Key Takeaway
พาสปอร์ตคือเอกสารประจำตัวที่ใช้สำหรับเดินทางไปต่างประเทศ และเป็นหลักฐานยืนยันตัวตนที่ได้รับการรับรองจากรัฐ ช่วยให้การผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างประเภทการทำพาสปอร์ตคือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
การทำพาสปอร์ตเพื่อไปทำงาน ต้องเตรียมบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และรูปถ่ายตามเกณฑ์ของกรมการกงสุล พร้อมหนังสือรับรองการทำงานหรือสัญญาจ้างงานในต่างประเทศ รวมถึงเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามที่กำหนด เพื่อใช้ยืนยันเหตุผลการเดินทางและให้ขั้นตอนยื่นคำร้องราบรื่น
ทำพาสปอร์ตด้วยเครื่องอัตโนมัติ KIOSK ได้ที่ปทุมวัน (MBK Center) บางใหญ่ (Central Westgate) ศรีนครินทร์ (ธัญญาพาร์ค) กรมการกงสุลแจ้งวัฒนะ พัทยา เชียงราย อุดรธานี สงขลา และยะลา
ข้อควรรู้ในการทำพาสปอร์ต คือควรจองคิวล่วงหน้าผ่านแอปหรือเว็บไซต์ เตรียมเอกสารตัวจริงเท่านั้น ไม่สามารถใช้สำเนาแทนได้ และอย่าลืมว่าพาสปอร์ตต่างจากวีซ่า หากไปทำงานต้องขอวีซ่าทำงานเพิ่มเติม รวมถึงควรเผื่อเวลาอย่างน้อย 7–10 วันก่อนเดินทางจริงเพื่อเลี่ยงปัญหาความล่าช้า
ถ้าคุณวางแผนจะไปทำงานต่างประเทศ สิ่งแรกที่ต้องมีคือ “พาสปอร์ต” เพราะเป็นเอกสารยืนยันตัวตนและใช้ในการเดินทาง พนักงานหลายคนอาจสงสัยว่าต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ทำพาสปอร์ตได้ที่ไหน และมีขั้นตอนอย่างไร บทความนี้จะพาไปดูข้อมูลสำคัญที่ควรรู้ ตั้งแต่เอกสารที่ต้องเตรียม สถานที่ทำพาสปอร์ต ไปจนถึงขั้นตอนการทำแบบเข้าใจง่าย
พาสปอร์ต (Passport) หรือหนังสือเดินทาง คือเอกสารประจำตัวระหว่างประเทศที่ใช้ยืนยันตัวตนและสัญชาติของผู้ถือ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเพื่อท่องเที่ยว ศึกษาต่อ หรือทำงาน และทำธุรกรรมต่างๆ เช่น การเปิดบัญชีธนาคาร หรือทำประกันสุขภาพในต่างประเทศได้
สำหรับการทำงานต่างประเทศ การทำพาสปอร์ตคือสิ่งจำเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นพนักงานบริษัทที่จะถูกส่งไปทำงานต่างประเทศ ผู้ที่จะไปทำงานต่างประเทศชั่วคราว เช่น โครงการฝึกงาน หรือแรงงานชั่วคราว ฟรีแลนซ์หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระที่มีสัญญาทำงานกับบริษัทในต่างประเทศ ผู้ที่ต้องเดินทางไปทำงานตามสัญญาจ้างจากนายจ้างต่างประเทศ โดยต้องใช้เป็นหลักฐานยืนยันตัวตนและยื่นขอใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) หรือ ขอวีซ่าทำงาน (Work Visa) ตามกฎหมายของประเทศปลายทาง ซึ่งเอกสารเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้สามารถทำงานอย่างถูกกฎหมาย พาสปอร์ตเป็นสิ่งที่ยืนยันตัวตนและสัญชาติของผู้ถือ
การทำพาสปอร์ตต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของกรมการกงสุลไทย และประเทศปลายทางบางประเทศอาจมีกฎเกณฑ์เฉพาะ เช่น อายุพาสปอร์ตต้องไม่ต่ำกว่า 6 เดือนก่อนหมดอายุ หรือเอกสารประกอบการขอวีซ่าต้องครบถ้วน ผู้เดินทางควรตรวจสอบทั้งกฎหมายไทยและข้อกำหนดของประเทศปลายทางเพื่อให้การทำงานต่างประเทศเป็นไปอย่างราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมาย
การทำพาสปอร์ตเพื่อไปทำงาน จำเป็นต้องเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนเพื่อให้การยื่นคำร้องเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว โดยเอกสารที่ต้องเตรียมจะแตกต่างจากการทำพาสปอร์ตทั่วไปเล็กน้อย เพราะต้องยืนยันเหตุผลในการเดินทางเพื่อทำงาน
เอกสารที่ต้องเตรียม ได้แก่
บัตรประชาชนตัวจริง และสำเนา
ทะเบียนบ้านตัวจริง และสำเนา
รูปถ่ายขนาดพาสปอร์ต ตามข้อกำหนดของกรมการกงสุล (ปกติขนาด 2x2 นิ้ว)
หนังสือรับรองการทำงานจากนายจ้าง หรือสัญญาจ้างงานในต่างประเทศ เพื่อยืนยันเหตุผลการเดินทาง
เอกสารอื่นๆ ตามที่สำนักงานหนังสือเดินทางกำหนด เช่น เอกสารยืนยันที่อยู่ในต่างประเทศ หรือจดหมายเชิญจากบริษัทปลายทาง
หากใครที่ไม่ได้ทำพาสปอร์ตสำหรับไปทำงานก็ไม่ต้องเตรียมเอกสารสำหรับการทำงานหรือนายจ้างมา เพียงเท่านี้การเตรียมเอกสารก็ครบถ้วนและถูกต้อง และช่วยให้ขั้นตอนการยื่นคำร้องทำพาสปอร์ตเพื่อไปทำงาน หรือไปเที่ยว รวดเร็วและลดโอกาสเกิดปัญหาหรือการถูกขอเอกสารเพิ่มเติมภายหลัง
การทำพาสปอร์ตไปทำงานต่างประเทศมีขั้นตอนไม่ต่างจากการทำพาสปอร์ตทั่วไปมากนัก เพื่อให้การยื่นคำร้องและรับพาสปอร์ตเป็นไปอย่างราบรื่น โดยสามารถสรุปขั้นตอนหลักได้ดังนี้
ตรวจสอบเอกสารสำคัญ เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน รูปถ่าย หนังสือรับรองการทำงาน หรือเอกสารจากนายจ้างในต่างประเทศ เพื่อให้พร้อมก่อนยื่นคำร้อง
เริ่มต้นจากการจองคิวทำพาสปอร์ตออนไลน์เพื่อหลีกเลี่ยงการรอคิวนาน โดยสามารถจองผ่านแอปพลิเคชัน DMT Passport หรือเว็บไซต์ของกรมการกงสุล (www.qpassport.in.th) ผู้ขอต้องเลือกวันที่ สาขา และช่วงเวลาที่ต้องการ จากนั้นระบบจะออก QR Code สำหรับแสดงในวันไปทำพาสปอร์ตจริง
ในวันและเวลาที่จองไว้ ผู้ขอต้องเดินทางไปยังสำนักงานหนังสือเดินทางที่เลือกไว้ให้ตรงเวลา ควรเผื่อเวลาในการเดินทางล่วงหน้า และเตรียมเอกสารตัวจริงให้พร้อม เช่น บัตรประชาชน หนังสือเดินทางเล่มเดิม (ถ้ามี) และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามกรณี
เมื่อถึงสำนักงานแล้ว เจ้าหน้าที่จะให้แบบฟอร์มคำร้องทำพาสปอร์ต ซึ่งสามารถกรอกได้หน้างาน หรือบางกรณีอาจเป็นระบบกรอกข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต ควรกรอกให้ถูกต้อง ครบถ้วน โดยเฉพาะชื่อ-นามสกุล ภาษาอังกฤษ และข้อมูลติดต่อ สำหรับในกรณีทำพาสปอร์ตไปทำงานอย่าลืมระบุวัตถุประสงค์การใช้พาสปอร์ต เช่น “เพื่อทำงานต่างประเทศ”
หลังจากกรอกแบบฟอร์มเรียบร้อย ให้นำเอกสารทำพาสปอร์ตทั้งหมดไปยื่นที่จุดรับเอกสาร เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบอีกครั้งว่าเอกสารทำพาสปอร์ตครบถ้วนและตรงตามที่ระบบลงทะเบียนไว้ พร้อมรับบัตรคิวเพื่อรอเรียกทำขั้นตอนถัดไป
เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลจากบัตรประชาชนและแบบฟอร์มที่กรอกไว้ หากพบข้อผิดพลาดสามารถแก้ไขได้ทันที จากนั้นให้เซ็นชื่อในระบบดิจิทัล และถ่ายรูปตามมาตรฐานหนังสือเดินทาง (ห้ามใส่แว่น หมวก หรือเครื่องประดับที่บดบังใบหน้า) เพื่อใช้ในหน้าพาสปอร์ต
เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการถ่ายรูปและตรวจข้อมูลเจ้าหน้าที่จะแจ้งให้ชำระค่าธรรมเนียมตามประเภทของพาสปอร์ต โดยค่าธรรมเนียมพาสปอร์ตแบบธรรมดา (Electronic Passport) อยู่ที่ 1,000 บาท และหากต้องการบริการด่วนพิเศษ หรือ จัดส่งทางไปรษณีย์จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ผู้ขอสามารถชำระได้ทั้งเงินสด บัตรเครดิต หรือแอปพลิเคชันธนาคารที่รองรับ
หลังจากชำระเงินเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะออกใบเสร็จรับเงินและแจ้งหมายเลขติดตามสถานะพาสปอร์ต ให้กับผู้ขอเก็บไว้ ซึ่งสามารถใช้ตรวจสอบสถานะการจัดส่งหรือการรับเล่มพาสปอร์ตผ่านทางเว็บไซต์หรือแอป DMT Passport ได้ตลอดเวลา ถือเป็นหลักฐานสำคัญควรเก็บไว้จนกว่าจะได้รับเล่มจริง
หลังจากทำพาสปอร์ตแล้ว โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 2–5 วันทำการ ในการจัดทำเล่ม หากผู้ขอเลือกรับด้วยตนเองจะต้องเดินทางกลับไปยังสำนักงานที่ทำเรื่องไว้ตามวันที่นัดหมาย หรือหากเลือกใช้บริการจัดส่งทางไปรษณีย์ EMS ก็เพียงรอรับเล่มที่บ้าน โดยไม่ต้องเดินทางกลับไปอีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้ขอควรตรวจสอบข้อมูลในเล่มทันทีเมื่อได้รับ เพื่อความถูกต้องก่อนนำไปใช้งานจริงเพื่อใช้ยื่นขอวีซ่าทำงานต่างประเทศได้
หากทำพาสปอร์ตเพื่อไปทำงาน ควรเผื่อเวลาอย่างน้อย 2–3 สัปดาห์ก่อนวันเดินทาง และตรวจสอบว่าต้องใช้ วีซ่าทำงานหรือใบอนุญาตทำงาน ของประเทศปลายทางด้วย
สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางด่วนเพื่อทำงาน การทำพาสปอร์ตแบบเร่งด่วนเป็นทางเลือกที่ช่วยให้สามารถออกเดินทางได้ทันเวลา โดยไม่ต้องรอนานเหมือนการทำพาสปอร์ตปกติ
การขอพาสปอร์ตแบบเร่งด่วนจำเป็นต้องมีข้อกำหนดเฉพาะ เช่น ต้องมีหนังสือรับรองจากนายจ้างหรือหน่วยงานที่เรียกร้องให้เดินทางด่วน พร้อมเอกสารส่วนตัว เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และรูปถ่ายตามขนาดที่กำหนด รวมถึงเอกสารอื่นๆ ที่สถานทูตหรือสำนักงานหนังสือเดินทางกำหนด เพื่อยืนยันเหตุผลความจำเป็นในการเดินทาง
ขั้นตอนการทำพาสปอร์ตด่วนคล้ายกับการทำปกติ แต่มีการประสานงานเพื่อให้ได้รับเล่มเร็วขึ้น โดยผู้ขอสามารถยื่นเรื่องพร้อมเอกสารครบถ้วนและชำระค่าธรรมเนียมพิเศษสำหรับการเร่งด่วน ซึ่งมักสูงกว่าค่าธรรมเนียมปกติและใช้เวลาการดำเนินการเพียงไม่กี่วัน ทั้งนี้ควรตรวจสอบกับสำนักงานหนังสือเดินทางหรือสถานทูตก่อนยื่นคำร้องเพื่อให้แน่ใจว่าขั้นตอนถูกต้องครบถ้วน
หากคุณมีแพลนทำพาสปอร์ตเพื่อไปทำงาน หรือไปเที่ยว คำถามแรกที่มักเกิดขึ้นคือ “ต้องไปทำที่ไหน?” ปัจจุบันกรมการกงสุลได้เปิดสำนักงานหนังสือเดินทางหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน โดยสามารถเลือกสถานที่ใกล้บ้านหรือเดินทางสะดวกได้ตามต้องการ แต่ละแห่งมีรูปแบบการให้บริการที่แตกต่างกัน ทั้งแบบปกติและแบบ KIOSK อัตโนมัติ ลองมาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง!
สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง สามารถไปทำพาสปอร์ตได้หลายจุด ซึ่งบางแห่งเปิดให้บริการเฉพาะวันธรรมดา บางแห่งเปิดถึงวันเสาร์ และบางแห่งมีเครื่อง KIOSK สำหรับขอทำพาสปอร์ตแบบเร่งด่วนด้วยตนเอง
กรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ (มีเครื่อง KIOSK) ตั้งอยู่ที่ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา (รับทำเฉพาะหนังสือเดินทางราชการเท่านั้น) ตั้งอยู่ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา (อาคารบี ประตูฝั่งทิศตะวันออก) ชั้น 7 ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ
ศรีนครินทร์ (สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว มีเครื่อง KIOSK) ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าธัญญาพาร์ค ศรีนครินทร์ ชั้น 1 โซน C
สายใต้ใหม่ - ตลิ่งชัน (สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว) ตั้งอยู่ในอาคาร SC Plaza สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) ถนนบรมราชชนนี
MRT คลองเตย (สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว) ตั้งอยู่ในสถานีรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) คลองเตย ถนนพระราม 4 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
มีนบุรี (สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว) ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าบิ๊กซี สาขาสุวินทวงศ์ 29 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ
ปทุมวัน (สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว มีเครื่อง KIOSK) ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซนเตอร์ (MBK CENTER) ชั้น 5 โซน A ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
ธัญบุรี (สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว) ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ก รังสิต ชั้น 3 ถนนพหลโยธิน ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
บางใหญ่ (สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว มีเครื่อง KIOSK) ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เวสต์เกต ชั้น G ถนนรัตนาธิเบศร์ ตำบลเสาธงหิน อำเภอบางใหญ่ นนทบุรี
สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในต่างจังหวัด ไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้าเมืองหลวงเพื่อทำพาสปอร์ตให้ยุ่งยาก เพราะกรมการกงสุลได้จัดตั้งสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวกระจายอยู่ตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยสำนักงานเหล่านี้มักตั้งอยู่ในจังหวัดใหญ่ ศูนย์กลางของภูมิภาค หรือห้างสรรพสินค้าที่เดินทางสะดวก รองรับทั้งการทำพาสปอร์ตใหม่และต่ออายุ ซึ่งครอบคลุมครบทุกภาคของประเทศ เช่น
ภาคกลาง พิษณุโลก นครสวรรค์ และประจวบคีรีขันธ์
ภาคเหนือ เชียงราย เชียงใหม่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี บุรีรัมย์ อุดรธานี และหนองคาย
ภาคตะวันออก จันทบุรี สระแก้ว และพัทยา
ภาคใต้ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต สงขลา และยะลา
สามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อจุดบริการล่าสุดในจังหวัดใกล้เคียงได้ที่เว็บไซต์กรมการกงสุล https://www.consular.go.th ก่อนเดินทางเข้าไปใช้บริการได้
สำหรับคนที่วางแผนไปทำงานต่างประเทศ หรือไปเที่ยว การทำพาสปอร์ตถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ เพราะพาสปอร์ตเปรียบเสมือนบัตรประจำตัวระหว่างประเทศที่ใช้ยืนยันตัวตนและสิทธิ์ในการเดินทาง ข้อควรรู้ต่างๆ ที่เกี่ยวกับการทำพาสปอร์ต เพื่อให้การทำพาสปอร์ตเป็นไปอย่างรวดเร็วและไม่ติดขัดระหว่างการเดินทางไปทำงาน
ควรจองคิวล่วงหน้า การทำพาสปอร์ตในหลายจุดบริการต้องจองคิวผ่านแอปฯ DLT Passport หรือเว็บไซต์ www.qpassport.in.th ก่อนเข้ารับบริการ
เอกสารต้องเป็นต้นฉบับเท่านั้น ทั้งบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน หรือหนังสือเดินทางเล่มเก่าต้องนำตัวจริงไปแสดง ไม่สามารถใช้สำเนาแทนได้
พาสปอร์ตต่างจากวีซ่า พาสปอร์ตเป็นแค่เอกสารแสดงตัวตน แต่การทำงานต้องมี วีซ่าทำงาน (Work Visa/Permit) จากประเทศปลายทางด้วย
กรณีไปทำงานเอง (สมัครตรง) ต้องตรวจสอบกฎระเบียบและประเภทวีซ่าของประเทศปลายทางให้ชัดเจน รวมถึงเอกสารที่ต้องใช้เพิ่มเติม เช่น สัญญาจ้างงาน
ระยะเวลาการรับเล่มไม่เท่ากันในแต่ละพื้นที่ หากเลือกจัดส่งทางไปรษณีย์ ใช้เวลาประมาณ 3-5 วันทำการ (ขึ้นอยู่กับพื้นที่) หรือหากรับด้วยตนเองที่จุดบริการก็สามารถรับได้ภายใน 2-3 วัน
ไม่สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปทำแทนได้ ผู้ยื่นขอพาสปอร์ตต้องเดินทางไปด้วยตัวเองทุกครั้ง เพื่อทำการสแกนใบหน้า ลายนิ้วมือ และเซ็นรับรองเอกสาร
ควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อย เพื่อให้ภาพถ่ายพาสปอร์ตผ่านเกณฑ์ ควรสวมเสื้อไม่มีลวดลาย หรือเสื้อปกเรียบ ไม่ใส่หมวก แว่นตาดำ หรือหน้ากากขณะถ่ายภาพ
ไม่ควรทำพาสปอร์ตใกล้วันเดินทางเกินไป ควรเผื่อเวลาอย่างน้อย 7-10 วันทำการก่อนวันเดินทางจริง เพราะอาจมีเหตุขัดข้องหรือความล่าช้าในการรับเล่ม
หากวางแผนและเตรียมตัวตามข้อควรรู้เหล่านี้ จะช่วยให้การทำพาสปอร์ตเป็นเรื่องง่ายและไม่มีสะดุด
การทำพาสปอร์ตเพื่อไปทำงาน หรือไปเที่ยวต่างประเทศไม่ได้ซับซ้อน เพียงเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน และสัญญาจ้างงาน จากนั้นจองคิวล่วงหน้า เดินทางไปยังสำนักงานหนังสือเดินทาง ยื่นคำร้อง ตรวจสอบข้อมูล ชำระค่าธรรมเนียม และรอรับเล่มภายในไม่กี่วัน ทั้งแบบรับเองหรือจัดส่งทางไปรษณีย์ นอกจากนี้ยังมีบริการเร่งด่วนสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางกะทันหัน และจุดบริการกระจายอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด เพื่อความสะดวก พนักงานทุกคนจึงควรเตรียมตัวล่วงหน้าและตรวจสอบกฎระเบียบของประเทศปลายทางให้ครบถ้วน เพื่อให้การไปทำงานต่างประเทศราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมาย
ถ้าคุณกำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์การทำงานที่ต่างประเทศ อย่าลืมเริ่มต้นจากการหางานที่ใช่ผ่าน JobsDB แพลตฟอร์มหางานที่รวบรวมตำแหน่งงานหลากหลายสาขา ช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับบริษัทชั้นนำ และก้าวสู่เส้นทางอาชีพที่ใฝ่ฝันได้ง่ายขึ้น!
ต่อพาสปอร์ตและทำพาสปอร์ตจองคิวออนไลน์สะดวก รวดเร็ว ง่ายๆ ไม่กี่ขั้นตอน
Work and Holiday วีซ่าคืออะไร? ใช้ชีวิตต่างแดนได้ทั้งปีแบบคุ้มค่า
ขึ้นเครื่องบินครั้งแรกเตรียมตัวอย่างไร คู่มือฉบับมือใหม่ควรรู้ก่อนเดินทาง
สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะทำพาสปอร์ตครั้งแรกสำหรับไปเที่ยว หรือทำงาน แล้วมีข้อสงสัยเกี่ยวกับกรณีต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น คำถามต่อไปนี้จะช่วยคลายข้อข้องใจ และทำให้คุณเตรียมตัวได้อย่างถูกต้องและครบถ้วนมากขึ้น
ปัจจุบันยังไม่สามารถทำพาสปอร์ตออนไลน์ทั้งหมดได้ แต่สามารถจองคิวล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ https://consular.mfa.go.th เพื่อประหยัดเวลาในการรอคิวหน้างาน จากนั้นจึงต้องเดินทางไปยื่นเอกสารและทำรายการด้วยตัวเองที่สำนักงานหนังสือเดินทาง
ได้ เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีสามารถทำพาสปอร์ตได้ โดยต้องมี บิดา มารดา หรือผู้ปกครองตามกฎหมายมาด้วย และยินยอมให้ทำพาสปอร์ต พร้อมแสดงเอกสารสำคัญ เช่น สูติบัตร ทะเบียนบ้าน และบัตรประชาชนของผู้ปกครอง
ต้องรีบแจ้งความกับสถานีตำรวจเพื่อขอใบแจ้งความ จากนั้นนำใบแจ้งความไปยื่นขอทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ที่สำนักงานหนังสือเดินทาง พร้อมเอกสารประกอบตัวตน เช่น บัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน
เมื่อพาสปอร์ตหมดอายุแล้ว ไม่สามารถต่ออายุได้ ต้องทำเล่มใหม่ โดยเตรียมเอกสารเหมือนกับการทำพาสปอร์ตครั้งแรก ได้แก่ บัตรประชาชนตัวจริง และทำการจองคิวก่อนเข้าใช้บริการตามปกติ