8 วิธีเตรียมตัว สำหรับคนอยากเปลี่ยนสายงาน

8 วิธีเตรียมตัว สำหรับคนอยากเปลี่ยนสายงาน
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 21 May, 2024
Share

การที่คนเราอยากเปลี่ยนสายงานนั้น เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย บางคนที่เพิ่งจบใหม่ อาจอยากเปลี่ยนสายงานเพราะงานแรกที่ทำ ไม่ตรงกับสิ่งที่ต้องการ แค่ทำๆ ไปก่อนพอให้ได้เริ่มที่แรก ส่วนที่คนที่ทำงานมานานแล้ว อาจมีความรู้สึกอยากก้าวออกจาก Comfort Zone อยากหาทางขยับเงินเดือนขึ้น อยากก้าวไปสู่ตำแหน่งที่ใหญ่โต หรืออยากมองหาความท้าทาย ซึ่งกลุ่มคนที่อยากเปลี่ยนงาน อาจยังไม่รู้ว่าต้องเริ่มอย่างไร ควรเตรียมตัวแบบไหน วันนี้ JobsDB มีทริคดีๆ มาฝากกัน

1. ถามตัวเองให้แน่ใจ

ก่อนที่จะตัดสินใจทำเรื่องสำคัญใดๆ สักหนึ่งเรื่อง การเริ่มต้นด้วยการถามตัวเองเป็นสิ่งที่ควรทำที่สุด เพราะนั่นถือเป็นการทบทวนตัวเองว่าก้าวใหม่ที่คุณอยากจะเดินไป เป็นสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ ใช่ไหม หรือมีอุปสรรคมาขวางทางมากเพียงใด

เช่นเดียวกันกับการเปลี่ยนสายงาน ควรคิดให้ถี่ถ้วนก่อนว่า สาเหตุใดที่คุณต้องการเปลี่ยนงาน คุณรู้สึกอย่างไรกับงานปัจจุบัน มีสิ่งที่ชอบหรือไม่ชอบกับงานที่ทำอย่างไร เช่น ภาพรวมของเนื้องาน เงินเดือน หัวหน้า เพื่อนร่วมงาน บริษัท หรือสวัสดิการ ซึ่งการทบทวนตัวเองจะช่วยทำให้คุณได้รู้จริงๆ ว่า แท้จริงแล้วคุณอยากเปลี่ยนสายงาน หรืออยากจะแค่เปลี่ยนบริษัทแต่ทำงานในสายเดิมกันแน่

ตัวอย่างคำถามที่สามารถลองถามตัวเอง

- เงินเดือนมีความแตกต่างกันแค่ไหน

- สายงานเดิมที่ทำอยู่ เครียดไหม

- โอกาสก้าวหน้าเพิ่มขึ้นหรือน้อยลง

- เปรียบเทียบ Work Life Balance ของทั้ง 2 ที่

- แรงบันดาลใจในงานเดิมยังมีอยู่ไหม

- ต้องการความท้าทายใหม่ๆ มากน้อยแค่ไหน

2. หาข้อมูลเกี่ยวกับสายงานใหม่

เมื่อถามใจตัวเองแล้วได้คำตอบว่าอยากเปลี่ยนสายงานแน่ๆ ต่อมาคือต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับสายงานใหม่ที่คุณอยากเปลี่ยนไปทำให้ละเอียด ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของงาน รูปแบบการทำงาน ทักษะที่ต้องใช้ ฐานเงินเดือนเท่าไร มีตำแหน่งอะไรบ้าง มีความก้าวหน้ามากน้อยแค่ไหน หรือสายงานใหม่นี้กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่หรือไม่ 

นอกจากนี้รวมไปถึงการศึกษาเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของคนที่ทำงานสายนี้ เพราะแน่นอนว่าแต่ละสายอาชีพย่อมมีไลฟ์สไตล์การทำงานที่แตกต่างกัน การเปลี่ยนสายงานจึงเปรียบเสมือนการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ดีๆ นี่เอง ซึ่งหากคุณได้เปลี่ยนอาชีพแล้ว คุณจะต้องเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากน้อยเพียงใด

โดยการหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับงานใหม่นั้น เป็นการทำให้คุณได้รู้ว่าทักษะที่คุณมี สามารถนำมาปรับใช้กับอาชีใหม่ได้มากน้อยแค่ไหน ต้องอาศัยการปรับตัวหรือการเรียนรู้เพิ่มเติมอย่างไร เมื่อย้ายสายงานแล้ว ความก้าวหน้าจะรออยู่จริงๆ ใช่ไหม

3. ปรึกษาคนที่ทำงานอยู่ในสายนี้

การที่จะได้รู้เรื่องราวใหม่ๆ ที่คุณยังไม่มีข้อมูล อีกหนึ่งอย่างในการได้รับข้อมูลคือการสัมผัสใกล้ชิดกับคนที่อยู่ในวงการนั้นอยู่แล้ว ดังนั้นจึงควรลองดูว่ามีเพื่อนหรือคนรู้จักที่ทำงานสายนี้อยู่แล้วหรือไม่ ถ้าไม่มีลองหาตาม Facebook Group ที่เกี่ยวข้อง หรือทาง Linkedin ก็สามารถช่วยได้ เพื่อจะได้สอบถามคนที่ประสบการณ์จริงได้อย่างตรงจุด

โดยการสอบถามจากผู้มีประสบการณ์นั้น เขาจะสามารถให้ข้อมูลที่แท้จริงกับคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปแบบการทำงาน อุปสรรคหรือปัญหาต่างๆ ในสายงานนี้ คำแนะนเกี่ยวกับการเอาตัวรอดจากปัญหา รวมไปถึงวิธีการพัฒนาตัวเอง เมื่อได้ข้อมูลต่างๆ มาครบแล้ว ให้นำกลับมาเปรียบเทียบกับทักษะที่คุณมีอีกครั้ง ว่ามีจุดไหนที่ต้องเพิ่มเติมบ้าง

4. เรียนรู้ทักษะใหม่

เมื่อพิจารณาจากข้อมูลต่างๆ ได้มาแล้ว พบว่าคุณยังขาดทักษะบางอย่างอยู่ ก็ต้องเวลาที่ต้องลงมือในการเพิ่มพูนความรู้ เพราะจริงอยู่ที่คุณก็มีประสบการณ์และทักษะอื่นๆ มาจากที่ทำงานเดิม แต่อย่าลืมว่านี่คือการเปลี่ยนสายงาน ทักษะเดิมๆ ที่เคยมีติดตัว อาจใช้กับสายงานใหม่ไม่ได้ 100% ดังนั้นการเติมเต็มความรู้จึงถือว่าสำคัญสุดๆ

ซึ่งทุกวันนี้การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะคุณสามารถค้นหาทุกอย่างได้จากอินเทอร์เน็ต หรือวิธีที่หลายคนนิยมกันก็คือการเทคคอร์สพิเศษแบบออนไลน์ ซึ่งปัจจุบันมีหลายที่เปิดให้อบรมกันมากมายหลายสายงาน แถมส่วนใหญ่ยังมีใบรับรองให้เมื่อเรียนจบคอร์สอีกด้วย

5. เสริมความมั่นใจ

แน่นอนว่าข้อมูลต่างๆ ทักษะ และความรู้ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ทั้งหมดก็ต้องมาพร้อมกับความมั่นใจด้วย ดังนั้นก่อนที่จะออกจาก Comfort Zone แล้วก้าวไปค้นหาความท้าทาย คุณจึงควรสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองเสียก่อน เพื่อตัวคุณเองและยังถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับบริษัทใหม่ที่จะรับคุณเข้าทำงานด้วย พยายามคิดว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้คือความท้าทายและความก้าวหน้า อย่าเพิ่งกังวลว่าคุณจะทำงานใหม่ไม่ได้ หรือประสบการณ์ในสายงานนี้ที่ยังเป็นศูนย์ แต่ต้องบอกตัวเองว่าคุณต้องทำให้ได้

นอกจากนี้ยังควรหาคำตอบให้ได้ด้วยว่า ทำไมคุณถึงอยากเปลี่ยนสายงาน ซึ่งนอกจากจะเป็นการตอบคำถามให้ตัวเองแล้ว ยังถือเป็นการซ้อมสัมภาษณ์งานไปในตัว เพราะเมื่อถึงวันที่ต้องสัมภาษณ์งานใหม่จริงๆ นายจ้างบริษัทใหม่อาจถามคุณถึงประเด็นนี้ด้วยเช่นกัน หากมีการเตรียมตัวไปก่อน เมื่อถึงเวลาจริงๆ จะไม่ได้ไม่ตื่นเต้น แถมยังช่วยให้คุณดูเป็นมืออาชีพ และช่วยสร้างความมั่นใจให้กับว่าที่นายจ้างว่าคุณพร้อมในการเริ่มงานสายใหม่นี้จริงๆ

6. อัปเดตเรซูเม่ใหม่

อย่าลืมว่าเรซูเม่ฉบับเดียวไม่สามารถนำมาใช้สมัครงานกับทุกตำแหน่งได้ ดังนั้นจึงควรต้องมีการปรับปรุงเรซูเม่ขึ้นใหม่ให้เหมาะสมกับสายงานใหม่ที่คุณกำลังจะไป แน่นอนว่าอาจเป็นเรื่องยากสักเล็กน้อย เพราะคุณยังไม่มีประสบการณ์ในงานใหม่นี้ คุณจึงควรต้องทำให้เรซูเม่โดดเด่นและน่าสนใจกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ ที่อาจมีประสบการณ์มากกว่าคุณ

ทริคการอัปเดตเรซูเม่

- เขียนจุดเชื่อมโยงระหว่างสายงานเก่าและสายงานใหม่

- อธิบายถึงทักษะเก่าที่มี ว่าสามารถนำมาปรับใช้กับสายงานใหม่ได้อย่างไร

- หากมีการเรียนคอร์สพิเศษเกี่ยวกับงานใหม่แล้ว ให้ระบุลงไปด้วย พร้อมแนบใบรับรอง (ถ้ามี)

นอกจากเรซูเม่ที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนแล้ว คุณยังอาจต้องเขียน Cover Letter เพิ่มขึ้นต่างหากอีกหนึ่งฉบับ เพื่อเป็นการอธิบายแก่ HR ว่า เพราะอะไรคุณถึงตัดสินใจเปลี่ยนสายงานใหม่

7. อดทน ใจเย็น ไม่รีบร้อน

เรื่องของกำลังใจและแรงบันดาลใจก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะอย่าลืมว่านี่คือการเปลี่ยนสายงานใหม่ไปยังเส้นทางที่คุณแทบไม่มีประสบการณ์ ดังนั้นขั้นตอนการสมัคร การสัมภาษณ์งาน อาจต้องใช้เวลานานกว่าสายงานเดิม หากส่งใบสมัครไปแล้ว ไม่ได้รับการเรียกสัมภาษณ์ หรือถูกปฏิเสธจากขั้นตอนการสัมภาษณ์งาน ก็อย่าเพิ่งท้อ ถ้าล้มก็ให้รีบลุก แล้วเดินหน้าส่งใบสมัครไปยังที่ใหม่ พร้อมบอกกับตัวเองเสมอว่าทุกอย่างต้องอาศัยเวลา

8. อัปเดตโปรไฟล์

อีกหนึ่งทางลัดและสะดวกสุดๆ ที่ช่วยแนะนำตัวคุณให้ผู้ประกอบการรู้จักเร็วขึ้น นั่นคือการอัปเดตโปรไฟล์กับ JobsDB เพื่อให้ผู้ประกอบการค้นหาโปรไฟล์ของคุณเจอ โดยกรอกข้อมูลให้เหมาะสมกับสายงานใหม่ที่ต้องการสมัคร ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ประกอบการจะค้นหาผู้สมัครงาน ด้วยการใช้คำคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสายงานนั้นๆ ในการค้นหาโปรไฟล์ของผู้สมัครงาน

หากคุณไม่ได้ใส่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องหรือสอดคล้องกับตำแหน่งงานในสายงานใหม่ ผู้ประกอบการจะไม่สามารถค้นหาโปรไฟล์ของคุณเจอแน่นอน อีกทั้งคุณยังควรอัปเดตโปรไฟล์ของคุณอยู่เสมอ เพราะระบบค้นหาของ JobsDB นั้น จะเป็นการดึงโปรไฟล์ของผู้สมัครงานที่มีอัปเดตใหม่ขึ้นมาเป็นลำดับต้นๆ และเมื่อกรอกข้อมูลต่างๆ ครบถ้วนแล้ว อย่าลืมตั้ง  “สถานะอนุญาตให้ดูข้อมูล” ในโปรไฟล์ของคุณด้วย เพียงแค่นี้ก็รอรับการติดตามจากผู้ประกอบการในสายงานใหม่ที่คุณจะไปได้เลย

สรุปวิธีเตรียมตัวสำหรับคนอยากเปลี่ยนสายงาน

การเปลี่ยนสายงานใหม่แม้ฟังดูแล้วอาจเป็นเรื่องยาก แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแต่ต้องอาศัยสิ่งต่างๆ ที่เราแนะนำไป ทั้งเรื่องของความมั่นใจ การเตรียมตัว การเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ รวมไปถึงความกล้าในการก้าวออกจากอะไรเดิมๆ สำคัญที่สุดคือกำลังใจที่จะช่วยเติมเต็มให้ตัวคุณเองเผชิญกับสิ่งที่ท้าทายที่รออยู่ข้างหน้า

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
เพียงคลิก 'สมัครสมาชิก' เพื่อยอมรับ คำชี้แจงสิทธิ์ส่วนบุคคลของ Jobsdb โดยคุณสามารถยกเลิกอีเมลเมื่อใดก็ได้
สงวนลิขสิทธิ์ 1998-2024 โดย บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด