ควรเรียกเงินเดือนเพิ่มเท่าไร ขอขึ้นเงิน ย้ายงาน จบใหม่ ต่อรองอย่างไร?

ควรเรียกเงินเดือนเพิ่มเท่าไร ขอขึ้นเงิน ย้ายงาน จบใหม่ ต่อรองอย่างไร?
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 09 December, 2025
Share
  • การขอขึ้นเงินเดือนที่บริษัทเดิมควรอยู่บนพื้นฐานของผลงานและคุณค่าที่คุณสร้างให้บริษัท ประเมินตัวเองให้รอบด้านและพิจารณาตลาดแรงงานเพื่อให้ตัวเลขเรียกเพิ่มสมเหตุสมผล
  • การย้ายงานมักมีโอกาสเรียกเงินเดือนเพิ่มสูงกว่า อยู่ในช่วง 15–30% ของเงินเดือนเดิม ขึ้นอยู่กับทักษะ ประสบการณ์ และมูลค่าที่จะนำไปสู่ตำแหน่งใหม่
  • แม้เด็กจบใหม่จะยังไม่มีประสบการณ์เต็มตัว แต่สามารถต่อรองเงินเดือนได้โดยอิงจากวุฒิการศึกษา ทักษะ และผลงานระหว่างเรียน รวมถึงการดูอัตราเงินเดือนเริ่มต้นในสายงานเพื่อให้เรียกเงินสมเหตุสมผล

เคยรู้สึกไหมว่า...ถึงเวลาควรได้เงินเดือนเพิ่ม แต่ไม่แน่ใจว่าควรเรียกเงินเดือนเพิ่มเท่าไรถึงจะ “พอดี” ไม่มากไปจนถูกปฏิเสธ และไม่ต่ำเกินไปจนพลาดโอกาส? ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานที่อยู่กับบริษัทเดิมมาหลายปีแล้วอยากขอขึ้นเงินเดือน คนที่กำลังจะย้ายงานใหม่ หรือแม้แต่เด็กจบใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นเส้นทางอาชีพ เรื่อง “การเรียกเงินเดือน” คือศิลปะที่ต้องอาศัยทั้งข้อมูล ความมั่นใจ และเทคนิคการต่อรองอย่างมืออาชีพ!

7 ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนเรียกเงินเดือนเพิ่ม

7 ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนเรียกเงินเดือนเพิ่ม

ก่อนจะขอขึ้นเงินเดือน ไม่ใช่แค่ความอยากได้เพียงอย่างเดียวที่สำคัญ แต่ควรพิจารณาปัจจัยหลายด้านเพื่อให้คำขอของคุณมีน้ำหนักและสมเหตุสมผล การเตรียมตัวและทำความเข้าใจเรื่องเหล่านี้จะช่วยให้การพูดคุยเรื่องเงินเดือนราบรื่นขึ้นและมีโอกาสสำเร็จสูงกว่า

1. ค่าประสบการณ์และทักษะเฉพาะทาง

ค่าประสบการณ์หมายถึงจำนวนปีที่ทำงานในสายงานนั้นๆ รวมถึงคุณภาพของประสบการณ์ที่สะสมมา หากมีทักษะเฉพาะทาง (Specialized Skills) เช่น Data Analytics, SEO, AI หรือ Digital Strategy ซึ่งเป็นที่ต้องการในตลาด สิ่งเหล่านี้สามารถเป็นเหตุผลที่ดีในการขอขึ้นเงินเดือน เพราะบริษัทมักให้ค่าตอบแทนสูงขึ้นสำหรับคนที่มีคุณค่าเฉพาะตัว หากใครที่เพิ่งจบใหม่หรือทำงานมาได้ไม่กี่ปี อาจจะใช้การเรียนเพิ่มเติมและฝึกอบรมในหลักสูตรต่างๆ รวมถึงผลงานชิ้นโบแดงอันสุดแสนจะภูมิใจ สามารถนำมาพิจารณาแปรเปลี่ยนเป็นค่าเงินได้เช่นเดียวกัน

2. ระดับตำแหน่งงานและความรับผิดชอบ

หากได้รับมอบหมายงานเพิ่มขึ้น เช่น รับผิดชอบงานที่ซับซ้อนขึ้น ควบคุมงบประมาณ ต้องดูแลทีม ตัดสินใจในระดับสำคัญ หรือวางแผนโครงการแทนหัวหน้า นั่นเป็นเหตุผลที่ดีในการขอปรับเงินเดือนให้สอดคล้องกับภาระงาน การเปลี่ยนจาก “ผู้ปฏิบัติ” ไปสู่ “ผู้บริหารจัดการ นั้นหมายถึงการได้เพิ่มคุณค่าให้บริษัทในระดับโครงสร้าง

3. มูลค่าตลาดแรงงาน

ศึกษาว่าค่าตอบแทนสำหรับตำแหน่งงานและสาขาในตลาดเป็นเท่าไร และใช้ข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ก่อนขอขึ้นเงินเดือน เพื่อจะได้ทราบว่าตำแหน่งเดียวกันในตลาดได้ค่าตอบแทนเฉลี่ยเท่าไร การมีตัวเลขอ้างอิงที่จับต้องได้จะช่วยให้การเจรจาเป็นไปอย่างมีเหตุผล ไม่รู้สึกเหมือนการต่อรองด้วยความรู้สึก ทำให้โอกาสที่จะได้รับเงินเดือนเพิ่มก็สูงตามไปด้วย

4. ภาวะเศรษฐกิจและนโยบายบริษัท

สภาพเศรษฐกิจโดยรวมและนโยบายการขึ้นเงินเดือนของบริษัทมีผลต่อความเป็นไปได้ในการเรียกเงินเพิ่ม หากบริษัทอยู่ในช่วงขยายตัว มีกำไรสูง บริษัทเพิ่งผ่านโครงการใหญ่สำเร็จ หรือช่วงรีวิวผลงานประจำปี โอกาสที่คำขอเพิ่มเงินเดือนจะได้รับการตอบรับก็มากขึ้น แต่ถ้าเศรษฐกิจซบเซาหรือบริษัทอยู่ในช่วงประหยัด อาจต้องเตรียมตัวเจรจาอย่างระมัดระวัง

5. ทักษะใหม่ที่เพิ่มขึ้น

ตลาดแรงงานให้ค่ากับ “คนที่ไม่หยุดพัฒนา หากเพิ่งจบหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับงาน เช่น Data Visualization, Performance Marketing หรือ Project Management การนำเสนอว่าได้ลงทุนเวลาเรียนรู้เพื่อเพิ่มศักยภาพ เป็นเหตุผลที่ดีและชัดเจนในการขอปรับเงินเดือน เพราะนั่นหมายถึงสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัทได้มากขึ้น

6. สวัสดิการและผลตอบแทนรวม

นอกจาก “ตัวเลขรายได้” ที่ต้องพิจารณาแล้ว สวัสดิการและค่าตอบแทนอื่นๆ ก็สำคัญไม่แพ้กัน เช่น โบนัสปลายปี ประกันสุขภาพ ในบางบริษัทอาจแลกด้วยความยืดหยุ่นในการทำงาน เช่น Work from Home หรือ Hybrid เข้าออฟฟิศ 2–3 วันต่อสัปดาห์ พร้อมเบิกค่าเดินทาง ค่าอินเทอร์เน็ต หรือมีอาหารกลางวันให้ฟรี รวมถึงสามารถเบิกค่าเรียนคอร์สต่างๆ เพื่อพัฒนาตัวเองได้ ซึ่งเมื่อรวมแล้วอาจคุ้มค่ากว่าการได้เงินเดือนเพิ่มเพียงเล็กน้อย ควรมองภาพรวมของ Total Compensation ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขเงินเดือนเท่านั้น

7. ค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ ที่เพิ่มเข้ามา

ส่วนนี้คือค่าใช้จ่ายแฝงที่หลายคนมักมองข้าม เช่น เดินทางไกลขึ้น ย้ายสาขาใหม่ หรือการย้ายงานใหม่ซึ่งไม่ใช่แค่เปลี่ยนตำแหน่ง แต่เปลี่ยนสังคมรอบตัวด้วย ซึ่งรวมถึงค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าภาษีสังคม และค่าใช้จ่ายชีวิตประจำวัน หากออฟฟิศตั้งอยู่ใจกลางเมือง ค่าครองชีพย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย ไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตก็จะเปลี่ยนไป สิ่งเหล่านี้ถือเป็น Fix cost ที่ควรคำนึงถึง เพราะมีผลต่อการพิจารณาเรียกเงินเดือน แต่ต้องนำเสนออย่างมืออาชีพและเชื่อมโยงกับคุณค่าที่สร้างให้กับบริษัทด้วย

ทำงานที่เดิม ควรเรียกเงินเดือนเพิ่มเท่าไร?

ทำงานที่เดิม ควรเรียกเงินเดือนเพิ่มเท่าไร?

แม้ว่าจะทำงานอยู่กับบริษัทเดิมมานาน การขอขึ้นเงินเดือนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นต้องประเมินตัวเองและทำความเข้าใจตลาดแรงงานอย่างรอบด้าน การเตรียมตัวล่วงหน้าและมีเหตุผลชัดเจนจะช่วยให้คำขอมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น

ประเมินตัวเองก่อนขอขึ้นเงินเดือนในที่ทำงานเดิม

ก่อนขอขึ้นเงินเดือน ควรประเมินตัวเองอย่างรอบด้าน เช่น

  • ค่าตอบแทนที่สอดคล้องกับมูลค่างานที่ทำมา

  • ศักยภาพและประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น

  • ทักษะเฉพาะทางหรือความเชี่ยวชาญใหม่ๆ

  • ผลงานที่สร้างให้บริษัทอย่างเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ ควรพิจารณาเกณฑ์ตลาดแรงงานและค่าครองชีพ รวมถึงภาระค่าใช้จ่ายส่วนตัว และเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม เช่น ช่วงรีวิวประจำปี หรือหลังปิดโปรเจกต์ใหญ่ เพื่อให้คำขอสอดคล้องกับงบประมาณและจังหวะขององค์กร ให้ตัวเลขที่เรียกขึ้นเงินเดือนมีความสมเหตุสมผลและยืนอยู่บนพื้นฐานของความจริง

วิธีคำนวณเงินเดือนที่ควรเรียก

เริ่มจากตรวจสอบอัตราเฉลี่ยการปรับขึ้นเงินเดือนในตลาด ซึ่งมักอยู่ที่ประมาณ 5–10% ต่อปี ต้องพิจารณา ผลงาน เวลาทำงาน และค่าตำแหน่งในตลาด ควรนำข้อมูลเปรียบเทียบตลาดแรงงานและผลงานของตัวเองมาประกอบ เพื่อให้คำขอมีน้ำหนักและน่าเชื่อถือ

สูตรคำนวณ

เงินเดือนใหม่ = เงินเดือนปัจจุบัน × (1 + เปอร์เซ็นต์ปรับตามผลงาน)

  • เปอร์เซ็นต์ปรับตามผลงาน ปกติ 5–15% ต่อปี

  • กรณีมีโบนัส ถ้ามีโบนัสประจำปี ให้คิดรวมเงินเดือน + โบนัสก่อนคำนวณ

ตัวอย่าง

เงินเดือนปัจจุบัน 25,000 บาท ผลงานโดดเด่น ขอขึ้น 10% จะได้ 25,000 × 1.10 = 27,500 บาท/เดือน

ย้ายงานใหม่ เปลี่ยนงาน ควรเรียกเงินเดือนเพิ่มเท่าไร?

ย้ายงานใหม่ เปลี่ยนงาน ควรเรียกเงินเดือนเพิ่มเท่าไร?

เมื่อตัดสินใจย้ายงานหรือเปลี่ยนตำแหน่ง การขอขึ้นเงินเดือนมักมีโอกาสสูงกว่าการอยู่ที่เดิม แต่การเรียกเงินเดือนก็ต้องอิงกับคุณค่าและตลาดแรงงาน การเตรียมตัวและประเมินตัวเองอย่างรอบด้านจะช่วยให้เรียกเงินได้อย่างสมเหตุสมผลและมั่นใจ

ประเมินตัวเองก่อนเรียกเงินเดือน

ก่อนย้ายงาน ควรประเมินตัวเองในหลายด้าน เช่น

  • ช่วงเงินเดือนของตำแหน่งใหม่ในตลาดแรงงาน ตรวจสอบว่าตำแหน่งที่คุณสมัครมีเรตเงินเดือนเฉลี่ยเท่าไร

  • คุณสมบัติเทียบตำแหน่งใหม่ วิเคราะห์ว่าทักษะและประสบการณ์ตรงกับความต้องการมากน้อยแค่ไหน

  • ทักษะเฉพาะทาง (Hard Skills) เช่น Data, Digital ภาษาอังกฤษ หรือ Project Management

  • ประสบการณ์ตรงที่เกี่ยวข้อง เคยดูแลโปรเจกต์คล้ายกัน หรือมีผลงานเด่นที่สามารถยกเป็นกรณีศึกษา

โดยทั่วไป การขอเพิ่มจากเงินเดือนเดิมสามารถอยู่ในช่วง 15–30% อย่างสมเหตุสมผล ขึ้นอยู่กับคุณค่าที่จะสามารถเพิ่มให้กับองค์กรใหม่

วิธีคำนวณเงินเดือนที่ควรเรียก

การคำนวณเงินเดือนใหม่หลังย้ายงาน ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลจริง ไม่ใช่การคาดเดา เพราะตลาดแรงงานในแต่ละอุตสาหกรรมมีช่วงเงินเดือนที่แตกต่างกัน โดยตรวจสอบเรตเงินเดือนเฉลี่ยของตำแหน่งที่สมัคร ประสบการณ์ และทักษะของตัวเอง

โดยประมาณการปรับเงินเดือนสำหรับผู้ย้ายงานสามารถแบ่งเป็น ดังนี้

  • 10–15% ย้ายงานในสายเดิม ระดับตำแหน่งใกล้เคียงกัน

  • 20–25% มีทักษะเฉพาะทาง หรือมีประสบการณ์ตรงที่ตลาดต้องการ

  • 30% ขึ้นไป ตำแหน่งใหม่ระดับสูงกว่าเดิม หรือมีภาระความรับผิดชอบเพิ่มมาก

สูตรคำนวณ

เงินเดือนเรียกใหม่ = เงินเดือนปัจจุบัน + (เงินเดือนปัจจุบัน × เปอร์เซ็นต์เพิ่มที่เหมาะสม)

  • เปอร์เซ็นต์เพิ่มที่เหมาะสม ปกติ 10–30% ขึ้นอยู่กับความต้องการตลาดและทักษะของคุณ

  • กรณีมีโบนัส นำเงินเดือนรวมโบนัสมาคิดด้วย

เงินเดือนรวมโบนัส = เงินเดือนต่อเดือน × 12 + โบนัสประจำปี

ตัวอย่าง

เงินเดือนปัจจุบัน 20,000 บาท + โบนัส 3 เดือน = 20,000 × 12 + 60,000 = 300,000 บาทต่อปี

ต้องการเพิ่ม 20% จะเป็น 300,000 × 1.2 = 360,000 บาทต่อปี เงินเดือนใหม่ประมาณ 24,000 บาท/เดือน

เด็กจบใหม่ควรเรียกเงินเดือนเท่าไร?

เด็กจบใหม่ควรเรียกเงินเดือนเท่าไร?

ประเมินตัวเองก่อนเรียกเงินเดือน

สำหรับเด็กจบใหม่ การเรียกเงินเดือนต้องมีเหตุผลรองรับและสมเหตุสมผล แม้ไม่มีประสบการณ์ทำงานเต็มตัว แต่สามารถใช้วุฒิการศึกษา ทักษะ และผลงานระหว่างเรียนเป็นตัวช่วยในการต่อรอง การประเมินตัวเองอย่างรอบด้านจะทำให้คำขอเงินเดือนมีน้ำหนักและเพิ่มโอกาสได้รับข้อเสนอที่เหมาะสม

ก่อนเรียกเงินเดือน ควรประเมินตัวเองในหลายด้าน เช่น

  • วุฒิการศึกษาและสายงานที่ตรงกับตำแหน่ง

  • อัตราเงินเดือนเริ่มต้นในสายงานนั้นๆ เพื่อดูค่าเฉลี่ยของตลาด

  • ผลงานระหว่างเรียนหรือฝึกงาน เช่น โปรเจกต์ที่เกี่ยวข้อง หรือการแข่งขันที่เกี่ยวกับสายงาน

  • ทักษะที่ตลาดต้องการ เช่น Digital Marketing, Excel การสื่อสารภาษาอังกฤษ หรือทักษะ AI เบื้องต้น

วิธีคำนวณเงินเดือนที่ควรเรียก

เด็กจบใหม่ไม่จำเป็นต้องเรียกเงินเดือนสูงสุดในตลาด แต่ควรอ้างอิงจากค่าเฉลี่ยตำแหน่ง ทักษะ ค่าครองชีพ ฝึกงานตรงสาย ให้บวกเพิ่ม 5–10% หากมีผลงานจริงหรือใบรับรองทักษะเฉพาะ (Digital, Data หรือ ภาษา) ให้บวกเพิ่มอีก 10% วิธีนี้ช่วยให้เด็กจบใหม่สามารถเรียกเงินเดือนอย่างสมเหตุสมผลและมั่นใจในความสามารถของตนเอง

สูตรคำนวณ

เงินเดือนจบใหม่ = เงินเดือนเริ่มต้นเฉลี่ยในตลาด + (ทักษะพิเศษหรือความสามารถเพิ่มเติม)

ตัวอย่าง

  • ตำแหน่ง Programmer จบใหม่ จะได้เงินเดือนเฉลี่ย 20,000 บาท

  • หากมีทักษะพิเศษ เช่น ภาษา Python ระดับสูง หรือมีโปรเจกต์น่าสนใจ อาจบวกเพิ่ม 1,000–3,000 บาท

เทคนิคต่อรองเงินเดือนแบบมืออาชีพ

เทคนิคต่อรองเงินเดือนแบบมืออาชีพ

ก่อนที่ไปเจรจาเรื่องเงินเดือน สิ่งสำคัญคือการเตรียมตัวให้พร้อมทั้งข้อมูลและท่าที การต่อรองเงินเดือนไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเลข แต่เป็นการสื่อสารคุณค่าและความเป็นมืออาชีพของตัวคุณเอง

  • รู้มูลค่าตัวเองก่อนเจรจา ทำความเข้าใจว่าคุณมีทักษะ ประสบการณ์ และผลงานที่ตรงกับความต้องการตลาดแค่ไหน ใช้เว็บไซต์หรือข้อมูลตลาดแรงงานเป็นตัวอ้างอิง

  • ตั้งเป้าหมายเงินเดือนที่ชัดเจน กำหนดช่วงเงินเดือนที่ต้องการล่วงหน้า อย่าไปเจรจาโดยไม่รู้ว่าตัวเองคาดหวังอะไร

  • เริ่มด้วยความมั่นใจและท่าทีเป็นมืออาชีพ แสดงออกถึงความมั่นใจ แต่ไม่โอ้อวด ใช้ภาษากายและน้ำเสียงที่เป็นมืออาชีพ

  • ใช้เทคนิค “ช่วงเงินเดือน” แทนที่จะให้ตัวเลขเดียว เสนอช่วงเงินเดือน เช่น 25,000–28,000 บาท เพื่อเปิดช่องต่อรองและความยืดหยุ่น

  • อย่าลืมสวัสดิการและโบนัส เงินเดือนไม่ใช่ปัจจัยเดียว พิจารณาสวัสดิการ โบนัส วันลา หรือสิทธิประโยชน์อื่นๆ รวมไว้ในการเจรจา

  • ซ้อมเจรจาก่อนจริง ลองฝึกพูดต่อหน้าเพื่อนหรือครอบครัว เพื่อให้คำพูดและท่าทีเป็นธรรมชาติ

  • รู้จักเวลาและบริบท เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม เช่น หลังจากที่คุณได้เสนอผลงานดีๆ หรือเมื่อบริษัทกำลังวางแผนงบประมาณ

สรุป

ไม่ว่าจะทำงานอยู่ที่เดิม ย้ายงาน หรือเป็นเด็กจบใหม่ สิ่งสำคัญคือต้องประเมินตัวเองก่อน ทั้งประสบการณ์ ทักษะ ผลงาน และคุณค่าที่คุณนำไปสู่บริษัท รวมถึงดูตลาดแรงงานและภาวะเศรษฐกิจรอบตัว สำหรับการอยู่ที่เดิม ควรเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมและให้เหตุผลชัดเจน ส่วนการย้ายงานมักมีโอกาสเรียกเงินเพิ่มสูงกว่า แต่ก็ต้องสมเหตุสมผล เด็กจบใหม่แม้ไม่มีประสบการณ์เต็มตัว ก็สามารถใช้วุฒิ ทักษะ และผลงานระหว่างเรียนต่อรองได้ เทคนิคสำคัญคือรู้มูลค่าตัวเอง ตั้งเป้าหมายเงินเดือนชัดเจน ต่อรองด้วยความมั่นใจ ใช้ช่วงเงินเดือนแทนตัวเลขเดียว พิจารณาสวัสดิการและโบนัส และซ้อมเจรจาก่อนจริง ทุกอย่างคือการสื่อสารคุณค่าและความเป็นมืออาชีพของคุณเอง

ถ้าคุณกำลังอยากย้ายงาน เปลี่ยนงาน หรือแม้แต่เป็นเด็กจบใหม่ที่อยากเริ่มต้นเส้นทางอาชีพอย่างมั่นใจ ตรงกับความสามารถและเป้าหมายถือเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายในชีวิต อย่าลืมหางานผ่าน Jobsdb แพลตฟอร์มหางานที่รวบรวมตำแหน่งงานหลากหลายสาขา ทำให้คุณค้นหาโอกาสใหม่ๆ ได้ง่ายและตรงกับความสนใจของตัวเอง!

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับควรเรียกเงินเดือนเพิ่มเท่าไร (FAQ)

หลายคนอาจยังคงสงสัยเรื่องควรเรียกเงินเดือนเพิ่มเท่าไร เราได้รวบรวมคำถามที่น่าสนใจ พร้อมคำตอบมาให้แล้ว!

เงินเดือนขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์ คิดอย่างไร?

การขึ้นเงินเดือน 3% หมายถึงเงินเดือนปัจจุบันจะเพิ่มขึ้น 3% ของจำนวนเงินเดิม เช่น หากเงินเดือนคุณ 20,000 บาท เพิ่ม 3% ก็จะได้เพิ่ม 600 บาท เป็น 20,600 บาท การคำนวณแบบนี้ใช้ได้ทั้งกับเงินเดือนประจำปีและเงินเดือนรายเดือน ขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัท

จะรู้ได้อย่างไรว่าเงินเดือนเรียกเหมาะสมกับตลาด?

สามารถตรวจสอบได้จากการสำรวจตลาดแรงงาน เช่น เว็บไซต์หางาน Jobsdb ข้อมูลเงินเดือนเฉลี่ยของตำแหน่งเดียวกันในอุตสาหกรรมเดียวกัน หรือสอบถามจากคนในสายงานเดียวกัน การมีข้อมูลอ้างอิงจะช่วยให้คุณเรียกเงินเดือนได้สมเหตุสมผลและมั่นใจมากขึ้น

เงินเดือนขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์คิดอย่างไร?

การคำนวณเงินเดือนขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์ทำได้ง่ายๆ ด้วยสูตรนี้

เงินเดือนใหม่ = เงินเดือนเดิม × (1 + 100เปอร์เซ็นต์เพิ่ม​)

ตัวอย่างเช่น ถ้าเงินเดือนเดิม 20,000 บาท และบริษัทขึ้น 5%

เงินเดือนใหม่ = 20,000 × (1 + 1005​) = 20,000 × 1.05 = 21,000 บาท

สรุปคือ เพิ่ม 5% = เพิ่มเงิน 1,000 บาท จากเดิม 20,000 บาท วิธีคิดแบบนี้ใช้ได้กับทุกเปอร์เซ็นต์การขึ้นเงินเดือน

เรียกเงินเดือนสูงน่าเกลียดไหม?

ไม่ถือว่าน่าเกลียด ถ้ามีเหตุผลรองรับ เช่น ประสบการณ์ ทักษะ ผลงาน และความสามารถที่ตรงกับตลาด การเรียกเงินเดือนสูงอย่างมีหลักการคือการสื่อสารคุณค่าและความเป็นมืออาชีพของคุณเอง สำคัญคือต้องเสนออย่างสุภาพและเป็นเหตุเป็นผล

More from this category: ลาออก

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
ท่านได้ยอมรับคำประกาศเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ท่านได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อยินยอมให้ Jobsdb และบริษัทในเครือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถยกเลิกได้ทุกเวลา