เช็กให้ชัด! เงินเดือนเท่าไรต้องเสียภาษี? รวมข้อมูลที่มนุษย์เงินเดือนควรรู้
Key Takeaway
- ใครที่ต้องเสียภาษีเงินได้บ้าง? เช่น มนุษย์เงินเดือน ฟรีแลนซ์ เจ้าของกิจการ หรือผู้ที่มีรายได้จากดอกเบี้ย เงินปันผล และค่าเช่า เมื่อรายได้ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
- เงินเดือนเท่าไรเสียภาษี? เงินเดือนเกินประมาณ 26,000 บาทต่อเดือน (หรือรายได้สุทธิเกิน 150,000 บาทต่อปี) ต้องเสียภาษี
- ยื่นภาษีได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร efiling.rd.go.th หรือสำนักงานสรรพากร ใช้ใบ 50 ทวิ และเอกสารลดหย่อนต่างๆ
หลายคนอาจเคยตั้งคำถามในใจว่า "เงินเดือนเท่าไรต้องเสียภาษี?" โดยเฉพาะเมื่อมีรายได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา อาจทำให้หลายคนรู้สึกสับสนและกังวลใจ
บทความนี้จะช่วยให้คุณไขข้อสงสัยทั้งหมด! เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจเกณฑ์รายได้ล่าสุดที่กำหนดว่าใครบ้างที่ต้องเสียภาษี พร้อมทั้งเปิดเผยวิธีคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อให้คุณสามารถวางแผนการเงินได้อย่างมั่นใจ และไม่ต้องกังวลเรื่องภาษีอีกต่อไป
ใครบ้างต้องเสียภาษีเงินได้?
มาทำความเข้าใจกันให้ชัดว่า ใครบ้างที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพราะบางคนอาจจะสงสัยว่ารายได้ไม่ถึงต้องยื่นภาษีไหม? เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายและไม่พลาดสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในอนาคต
- มีรายได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำที่ต้องเสียภาษี เช่น รายได้สุทธิต่อปีเกิน 120,000 บาท (ผู้โสดที่มีรายได้ประเภทเดียว) หรือเกิน 220,000 บาท (ผู้มีคู่สมรสหรือรายได้หลายประเภท)
- เป็นบุคคลธรรมดาที่พำนักในไทยเกิน 180 วันต่อปี ไม่ว่าจะมีสัญชาติไทยหรือไม่ ก็ต้องเสียภาษีตามกฎหมายไทย
- มีรายได้จากแหล่งในประเทศไทย เช่น งานประจำ ฟรีแลนซ์ ค่าเช่า ดอกเบี้ย หรือเงินปันผล ก็ต้องเสียภาษีตามเกณฑ์
- มีรายได้จากต่างประเทศและนำกลับเข้าไทยในปีภาษีนั้น ต้องรายงานเพื่อคำนวณภาษี
เงินเดือนหรือรายได้เท่าไรถึงต้องเสียภาษี?
หลายคนอาจสงสัยว่า "มีเงินเดือนหรือรายได้เท่าไรถึงเสียภาษีนะ?" เพื่อให้ทุกคนคลายข้อกังวลและเข้าใจเรื่องภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้อย่างชัดเจน รวมถึงช่องทางสะดวกอย่างการยื่นภาษีออนไลน์ นี่คือรายละเอียดตารางเสียภาษีเกี่ยวกับเกณฑ์รายได้ที่ต้องเสียภาษี
เงินได้สุทธิ (บาท) | อัตราภาษี (%) |
รายได้ไม่เกิน 150,000 | ไม่ต้องเสียภาษี |
รายได้ตั้งแต่ 150,001-300,000 | 5% |
300,001-500,000 | 10% |
500,001-750,000 | 15% |
750,001-1,000,000 | 20% |
1,000,001-2,000,000 | 25% |
2,000,001-5,000,000 | 30% |
5,000,001 ขึ้นไป | 35% |
ตัวอย่างการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
เรามาทำความเข้าใจพื้นฐานกันก่อนว่า การคำนวณในกรณีรายได้ถึงเกณฑ์และไม่ถึงเกณฑ์นั้นต่างกันอย่างไร ซึ่งจะส่งผลต่อผลลัพธ์ที่ได้อย่างชัดเจน ยิ่งสำหรับใครที่เริ่มมีรายได้ใกล้ถึงเกณฑ์หรือเพิ่งขอขึ้นเงินเดือน สำเร็จ ยิ่งควรทำความเข้าใจเรื่องภาษีไว้ให้ดี เพราะรายได้ที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลต่อยอดภาษีที่ต้องชำระเช่นกัน เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราจึงมีตัวอย่างการคำนวณทั้งสองกรณีมาให้เปรียบเทียบดังนี้
คำนวณภาษีแบบรายได้ถึงเกณฑ์
สูตรคำนวณรายได้สุทธิ
รายได้สุทธิ=รายได้รวม-ค่าใช้จ่าย-ค่าลดหย่อนรายได้สุทธิ = รายได้รวม-ค่าใช้จ่าย-ค่าลดหย่อน
ตัวอย่าง
- รายได้รวม = 600,000 บาท
- ค่าใช้จ่าย (สมมติ 50%) = 300,000 บาท
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว = 60,000 บาท
ขั้นตอนที่ 1 คำนวณรายได้สุทธิ
600,000-300,000-60,000 = 240,000 บาท
รายได้สุทธิ 240,000 บาท ถึงเกณฑ์ (เกิน 150,000 บาท) ต้องเสียภาษี
ขั้นตอนที่ 2 คำนวณภาษีตามขั้นบันได
- รายได้ส่วนแรก 150,000 บาท อัตรา 0% → 0 บาท
- รายได้ส่วนที่เกิน (240,000-150,000) = 90,000 บาท อัตรา 5%
90,000×5% = 4,500 บาท
ภาษีที่ต้องชำระ = 4,500 บาท
คำนวณภาษีแบบรายได้ไม่ถึงเกณฑ์
สูตรคำนวณรายได้สุทธิ
รายได้สุทธิ=รายได้รวม-ค่าใช้จ่าย-ค่าลดหย่อนรายได้สุทธิ = รายได้รวม-ค่าใช้จ่าย-ค่าลดหย่อน
ตัวอย่าง
- รายได้รวม = 140,000 บาท
- ค่าใช้จ่าย (สมมติ 50%) = 70,000 บาท
- ค่าลดหย่อนส่วนตัว = 60,000 บาท
- เกณฑ์ขั้นต่ำ = 150,000 บาท
คำนวณรายได้สุทธิ
- 140,000−70,000−60,000 = 10,000 บาท
- เปรียบเทียบกับเกณฑ์ขั้นต่ำ 10,000<150,000
ดังนั้นรายได้สุทธิต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ ไม่ต้องเสียภาษี
ยื่นภาษีได้ที่ไหนบ้าง?
จากสิ่งที่หลายคนสงสัยว่ารายได้ต่อปีเท่าไรถึงต้องเสียภาษี คำตอบคือหากรายได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนแล้วเกิน 150,000 บาทต่อปี ก็เข้าข่ายต้องยื่นภาษี โดยผู้มีรายได้ที่ถึงเกณฑ์ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนของปีถัดไปหลังจากปีภาษีนั้นๆ สำหรับการยื่นภาษี มี 2 ช่องทางหลักที่สะดวกและเป็นที่นิยม ได้แก่
- ยื่นภาษีด้วยตนเองที่สำนักงานสรรพากร หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่ใกล้บ้าน
- สามารถยื่นภาษีออนไลน์ผ่านระบบ E-Filing ของกรมสรรพากรที่ https://efiling.rd.go.th/rd-cms/ หรือผ่านแอปพลิเคชัน RD Smart Tax ได้ โดยต้องทำการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์กรมสรรพากรก่อน จึงจะสามารถใช้แอปพลิเคชันในการยื่นภาษีได้
เอกสารที่ใช้ในการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
การยื่นภาษีสำหรับมนุษย์เงินเดือนต้องเตรียมเอกสารสำคัญเพื่อยืนยันรายได้และสิทธิ์ลดหย่อนภาษีตามที่กฎหมายกำหนด โดยเอกสารที่ควรเตรียมมีดังนี้
- หนังสือรับรองภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (แบบ 50 ทวิ) จากรายได้เงินเดือน ดอกเบี้ย เงินปันผล และอื่นๆ
- รายการลดหย่อนภาษีตลอดปี เช่น ค่าเลี้ยงดูบุตร ค่าเลี้ยงดูบิดามารดา เงินลงทุนในกองทุน SSF, RMF, Thai ESG เบี้ยประกันชีวิต และเงินบริจาค
- เอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลดหย่อนภาษี เพื่อใช้ในการกรอกแบบฟอร์มยื่นภาษี
สรุป
ผู้มีเงินเดือนต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเมื่อรายได้สุทธิต่อปีถึงเกณฑ์ขั้นต่ำที่กรมสรรพากรกำหนด หลายคนจึงมีคำถามว่าเงินเดือนเท่าไรถึงต้องเสียภาษี โดยทั่วไปหากรายได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนเกิน 150,000 บาทต่อปี จะต้องยื่นและชำระภาษีตามอัตราภาษีขั้นบันได ส่วนผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่านี้จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี แต่ยังควรตรวจสอบและยื่นแบบ หากมีรายได้จากแหล่งอื่นเพิ่มเติม
สำหรับผู้ที่กำลังมองหางานใหม่หรือโอกาสเติบโตในสายงาน สามารถค้นหาตำแหน่งที่เหมาะสมได้ที่ Jobsdb แพลตฟอร์มหางานชั้นนำที่รวบรวมโอกาสมากมายให้คุณเลือก
