งานราชการมีอะไรบ้าง? เหมาะกับใคร พร้อมเจาะลึกเส้นทางสู่สายอาชีพ

งานราชการมีอะไรบ้าง? เหมาะกับใคร พร้อมเจาะลึกเส้นทางสู่สายอาชีพ
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 17 November, 2025
Share
  • งานราชการคือการทำงานในหน่วยงานของรัฐเพื่อให้บริการประชาชนและสนับสนุนการบริหารราชการ มีความมั่นคงสูง และให้สวัสดิการครอบคลุมทั้งเงินเดือน บำนาญ และประกันสุขภาพ
  • งานราชการมี 2 ประเภท คือพนักงานราชการทั่วไป ประกอบด้วย งานบริการ งานเทคนิค งานบริหารทั่วไป งานวิชาชีพเฉพาะ และงานเชี่ยวชาญเฉพาะ และอีกประเภทคือ พนักงานราชการพิเศษ ทำงานเฉพาะด้านหรือโครงการพิเศษ ใช้ความรู้ ความสามารถ และทักษะเฉพาะตัว
  • ข้าราชการได้รับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการ ได้แก่ เงินเดือนประจำ เงินประจำตำแหน่ง โบนัส ประกันสุขภาพ และบำนาญหลังเกษียณ มีโอกาสเลื่อนตำแหน่งและเข้ารับการอบรมพัฒนาทักษะในสายงาน ส่วนพนักงานราชการ จะได้รับเงินเดือนตามสัญญา ประกันสังคม สิทธิรักษาพยาบาลตามที่หน่วยงานกำหนด
  • ข้าราชการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีตำแหน่งถาวร ทำงานจนเกษียณ และได้รับบำเหน็จบำนาญ พร้อมสวัสดิการที่ครอบคลุม ส่วนพนักงานราชการ เป็นลูกจ้างของรัฐตามสัญญาจ้าง ค่าตอบแทนเริ่มต้นสูงกว่าข้าราชการแรกบรรจุ แต่จะได้รับสิทธิประโยชน์ตามประกันสังคม ไม่มีบำเหน็จบำนาญ

อยากรู้ไหมว่างานราชการมีอะไรบ้าง? งานแต่ละประเภทเหมาะกับใคร และเส้นทางสู่ความสำเร็จในสายงานราชการจริงๆ เป็นแบบไหน? บทความนี้จะพาไปเจาะลึกทุกขั้นตอน ตั้งแต่ประเภทงาน ทักษะที่ต้องมี ไปจนถึงเคล็ดลับก้าวสู่สายอาชีพราชการอย่างมั่นใจ!

ทำความรู้จัก งานราชการคืออะไร

ทำความรู้จัก งานราชการคืออะไร?

งานราชการคือการทำงานในหน่วยงานของรัฐ ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักในการให้บริการสาธารณะและดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวม พนักงานราชการหรือเจ้าหน้าที่รัฐมีบทบาทหลากหลาย เช่น การบริหารงานภาครัฐ การให้บริการด้านสาธารณสุข การศึกษา การคมนาคม หรือการบังคับใช้กฎหมาย

ลักษณะสำคัญของงานราชการ ได้แก่

  • มั่นคงและสวัสดิการชัดเจน เงินเดือน โบนัส และสวัสดิการต่างๆ ค่อนข้างแน่นอนเมื่อเทียบกับงานเอกชน
  • มีระเบียบและข้อกำหนดชัดเจน การทำงานต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบราชการ และขั้นตอนต่างๆ
  • เน้นการบริการสาธารณะ เป้าหมายคือการสร้างประโยชน์แก่ประชาชนและสังคม ไม่ใช่แสวงหากำไร
  • มีโอกาสเติบโตและเลื่อนขั้น ผ่านระบบตำแหน่งและการสอบเลื่อนขั้นตามเกณฑ์

งานราชการคือการทำงานเพื่อส่วนรวมในหน่วยงานรัฐ มีความมั่นคงและมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมและบริการประชาชน

งานราชการมีอะไรบ้าง

งานราชการมีอะไรบ้าง?

งานราชการคือการทำงานในหน่วยงานรัฐเพื่อให้บริการประชาชนและสนับสนุนนโยบายของรัฐ โดยมีหลายประเภทตามลักษณะงานและความเชี่ยวชาญของพนักงาน โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ดังนี้

พนักงานราชการทั่วไป

พนักงานราชการทั่วไปคือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานประจำของส่วนราชการ ซึ่งมีบทบาทครอบคลุมงานทั่วไปและสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานอย่างต่อเนื่อง แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มงานหลัก ได้แก่

  1. กลุ่มงานบริการ คืองานด้านบริการประชาชน เช่น เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ พนักงานธุรการ
  2. กลุ่มงานเทคนิค คืองานด้านช่างและเทคนิค เช่น ช่างซ่อมบำรุง วิศวกรเทคนิค
  3. กลุ่มงานบริหารทั่วไป คืองานด้านจัดการเอกสาร การบริหารงานภายในหน่วยงาน
  4. กลุ่มงานวิชาชีพเฉพาะ คืองานที่ต้องใช้ความรู้เฉพาะด้าน เช่น นักบัญชี นักกฎหมาย
  5. กลุ่มงานเชี่ยวชาญเฉพาะ คืองานที่ต้องมีความชำนาญพิเศษและประสบการณ์สูง เช่น นักวิจัย นักวิชาการเฉพาะด้าน

พนักงานราชการพิเศษ

พนักงานราชการพิเศษคือพนักงานราชการที่ทำงานในลักษณะต้องใช้ความรู้หรือความเชี่ยวชาญเฉพาะสูงสุด เพื่อปฏิบัติงานในด้านที่มีความสำคัญหรือจำเป็นเฉพาะ รวมถึงงานที่จำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีความสามารถเฉพาะด้าน เรียกว่ากลุ่มงานเชี่ยวชาญพิเศษ

โดยลักษณะงานมักเป็นงานหรือโครงการที่ต้องใช้ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในสาขาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้รับการยอมรับในวงการนั้นๆ มีภารกิจหรือเป้าหมายชัดเจน พร้อมระบุระยะเวลาสิ้นสุดของงานหรือโครงการ มีความสำคัญเร่งด่วน และไม่สามารถหาผู้ปฏิบัติที่เหมาะสมจากหน่วยงานปกติได้ เช่น แพทย์เฉพาะทางหรือพยาบาลเฉพาะทาง นักวิจัยหรือนักวิชาการเฉพาะด้าน วิศวกรหรือช่างเทคนิคระดับสูง ครูผู้สอนเฉพาะทาง หรือนักกฎหมายหรือที่ปรึกษากฎหมายเฉพาะด้าน

คุณสมบัติในการทำงานราชการและลักษณะต้องห้าม

ผู้ที่จะได้รับการจ้างเป็นพนักงานราชการ ต้องมีคุณสมบัติตามเกณฑ์และไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้

  1. มีสัญชาติไทย
  2. อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี
  3. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
  4. ไม่เป็นผู้พิการรุนแรงจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือเป็นผู้ไร้ความสามารถ จิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือมีโรคที่กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนได้กำหนดไว้
  5. ไม่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นกรรมการพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
  6. ไม่เคยต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีอาญา เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดโดยประมาท ลหุโทษ หรือพ้นโทษมาแล้วเกิน 5 ปี
  7. ไม่เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานรัฐอื่น
  8. ไม่เป็นข้าราชการหรือลูกจ้างของหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น
  9. ไม่มีคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามอื่นตามที่ส่วนราชการกำหนดไว้ในประกาศการสรรหาหรือเลือกสรรบุคคล ซึ่งต้องเหมาะสมกับภารกิจของหน่วยงาน

สิทธิประโยชน์และสวัสดิการของพนักงานราชการและข้าราชการ

สิทธิประโยชน์และสวัสดิการของพนักงานราชการและข้าราชการ

การทำงานในภาครัฐถือว่ามีความมั่นคงในอาชีพ พร้อมกับสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่ช่วยดูแลชีวิตทั้งในปัจจุบันและอนาคต ทั้งพนักงานราชการ และข้าราชการ จะมีรูปแบบสิทธิและสวัสดิการที่แตกต่างกัน ดังนี้

พนักงานราชการ

  • ความมั่นคงในงาน มีสัญญาจ้างระยะเวลาตามที่หน่วยงานกำหนด (ไม่เท่าข้าราชการ)
  • เงินเดือนและค่าตอบแทน ได้เงินเดือนตามตำแหน่งและคุณสมบัติ แต่ไม่มีบำนาญ
  • สวัสดิการประกันสังคม เช่น ประกันสังคม เงินชดเชยกรณีว่างงาน สิทธิรักษาพยาบาล
  • วันหยุดและลาพักผ่อน ได้วันหยุดตามสัญญาจ้างและวันหยุดราชการ
  • สิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น โบนัสหรือเงินรางวัลตามผลงาน ขึ้นอยู่กับนโยบายของหน่วยงาน

ข้าราชการ

  • ความมั่นคงในอาชีพ มีตำแหน่งและบรรจุเป็นพนักงานประจำ มีโอกาสเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งตามกฎหมาย
  • เงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง ได้เงินเดือนตามขั้นและตำแหน่ง พร้อมเงินประจำตำแหน่ง
  • บำเหน็จและบำนาญ เมื่อเกษียณจะได้รับบำนาญหรือเงินบำเหน็จตามอายุราชการ
  • สวัสดิการรักษาพยาบาล ได้รับสิทธิรักษาพยาบาลทั้งตัวเองและครอบครัว
  • วันหยุดและลาพักผ่อน วันหยุดราชการตามกฎหมายและลาพักผ่อนประจำปี
  • สิทธิประโยชน์อื่นๆ เช่น เงินช่วยเหลือกรณีต่างๆ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สวัสดิการที่พักอาศัยบางหน่วยงาน

พนักงานราชการกับข้าราชการแตกต่างกันอย่างไร?

หลายคนมักสับสนระหว่าง “พนักงานราชการ” กับ “ข้าราชการ” เพราะทั้งสองต่างก็ทำงานให้หน่วยงานภาครัฐ แต่จริงๆ แล้วมีความแตกต่างกันหลายด้าน ทั้งเรื่องสถานะการจ้างงาน การบรรจุ สัญญาจ้าง รวมถึงสิทธิประโยชน์ที่ได้รับ

โดยข้าราชการคือบุคลากรหลัก เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีตำแหน่งถาวร ได้รับการบรรจุตามกฎหมายและทำงานต่อเนื่องไปจนเกษียณอายุราชการ ทำให้มีความมั่นคงสูง มีโอกาสก้าวหน้า เลื่อนตำแหน่ง และได้รับสิทธิประโยชน์ รวมถึงบำเหน็จหรือบำนาญหลังเกษียณ และสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลที่ครอบคลุมถึงครอบครัว

ในขณะที่พนักงานราชการ คือบุคลากรที่จ้างมาเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน เป็นลูกจ้างของรัฐที่จ้างตามสัญญาจ้าง ซึ่งมักมีกำหนดระยะเวลา (ส่วนใหญ่ไม่เกิน 4 ปีและต้องต่อสัญญา) แม้ว่าเงินเดือนเริ่มต้นอาจสูงกว่าข้าราชการ แต่จะไม่ได้รับบำเหน็จบำนาญ และสิทธิประโยชน์สวัสดิการจะใช้ระบบประกันสังคมเป็นหลัก อีกทั้งยังไม่มีโอกาสเลื่อนตำแหน่งหรือเลื่อนระดับ ในสายงานเหมือนข้าราชการ หากต้องการเป็นข้าราชการก็จะต้องสอบบรรจุใหม่เท่านั้น

วิธีสมัครและขั้นตอนการบรรจุเป็นข้าราชการ

วิธีสมัครและขั้นตอนการบรรจุเป็นข้าราชการ

การเป็นข้าราชการถือเป็นอาชีพที่หลายคนใฝ่ฝัน เพราะให้ทั้งความมั่นคงและสิทธิประโยชน์มากมาย การสมัครและบรรจุเข้ารับราชการมีขั้นตอนที่ชัดเจน หากเตรียมตัวให้พร้อมก็จะเพิ่มโอกาสในการสอบผ่านและได้รับการบรรจุ

1. ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร

ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนด เช่น วุฒิการศึกษา อายุ สัญชาติไทย และไม่มีประวัติต้องห้ามตามกฎหมายข้าราชการ เช่น ไม่เป็นผู้พิการที่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ไม่เคยต้องโทษคดีทุจริต หรือถูกไล่ออกจากราชการมาก่อน ควรตรวจสอบรายละเอียดแต่ละตำแหน่งก่อนสมัครอย่างรอบคอบ หากคุณสมบัติไม่ตรง จะหมดสิทธิ์สมัครทันที แม้ผ่านการสอบไปแล้วก็ถูกตัดสิทธิ์ได้

2. ติดตามประกาศรับสมัคร

หน่วยงานราชการแต่ละแห่งจะเปิดรับสมัครในช่วงเวลาที่กำหนด การติดตามประกาศรับสมัครจากเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ. หรือเว็บไซต์ของหน่วยงานโดยตรง เป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้ผู้สมัครไม่พลาดกำหนดวันสมัคร วันสอบ และเงื่อนไขต่างๆ รวมถึงการรับข่าวสารอัปเดตเกี่ยวกับตำแหน่งว่างและเอกสารที่ต้องเตรียม

3. เตรียมเอกสารสมัคร

หลังจากทราบตำแหน่งที่ต้องการสมัคร ควรเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนตามประกาศ เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน วุฒิการศึกษา และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง การจัดเตรียมเอกสารล่วงหน้าไม่เพียงช่วยให้สมัครได้ทันเวลา แต่ยังลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น เช่น เอกสารไม่ครบหรือเอกสารหมดอายุ

4. สมัครงาน

การสมัครงานข้าราชการส่วนใหญ่ทำผ่านระบบออนไลน์ ผู้สมัครต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว ประวัติการศึกษาและประวัติการทำงานอย่างถูกต้อง พร้อมแนบเอกสารที่จำเป็น ควรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนกดยืนยันส่ง เพราะหากส่งข้อมูลผิดพลาด อาจทำให้การสมัครไม่สมบูรณ์หรือถูกตัดสิทธิ์ได้

5. การสอบคัดเลือก

ผู้สมัครต้องผ่านการสอบคัดเลือกซึ่งแบ่งเป็นหลายส่วน ได้แก่ ภาค ก ที่ทดสอบความรู้ทั่วไป ภาค ข ที่ทดสอบความรู้เฉพาะตำแหน่ง และบางตำแหน่งอาจมีภาค ค เป็นการสัมภาษณ์หรือสอบปฏิบัติ การเตรียมตัวอย่างรอบคอบ เช่น อ่านหนังสือ ฝึกทำข้อสอบ และทำความเข้าใจหน้าที่ความรับผิดชอบของตำแหน่ง จะช่วยเพิ่มโอกาสสอบผ่าน

6. ประกาศผลและบรรจุ

เมื่อสอบผ่านทุกขั้นตอน หน่วยงานจะประกาศผลและเรียกผู้สอบผ่านเข้ารับการบรรจุเป็นข้าราชการประจำ จากนั้นจะเข้ารับการปฏิบัติงานตามตำแหน่งที่ได้รับ บางตำแหน่งอาจต้องเข้ารับการฝึกอบรมหรือปฐมนิเทศก่อนเริ่มงาน การเตรียมตัวล่วงหน้าและเข้าใจขั้นตอนทั้งหมดจะช่วยให้การบรรจุเป็นไปอย่างราบรื่น

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจสมัครงานราชการ

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจสมัครงานราชการ

การสมัครงานราชการถือเป็นการเลือกอาชีพที่มั่นคงและได้รับสวัสดิการดี แต่ก่อนตัดสินใจควรพิจารณาข้อควรรู้หลายด้าน

  • ข้อจำกัดด้านสัญญาและการโยกย้าย ข้าราชการอาจถูกย้ายตำแหน่งหรือสถานที่ทำงานตามนโยบายของหน่วยงาน และมีข้อจำกัดในการลาออกหรือเปลี่ยนสายงาน
  • ขั้นตอนการสมัครและแข่งขันสูง การเข้ารับราชการมักต้องผ่านการสอบคัดเลือกทั้งข้อเขียนและสัมภาษณ์ มีการแข่งขันสูง ต้องเตรียมตัวล่วงหน้า
  • สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ ข้าราชการมีสวัสดิการ เช่น ประกันสุขภาพ เงินบำนาญ หรือโบนัสประจำปี แต่บางสวัสดิการอาจมีเงื่อนไขหรือจำกัด
  • ความก้าวหน้าและตำแหน่งหน้าที่ การเลื่อนตำแหน่งมักขึ้นอยู่กับประสบการณ์ จำนวนปีที่ทำงาน และผลการประเมิน ไม่เหมือนภาคเอกชนที่อาจเลื่อนตำแหน่งเร็วตามผลงาน
  • วินัยและข้อกำหนดทางราชการ ข้าราชการต้องปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ และมารยาทราชการ ซึ่งอาจจำกัดความยืดหยุ่นในการทำงานบางรูปแบบ
  • ผลกระทบต่อชีวิตส่วนตัว การถูกย้ายตำแหน่งหรือสังกัดหน่วยงานต่างจังหวัดอาจกระทบชีวิตครอบครัวและการใช้ชีวิตประจำวัน
  • ความรู้และทักษะที่จำเป็น ผู้สมัครควรมีความรู้พื้นฐานตามสายงาน เตรียมสอบ ความเข้าใจในระบบราชการ และทักษะด้านคอมพิวเตอร์หรือภาษาต่างประเทศ (ถ้าจำเป็น)
  • โอกาสฝึกอบรมและพัฒนาตัวเอง งานราชการมีโอกาสเข้าร่วมอบรม พัฒนาความรู้ และได้รับประกาศนียบัตรซึ่งช่วยต่อยอดอาชีพ

สรุป

งานราชการคือการทำงานในหน่วยงานรัฐเพื่อให้บริการประชาชน มีความมั่นคงสูงและสวัสดิการครอบคลุม เช่น เงินเดือน บำนาญ และประกันสุขภาพ แบ่งเป็นพนักงานราชการทั่วไปที่ทำงานสนับสนุนและพนักงานราชการพิเศษที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ข้าราชการมีความมั่นคงและสิทธิประโยชน์มากกว่า ส่วนพนักงานราชการเป็นการจ้างตามสัญญา การสมัครข้าราชการต้องตรวจสอบคุณสมบัติ ติดตามประกาศ เตรียมเอกสาร สมัคร และผ่านการสอบคัดเลือก ก่อนประกาศผลและบรรจุ ตลอดจนควรพิจารณาข้อควรรู้ด้านสัญญา วินัย และความก้าวหน้าในการทำงาน

ถ้าคุณสนใจงานราชการหรือภาครัฐแต่ยังไม่แน่ใจว่าต้องเริ่มอย่างไร โอกาสใหม่ๆ ที่ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายในชีวิต อย่าลืมหางานผ่าน Jobsdb แพลตฟอร์มหางานที่รวบรวมตำแหน่งงานหลากหลายสาขา ครอบคลุมทุกสายอาชีพ!

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับงานราชการ (FAQ)

หากมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจเกี่ยวกับงานราชการ ลองอ่านคำถามที่พบบ่อยต่อไปนี้เพื่อความเข้าใจมากขึ้น!

งานข้าราชการมีอะไรบ้าง?

งานข้าราชการครอบคลุมหลายสาขา ทั้งสายบริหาร การศึกษา การแพทย์ วิศวกรรม การเงิน การตลาด และงานราชการเฉพาะด้าน เช่น งานกฎหมายหรือสาธารณสุข แต่ละหน่วยงานจะมีตำแหน่งและหน้าที่แตกต่างกันตามภารกิจขององค์กร

ต้องเรียนจบอะไร ถึงจะเป็นราชการได้?

การสมัครงานราชการส่วนใหญ่ต้องมีวุฒิการศึกษาขั้นต่ำตามตำแหน่ง เช่น ปวส. ปริญญาตรี หรือสูงกว่า ขึ้นอยู่กับสายงานและความเชี่ยวชาญบางตำแหน่งอาจต้องมีวุฒิทางวิชาชีพเฉพาะ เช่น แพทย์ พยาบาล หรือครู

งานราชการหายากไหม?

งานราชการมีจำนวนจำกัดและมักมีการแข่งขันสูง เพราะให้ความมั่นคงและสวัสดิการดี การติดตามประกาศรับสมัครอย่างต่อเนื่องและเตรียมตัวสอบให้พร้อม จะช่วยเพิ่มโอกาสในการบรรจุ

พนักงานราชการมีโอกาสก้าวหน้าเป็นข้าราชการไหม?

โดยทั่วไปพนักงานราชการและข้าราชการเป็นระบบแยกกัน พนักงานราชการส่วนใหญ่ไม่สามารถเลื่อนเป็นข้าราชการโดยตรง แต่บางครั้งหน่วยงานอาจเปิดโอกาสสอบบรรจุเป็นข้าราชการสำหรับผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

More from this category: เทรนด์งานยอดฮิตและเงินเดือน

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
ท่านได้ยอมรับคำประกาศเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ท่านได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อยินยอมให้ Jobsdb และบริษัทในเครือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถยกเลิกได้ทุกเวลา