ช้อปดีมีคืน 2566 รวมทุกเรื่องต้องรู้! ช้อปแบบไหนถึงมี (เงิน) คืน

มาตรการลดหย่อนภาษีประจำปี“ช้อปดีมีคืน”ของทางภาครัฐกลับมาอีกครั้ง ชาวไทยผู้มีหน้าที่ต้องเสียภาษีจึงพากันให้ความสนใจโครงการนี้กันอย่างล้นหลาม ด้วยความที่ช่วงนี้ถือเป็นช่วงม้วนตัวสุดท้าย ก่อนจะเข้าช่วงยืนภาษีจริงจังในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ดังนั้น อะไรที่พอจะลดค่าใช้จ่ายได้ จึงจำเป็นต้องทำให้แล้วเสร็จในช่วงนี้นั่นเอง

มัดรวมทุกเงื่อนไข! ช้อปดีมีคืน 2566

จริง ๆ แล้วเงื่อนไขโครงการช้อปดีมีคืนในปีนี้โดยภาพรวมไม่ต่างอะไรกับปีก่อนหน้าเท่าไร ใครที่ใช้ลดหย่อนมาในปีก่อน ๆ แล้วอาจจะไม่มีปัญหาอะไร เตรียมเอกสารได้แบบสบาย ๆ ส่วนใครเป็นผู้จ่ายภาษีรายใหม่ กลุ่ม First Jobber หรืออยากลดภาระค่าใช้จ่ายส่วนนี้ดูบ้าง วันนี้ JobsDB รวมมาให้แล้ว ทำความเข้าใจไปพร้อมกันเลย!

Tips : หลายคนยังเข้าใจว่า หากฐานเงินเดือนเราไม่ถึงเกณฑ์ ไม่จำเป็นต้องยื่นภาษี ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิด หากคุณเป็นคนไทยผู้มีรายได้เกิน 10,000 บาท/เดือน (120,000 บาท/ปี) จำต้องยื่นแบบแสดงรายการ ตามกฎหมายมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร ต่อให้รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ก็ต้องยื่น อย่าคิดว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก หากโดนตรวจสอบย้อนหลังขึ้นมายุ่งยากกว่าเดิมแน่นอน

เงื่อนไขต้องรู้! ช้อปดีมีคืน 2566

● ลดหย่อนเฉพาะ “บุคคลธรรมดา” ไม่รวมห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล (องค์กร บริษัท) รวมถึงผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้วย

● บุคคลเงินได้ต่อปีไม่เกิน 150,000 บาท ซึ่งได้รับการยกเว้นภาษี ไม่สามารถเข้าร่วมมาตรการนี้ได้

● สะดวก ง่าย “ไม่ต้องลงทะเบียน” ใช้ได้เลย แต่ต้องมีใบเสร็จรับเงินหรือใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มเต็มในรูปแบบ โดยหลักฐานเหล่านี้ ต้องระบุข้อมูลผู้ขาย, ข้อมูลผู้ซื้อ, วันที่, รายการ และจำนวนเงิน อย่างครบถ้วนและถูกต้อง

● ลดหย่อนตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 40,000 บาท แบ่งเป็น 2 ส่วน

● รอบแรก : ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการจำนวนไม่เกิน 30,000 บาท โดยส่วนนี้ต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบกระดาษ หรือในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากร

● รอบสอง : ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการเหมือนเดิม ซึ่งลดหย่อนได้ไม่เกิน 10,000 บาท จากส่วนที่เกินจากรอบแรก ซึ่งจำต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt ของกรมสรรพากรเท่านั้น

● ใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีในปีภาษี 2566 ที่ต้องจ่ายในช่วงต้นปี 2567 เท่านั้น

ช้อปแบบไหนถึงจะได้ลดหย่อนภาษี

เงื่อนไขลดหย่อนจองช้อปดีมีคืนค่อนข้างกว้าง สะดวก ครอบคลุมแทบทุกสินค้าที่เรา ๆ ใช้กันในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ขอเพียงผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้น ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT ถูกต้องตามกฎหมาย แล้วสามารถออกใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มเต็มรูปแบบให้คุณได้ก็ไม่เป็นปัญหา อย่าง ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ร้านค้าออนไลน์ บริการเดลิเวอรีก็ได้หมด

นอกจากนี้สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ที่ลงทะเบียนกับกรมการพัฒนาชุมชนแล้ว สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้เช่นเดียวกัน ตรวจสอบร้านค้าได้ที่ otoptoday

สินค้าและบริการไหนบ้าง ไม่ร่วมช้อปดีมีคืน 2566

จริงอยู่ว่าสินค้าและบริการส่วนมาก เข้าร่วมโครงการช้อปดีมีคืน ใช้ลดหย่อนได้อยู่แล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกผลิตภัณฑ์จะนำใบเสร็จมาลดหย่อนภาษีได้ บางอย่างทางภาครัฐก็ไม่ให้เข้าร่วม ต่อให้ผู้ประกอบการจะจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม VAT หรือออกใบกำกับภาษีได้ ก็เสียเปล่าอยู่ดี

อย่างไรก็ตามแนะนำว่าให้จำอันที่ไม่เข้าร่วมโครงการง่ายกว่า เพราะส่วนใหญ่ลดหย่อนได้ทั้งหมดอยู่แล้ว ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ตามไปดูกันเลย!

● ค่าสาธารณูปโภค เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าประปา

● สุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ

● ค่าน้ำมัน และก๊าซเชื้อเพลิงสำหรับเติมยานพาหนะ

● รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ

● ค่าบริการจัดนำเที่ยวและมัคคุเทศก์

● ค่าที่พักโรงแรม

● ค่าเบี้ยประกันวินาศภัย

● ค่าโทรศัพท์และค่าอินเทอร์เน็ต

● หนังสือพิมพ์และนิตยสาร ทั้งกระดาษ และอิเล็กทรอนิกส์ หากเป็นหนังสือประเภทอื่น ๆ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ทั้งแบบกระดาษ และอิเล็กทรอนิกส์

● ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้ บริการดังกล่าวนอกเหนือจากระยะเวลา ตามที่กำหนดไว้ในช่วงวันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 อย่าง ค่าสมาชิกต่าง ๆ

รายได้เท่านี้! ลดหย่อนภาษีช้อปดีมีคืนได้เท่าไร

ถึงโครงการนี้จะให้คุณลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 40,000 บาทก็ตาม แต่การที่คุณจะใช้สิทธิ์ได้ถึงขั้นสุด นั่นหมายความว่ารายได้และจำนวนของที่ซื้อต้องสูงตามไปด้วย หากคุณอยู่ในฐานะที่จับจ่ายได้สบายก็ไม่เป็นปัญหา ช้อปให้ได้คืน 40,000 ไปเลยแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ถ้าเราอยู่ในกลุ่มชนชั้นกลางที่เป็นประชากรส่วนมากของประเทศ ลองดูกันค่ะ ว่ารายได้ต่อปีประมาณนี้ โครงนี้ให้คุณลดหย่อนได้สูงสุดเท่าไร

● เงินได้ต่อปี 150,001-300,000 บาท ลดหย่อนภาษีสูงสุด 1,500 บาท

● เงินได้ต่อปี 300,001-500,000 บาท ลดหย่อนภาษีสูงสุด 3,000 บาท

● เงินได้ต่อปี 500,001-750,000 บาท ลดหย่อนภาษีสูงสุด 4,500 บาท

● เงินได้ต่อปี 750,001-1,000,000 บาท ลดหย่อนภาษีสูงสุด 6,000 บาท

● เงินได้ต่อปี 1,000,001-2,000,000 บาท ลดหย่อนภาษีสูงสุด 7,500 บาท

● เงินได้ต่อปี 2,000,001-5,000,000 บาท ลดหย่อนภาษีสูงสุด 9,000 บาท

● เงินได้ต่อปี 5,000,001 บาทขึ้นไป ลดหย่อนภาษีสูงสุด 10,500 บาท

อย่างไรก็ตามนอกจากการลดหย่อนภาษีในโครงการช้อปดีมีคืนแล้ว ทางภาครัฐยังมีมาตรการอื่น ๆ อีกด้วย อย่างพวกกองทุน ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ค่าเลี้ยงดูบิดามารดา ฯลฯ ใครสะดวกแบบไหนก็เลือกลู่ทางกันได้ตามสะดวก คำนวณฐานรายได้กันให้ดี วางแผนกันตั้งแต่ต้นปีแบบนี้ จะได้ไม่วุ่นวายในช่วงปลายปี

อัปเดตทุกเทรนด์ ทันทุกข้อมูลข่าวสารได้แล้ววันนี้ที่ JobsDB แพลตฟอร์มหางานอันดับหนึ่งในไทย หาคนตรงงาน หางานตรงใจ