กลิสต์คุณสมบัติก่อนสมัคร Work and Holiday

เช็กลิสต์คุณสมบัติก่อนสมัคร Work and Holiday 

ก่อนจะสมัคร Work and Holiday ควรเช็กคุณสมบัติตัวเองให้ตรงตามเงื่อนไขของโครงการเสียก่อน เพื่อให้การสมัครเป็นไปอย่างราบรื่น โดยโครงการ Work and Holiday ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติดังนี้ 

  • ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย
  • อายุระหว่าง 18 ถึง 30 ปี (สามารถสมัครได้แม้อายุจะเกิน 30 ปี แต่ไม่เกิน 31 ปีบริบูรณ์ในช่วงเวลายื่นวีซ่า)
  • มีสุขภาพแข็งแรง
  • สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
  • เดินทางไปด้วยตัวเอง ไม่มีบุตรหรือผู้ติดตาม
  • มีเงินในบัญชีออมทรัพย์ไม่น้อยกว่า 5,000 AUD หรือประมาณ 130,000 บาท
  • มีหนังสือรับรองคุณสมบัติจากกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.)
  • มีผลคะแนนภาษาอังกฤษ เช่น IELTS อย่างน้อย 4.5 หรือ TOEFL iBT 32 ขึ้นไป
เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการสมัคร Work and Holiday

เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการสมัคร Work and Holiday 

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับการสมัครโครงการ Work and Holiday ควรเตรียมทั้งฉบับจริงและสำเนาอย่างละ 1 ชุด เพื่อให้ขั้นตอนการสมัครเป็นไปอย่างราบรื่น เอกสารที่ควรจัดเตรียมมีดังนี้

  • ใบสมัครที่พิมพ์จากระบบออนไลน์
  • ใบรับรองจบการศึกษา
  • ใบแสดงผลการเรียน (Transcript)
  • หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุเกิน 6 เดือน
  • หลักฐานแสดงความสามารถทางภาษาอังกฤษ
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • แผนการเดินทางหรือแผนการทำงาน (Statement of Purpose)
  • เอกสารข้อตกลงลงลายมือชื่อผู้ปกครอง
  • สำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนของผู้ปกครอง
  • หลักฐานทางการเงิน (Bank Statement) โดยชื่อบัญชีต้องตรงกับชื่อในพาสปอร์ต
  • การรับรองทางการเงิน (Sponsor) ทั้งจากตัวผู้สมัครเองและจากผู้อื่น มีรายละเอียดดังนี้

Sponsor ให้ตัวเอง

สำหรับกรณีที่ผู้สมัครเป็นสปอนเซอร์ทางการเงินให้ตัวเอง ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติมดังนี้

  • เอกสารแสดงฐานะการเงินในบัญชีออมทรัพย์จำนวน 5,000 AUD พร้อมรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน
  • จดหมายชี้แจงแหล่งที่มาของเงิน หากยอดเงินเข้าบัญชีไม่ครบ 6 เดือน

Sponsor จากคนอื่น

สำหรับกรณีที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากผู้อื่น จะต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความพร้อมทางการเงิน ดังนี้

  • จดหมายรับรองค่าใช้จ่ายเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมลายเซ็นรับรอง
  • สำเนาบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางของผู้สปอนเซอร์
  • เอกสารแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้สปอนเซอร์กับผู้สมัคร เช่น สำเนาทะเบียนบ้านพร้อมคำแปลเป็นภาษาอังกฤษ
  • หลักฐานทางการเงินของผู้สปอนเซอร์ รวมถึงบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
  • จดหมายชี้แจงแหล่งที่มาของเงิน หากยอดเงินเข้าบัญชีน้อยกว่า 6 เดือน
ขั้นตอนการสมัคร Work and Holiday

ขั้นตอนการสมัคร Work and Holiday

ก่อนเริ่มสมัครโครงการ Work and Holiday การเตรียมตัวให้พร้อมเป็นสิ่งสำคัญ มาดูกันว่าขั้นตอนการสมัครมีอะไรบ้าง เพื่อให้ทุกอย่างราบรื่นและพร้อมรับมือกับการสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษที่จะช่วยเพิ่มโอกาสผ่านได้ง่ายขึ้น 

1. ลงทะเบียน

การลงทะเบียนเป็นขั้นตอนแรกที่ผู้สมัครจะต้องขอรับ Username และ Password สำหรับเข้าใช้งานระบบสมัครออนไลน์ เพื่อให้สามารถกรอกข้อมูลและติดตามสถานะการสมัครได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

  • ชื่อและนามสกุลของผู้สมัครต้องระบุทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยต้องสะกดและใช้คำนำหน้าชื่อให้ตรงกับหนังสือเดินทาง
  • หมายเลขบัตรประชาชน
  • ไฟล์รูปถ่ายหน้าตรงที่ดูสุภาพ
  • อีเมลสำหรับติดต่อ

2. ขอโควตาเข้าร่วมโครงการ Work and Holiday

หลังจากได้รับ Username และ Password แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือเข้าสู่ระบบเว็บไซต์ของโครงการ Work and Holiday เพื่อทำการยื่นขอโควตาเข้าร่วมโครงการตามขั้นตอนที่กำหนด

  • ชื่อ-นามสกุลของผู้สมัคร ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยการสะกดและคำนำหน้าชื่อจะต้องตรงกับหนังสือเดินทาง
  • เลขบัตรประชาชน
  • วันเดือนปีเกิด
  • เอกสารแสดงผลทักษะภาษาอังกฤษ
  • ที่อยู่ตามบัตรประชาชน
  • ที่อยู่ปัจจุบัน เบอร์โทรศัพท์มือถือ และอีเมลสำหรับติดต่อ
  • ข้อมูลผู้ติดต่อฉุกเฉิน

3. ขอหนังสือรับรองจากกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.)

ขั้นตอนต่อไปคือการขอหนังสือรับรองจากกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่ใช้ยืนยันคุณสมบัติของผู้สมัครในโครงการ Work and Holiday โดยต้องใช้เอกสารเพื่อยื่นขอ ดังนี้

  • หนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือน
  • สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน
  • ใบรับรองการจบการศึกษาและใบทรานสคริปต์ฉบับภาษาอังกฤษ
  • ผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ เช่น IELTS, TOEFL iBT, PTE Academic หรือ Cambridge English: CAE หรือใบรับรองวุฒิกรณีจบภาคอินเตอร์หรือจากประเทศออสเตรเลีย
  • รายการเดินบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน โดยต้องมีเงินในบัญชีขั้นต่ำ 5,000 AUD
  • สรุปแผนการเดินทางและประเภทงานที่สนใจทำในออสเตรเลีย
  • บันทึกข้อตกลงที่ผู้ปกครองลงนาม
  • สำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประชาชนของผู้ปกครอง

4. รอจดหมายรับรองจากรัฐบาล เพื่อขอยื่นวีซ่า

รอจดหมายรับรองจากรัฐบาลเป็นขั้นตอนสำคัญหลังส่งเอกสารสมัครโครงการ Work and Holiday โดยเมื่อได้รับจดหมายนี้แล้ว ผู้สมัครจะสามารถนำไปดำเนินการขอวีซ่าอย่างเป็นทางการได้ทันที 

  • ส่งจดหมายรับรองจากรัฐบาล (Letter of Government Support) ให้กับผู้ที่ผ่านการตรวจสอบเอกสาร เพื่อใช้ประกอบการยื่นขอวีซ่า
  • สร้างบัญชี ImmiAccount และชำระค่าวีซ่าก่อนดำเนินการยื่นวีซ่า
  • เตรียมเอกสารที่จำเป็น พร้อมจดหมายรับรองจากรัฐบาล เพื่อนำไปยื่นขอวีซ่า Work and Holiday Australia

สรุป

Work and Holiday คือโครงการที่เปิดโอกาสให้คนไทยอายุ 18-30 ปี ได้ไปทำงานและท่องเที่ยวในออสเตรเลียแบบถูกกฎหมายสูงสุด 1 ปี โดยมีโควตา 2,000 คนต่อปี โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและออสเตรเลีย ผู้สมัครต้องเตรียมเอกสารครบถ้วน รวมถึงแสดงหลักฐานทางการเงินและทักษะภาษาอังกฤษ มีขั้นตอนสมัครผ่านระบบออนไลน์ และต้องรอจดหมายรับรองจากรัฐบาลก่อนยื่นขอวีซ่า เมื่อตรวจสอบผ่านแล้วก็สามารถเดินทางไปใช้ชีวิตและทำงานที่นั่นได้อย่างเต็มที่ 

สำหรับใครที่กำลังมองหาโอกาสหางานต่างประเทศ สามารถเริ่มต้นค้นหางานและเตรียมตัวได้ที่ Jobsdb เพื่อเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในเส้นทาง Work and Holiday ของคุณ

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 

More from this category: ชีวิตการทำงาน

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
ท่านได้ยอมรับคำประกาศเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ท่านได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อยินยอมให้ Jobsdb และบริษัทในเครือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถยกเลิกได้ทุกเวลา