กลยุทธ์การบริหารทรัพยากรมนุษย์ ปี 2023 รับมืออย่างไรกับความท้าทายที่เกิดขึ้น?

ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป คนทำงานต่างมีทางเลือกมากขึ้น คน Gen Z ไม่ได้มองว่าการทำงานในองค์กรหรือบริษัทใหญ่ ๆ เป็นแหล่งรายได้สำคัญแหล่งเดียวอีกต่อไป กลับเน้นงานที่ให้อิสระและยืดหยุ่นมากขึ้น

โจทย์คือ ในเมื่อคนรุ่นใหม่ ซึ่งจะกลายมาเป็นกลุ่มแรงงานสำคัญในอนาคตมีความต้องการที่เปลี่ยนไป องค์กรหรือบริษัทต่าง ๆ ต้องปรับตัว รวมทั้งสร้างกลยุทธ์การบริหารทรัพยากรมนุษย์แบบใหม่ให้สอดรับกับคนทำงานมากขึ้น ตั้งแต่ กระบวนการสรรหาพนักงาน ระบบการทำงาน สภาพแวดล้อม ปรับการเสนอตำแหน่งงานให้ตรงกับเป้าหมายมากขึ้น

เทรนด์การหางานที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน

ก่อนจะปรับกลยุทธ์การบริหารทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและได้ใจคนรุ่นใหม่ ต้องทราบก่อนว่า องค์กรของคุณต้องปรับไปในทิศทางไหน ความต้องการที่แน่ชัดของตลาดแรงงานในยุคนี้คืออะไร แล้วผสานกลยุทธ์การบริหารคนในองค์กรที่มี ให้สอดรับกับเทรนด์ใหม่อย่างลงตัว

ในอดีตจุดขายเรื่องความมั่นคง ชื่อเสียงบริษัท และค่าตอบแทนแบบสมน้ำสมเนื้อ อาจจะดึงดูดให้คนทำงานพากันยื่นเรซูเม่มายังฝ่ายบุคคลได้อย่างถล่มทลาย ทว่าปัจจุบันสามอย่างนั้นไม่เพียงพอที่จะดึงดูดใจผู้สมัครเก่ง ๆ ให้อยากมาทำงานในองค์กรได้อีกต่อไป แม้ว่าทั้งสามเรื่องนั้นจะเป็นหัวใจหลักก็ตาม แต่ปัจจัยแวดล้อมอื่นอย่าง บรรยากาศการทำงาน วัฒนธรรมองค์กร เรื่อง DEI หรือ ความหลากหลาย Diversity, ความเสมอภาค Equity และการทำงานแบบทีมเวิร์ก Inclusion ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่คนทำงานรุ่นใหม่นำมาพิจารณาในการสมัครงานด้วยเช่นกัน

หากอยากทราบว่าผู้สมัครงานใหม่ต้องการบอกอะไรแก่องค์กร สามารถดาวน์โหลดผลสำรวจความคิดเห็นของผู้สมัครงานกว่า 90,000 คนได้ฟรีที่นี่ http://bit.ly/41z4r8Q

ความท้าทายของฝ่าย HR กับการบริหารคนในองค์กรยุคใหม่

เมื่อเทรนด์การทำงานในยุคนี้เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ข้อความสำคัญที่ฝ่ายบุคคลจะใช้สื่อสารกับผู้สมัครงานก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย จะเน้นการทำงานหนัก ชูเรื่องความทุ่มเทแล้วได้ผลตอบแทนสูง สิ่งนี้อาจจะไม่ซื้อใจคนในยุคนี้อีกต่อไป การสื่อสารที่ตรงจุดถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การบริหารทรัพยากรมนุษย์อย่างชาญฉลาด นอกเหนือจากการสื่อสารที่ตรงใจแล้ว ยังมีความท้าทายอื่น ๆ ของฝ่าย HR ที่ต้องเจออีกด้วย จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกัน!

เมื่อความภักดีต่อองค์กรไม่จำเป็นอีกต่อไป

อย่างที่วง Polycat บอกไว้ว่า “อย่าเป็นเลยคนที่จงรักภักดี” คนทำงานในยุคนี้ส่วนใหญ่ก็ดูมีแนวโน้มจะเป็นเช่นนั้น ขายความสามารถแลกเงิน ไม่ได้มองว่าต้องภักดีกับบริษัทนั้น หรือทำงานที่เดียวไปตลอด ความอดทนไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้คนทำงาน ยิ่งถ้าองค์กรไหนปฏิบัติกับพนักงานแบบไม่เห็นคุณค่า ไม่เคารพในความแตกต่าง หรือเอาเปรียบมากเกินไป พนักงานก็พร้อมเดินออกไปทันที แม้ไม่มีงานใหม่รองรับ

ไม่ใช่แค่ สุขภาพกาย ที่พนักงานต้องรักษา สุขภาพจิต และความสุขระหว่างการ ทำงาน คือสิ่งที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญ สังเกตได้จากเทรนด์การทำงานแบบ Well-Being หรือ Work life balance ที่มาแรง องค์ไหนให้ความสำคัญกับสองสิ่งนี้ มีแนวโน้มที่คนรุ่นใหม่จะเลือกทำงานด้วยสูง

การจ้างงานลด ขณะที่ปริมาณงานเพิ่ม

จากสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกและปัจจัย เงินเฟ้อ ที่กระทบกันไปหมด บางองค์กรเองเลือกจะรัดเข็มขัดประหยัดค่าใช้จ่าย ด้วยการจ้างคนน้อยลง แต่เลือกคนที่มีทักษะหลากหลาย ทั้ง Hard skill และ Soft Skill ไปจนถึง Multitasking Skill เห็นได้จากโพสต์ประกาศหางานของหลาย ๆ บริษัทที่ Job Description ครอบจักรวาลมาก เช่น หานักเขียนที่ตัดต่อคลิปวิดีโอ หรือทำกราฟิกได้ ยิ่งถ้ามีความรู้เรื่องการตลาดจะพิจารณาเป็นพิเศษ

ในมุมขององค์กรเข้าใจได้ว่าอยากประหยัดงบ แต่ในมุมคนทำงานมองอย่างไรก็รู้สึกไม่ยุติธรรม จนทำให้ผู้สมัครที่มีความสามารถบางคนเลือกที่จะไม่ทำงานกับบริษัทนั้น เพราะการที่ตั้งธงมาแบบนี้ตั้งแต่แรก ก็สะท้อนถึงวัฒนธรรมองค์กรได้ ทั้งนี้งานหนักทั้งหมดก็จะตกไปอยู่กับฝ่ายบุคคล จะแก้ไขสถานการณ์นี้อย่างไร เอาตัวเงินเดือนสู้ไหม หรือสู้ด้วย สวัสดิการ และรูปแบบการทำงาน ทั้งนี้ต้องมีบางสิ่งที่ดึงให้คนอยากทำงานมากขึ้น หากต้องแลกมาด้วยภาระงานที่หนักกว่าเดิม

เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด

เทคโนโลยีช่วยยกระดับให้การบริหารทรัพยากรมนุษย์ง่ายและสะดวกขึ้น เอชอาร์เองก็ต้องเรียนรู้และพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ วัน โลกหมุนไปไวแค่ไหน องค์กรก็ต้องก้าวให้ทันตามกระแสหลักด้วย ถือเป็นความท้าทายที่ทุกบริษัทต้องเตรียมรับมือ เพราะคนทำงานยุคนี้ ใช้เทคโนโลยีกันได้คล่องแคล่ว เอกสารทุกอย่างลงสำเนาถูกต้องได้สะดวกผ่านสมาร์ตโฟน ฝ่ายบุคคลเองใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด รับส่งทันกันกับผู้สมัคร ก็จะสร้างความประทับใจให้กันได้ง่าย

หากบริษัทหรือองค์กรไหนยังเน้นงานเอกสาร ปรินต์เป็นกระดาษ เขียนใบลาด้วยลายมือ สิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อภาพลักษณ์บริษัททำให้ดูไม่ทันสมัย คนรุ่นใหม่ก็ไม่อยากทำงานด้วย

กลยุทธ์การบริหารคนยุคใหม่ที่ HR ต้องรับมือ

จริง ๆ แล้วการบริหารทรัพยากรมนุษย์ให้ได้ใจคนรุ่นใหม่นั้น ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด หากฝ่ายบุคคลหรือองค์กรนั้น ๆ พร้อมที่จะเปิดหัวใจและเข้าใจ สิ่งที่คนทำงานยุคนี้ต้องการอย่างแท้จริง มองในมุมของพนักงานให้มาก ทั้งในแง่ของความรู้สึกและการให้คุณค่าในตัวบุคคล อย่าเลือกมองแต่ตัวเลขกำไรขาดทุน หรือดัชนีชี้วัดผลงานหรือความสำเร็จด้วย KPI เพียงอย่างเดียว เพราะจะยิ่งทำให้คนทำงานเลือกที่จะลาออกได้ง่าย

ปรับระบบการทำงานให้สอดคล้องกับคนรุ่นใหม่

ปฏิเสธไม่ได้ว่าระบบการทำงานกลายมาเป็นจุดขายสำคัญ ที่เจาะหัวใจคนรุ่นใหม่ได้ โดยให้ HR นำเสนอในโพสต์หางานเลยว่า องค์กรเน้นการทำงาน Work life balance ได้ทั้งเข้าออฟฟิศ หรือ Work from Anywhere ก็ได้ ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการของคนทำงาน เน้นผลลัพธ์เป็นสำคัญ แถมบรรยากาศการทำงานชิลล์ มีขนมให้กิน มีกาแฟให้ชง มีห้องคาราโอเกะ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยดึงดูดผู้สมัครเก่ง ๆ ให้ยื่นเรซูเม่มาที่บริษัทมากขึ้น เป็นหนึ่งในการบริหารทรัพยากรมนุษย์อย่างสร้างสรรค์ และถูกใจกลุ่มเป้าหมาย

ชูเรื่องสุขภาวะที่ดีคือสิ่งสำคัญ

ช่วงโควิดที่ผ่านมานี้ หลายคนคงคุ้นหูกับคำว่า สุขภาวะ หรือ Well Being กันมากขึ้น โดยความหมายแบบเข้าใจง่ายก็คือ เป็นเรื่องคุณภาพชีวิตที่ดีและครอบคลุมในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น สภาพแวดล้อมในที่ทำงาน สุขภาพร่างกายและจิตใจ สังคมการทำงาน ฯลฯ หากองค์กรไหนใส่เรื่องนี้ไปในกลยุทธ์การบริหารทรัพยากรมนุษย์ก็จะยิ่งเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ง่าย สุดท้ายแล้วหากพนักงานมีสุขภาพใจและกายที่แข็งแรง ย่อมส่งผลต่อคุณภาพงานที่ดี รวมทั้งพร้อมที่จะเติบโตไปกับบริษัท

นอกจากนี้ยังมีหลายงานวิจัยสะท้อนให้เห็นว่าสุขภาวะที่ดีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนทำงานรุ่นใหม่ โดยกลุ่มคนเหล่านี้เคยลางานเพราะเครียดจากการทำงานในอัตราที่สูง สุดท้ายแล้วปัญหานี้มักจะจบตรงที่การลาออก ถ้าองค์กรของคุณเตรียมรับมือและให้ความสำคัญกับการสร้างสุขภาวะที่ดีตั้งแต่ต้น ก็จะช่วยลดแรงเสียดทานตรงนี้ได้

ลดชั่วโมงการทำงานให้น้อยลง

บริษัทหรือองค์กรไหนอ่านมาถึงข้อนี้ อาจจะไม่ถูกใจนัก เพราะรู้สึกว่าไม่คุ้มค่าจ้าง ในทางกลับกัน การที่พนักงานอยู่ที่ออฟฟิศครบ 8 ชั่วโมง ก็ไม่มีอะไรการันตีได้ว่าระหว่างนั้นเป็นเรื่องงานทั้งหมด บริษัทเองอาจจะต้องมองเรื่องปลายทางหรือผลลัพธ์เป็นสำคัญ ถ้างานเสร็จได้ตรงเป้าหมาย พนักงานจะทำด้วยวิธีไหนหรือจะกลับบ้านก่อนเวลา นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร นี่คือสิ่งที่คนทำงานส่วนใหญ่ต้องการ เปิดใจให้กว้างแล้วเติบโตไปพร้อมกัน หากคุณซื้อคนทำงานด้วยวิธีนี้ นี่จะเป็นกลยุทธ์การบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่ได้ใจคนในองค์กรอย่างแน่นอน

โลกหมุนและเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน หากองค์กรเลือกที่จะแช่แข็งตัวเองและหยุดอยู่กับที่ ไม่ปรับให้สอดรับกับเทรนด์การทำงานของแรงงานรุ่นใหม่ ท้ายที่สุดแล้วบริษัทนั้นก็จะอยู่ไม่ได้ และต้องแบกรับต้นทุนเรื่องคนที่หมุนเวียนบ่อย อย่างไรก็ตามค่อย ๆ ปรับทีละนิด เริ่มจากการเปิดใจ แล้วความเข้าใจจะตามมาได้ไม่ยาก

หาคนทำงานรุ่นใหม่ในสไตล์ที่ใช่ได้ที่ JobsDB แพลตฟอร์มหาคนชั้นนำในไทย หาคนตรงงาน หางานตรงใจ