ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน ตรวจอะไรบ้าง เตรียมตัวอย่างไรให้ผ่านฉลุย

ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน ตรวจอะไรบ้าง เตรียมตัวอย่างไรให้ผ่านฉลุย
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 17 November, 2025
Share
  • การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานช่วยให้บริษัทมั่นใจว่าพนักงานมีร่างกายพร้อมสำหรับการทำงาน ลดความเสี่ยงจากโรคหรืออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น และช่วยให้พนักงานรักษาสุขภาพได้ดีตั้งแต่เริ่มงาน
  • รายการตรวจพื้นฐาน เช่น การตรวจร่างกายทั่วไป ความดันโลหิต น้ำหนักและส่วนสูง ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ตรวจตา ตับ ไต และบางตำแหน่งอาจมีการตรวจโรคติดเชื้อเพิ่มเติม
  • การเตรียมตัวตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานให้ผ่าน ควรงดอาหารและเครื่องดื่มบางชนิดตามคำแนะนำของโรงพยาบาล นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ สวมเสื้อผ้าสบายๆ และแจ้งประวัติหรือโรคประจำตัวอย่างชัดเจนเพื่อให้ผลตรวจแม่นยำ
  • ข้อควรรู้ในการตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงาน คือผลตรวจอาจใช้เวลาออกและบางกรณีต้องตรวจซ้ำหากพบความผิดปกติ การเตรียมตัวล่วงหน้าและการดูแลสุขภาพประจำวันจะช่วยให้ผ่านการตรวจง่ายขึ้นและลดความกังวล

เริ่มงานใหม่ทั้งที นอกจากต้องเตรียมใจและเตรียมเอกสารให้พร้อมแล้ว อีกหนึ่งด่านสำคัญที่หลายคนกังวลก็คือ “การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน” บางคนอาจยังไม่รู้ว่าต้องตรวจอะไรบ้าง หรือควรเตรียมตัวอย่างไรถึงจะผ่านแบบไร้กังวล จริงๆ แล้วขั้นตอนเหล่านี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แถมยังเป็นโอกาสดีที่เราจะได้เช็กสุขภาพตัวเองไปในตัวด้วย

บทความนี้พาไปดูว่าตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานต้องเจออะไรบ้าง และมีเทคนิคเตรียมตัวแบบไหนให้ผ่านฉลุย!

ทำไมต้องตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน?

การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน คือกระบวนการประเมินสภาพร่างกายและจิตใจของพนักงานใหม่ เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การตรวจนี้สำคัญเพราะช่วยป้องกันอุบัติเหตุและโรคที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทำงาน ทั้งยังช่วยให้องค์กรประเมินความเหมาะสมของพนักงานกับลักษณะงาน เช่น งานที่ต้องยกของหนัก ทำงานในสภาพแวดล้อมเสี่ยง หรือมีความเครียดสูง นอกจากนี้ การตรวจสุขภาพยังเป็นไปตามกฎหมายแรงงานและข้อบังคับของบริษัท ทำให้ทั้งพนักงานและองค์กรมีความปลอดภัยและมั่นใจในการทำงานร่วมกัน

ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน ต้องตรวจอะไรบ้าง

ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน ต้องตรวจอะไรบ้าง?

ก่อนจะเริ่มทำงาน หลายบริษัทมักกำหนดให้พนักงานใหม่เข้ารับการตรวจสุขภาพ เพื่อให้มั่นใจว่ามีสภาพร่างกายและจิตใจที่เหมาะสมกับลักษณะงาน และเป็นไปตามข้อกฎหมายแรงงาน โดยทั่วไปก่อนจะเข้าสู่กระบวนการตรวจ พนักงานควรเตรียมบัตรประชาชน แบบฟอร์มประวัติสุขภาพ เอกสารประวัติการรักษา หรือผลตรวจสุขภาพเดิม (ถ้ามี) ไปด้วย เพื่อให้แพทย์สามารถประเมินสภาพร่างกายได้อย่างครบถ้วนและเป็นไปอย่างรวดเร็ว

ตรวจร่างกายทั่วไป

เป็นการตรวจขั้นพื้นฐานโดยแพทย์เพื่อประเมินความสมบูรณ์ของร่างกาย เช่น วัดความดันโลหิต ชีพจร อุณหภูมิ น้ำหนัก ส่วนสูง ดัชนีมวลกาย (BMI) และตรวจร่างกายภายนอก เช่น ผิวหนัง หัวใจ ปอด ช่องท้อง ข้อต่อ ซึ่งช่วยให้แพทย์ทราบว่าร่างกายแข็งแรงเพียงพอสำหรับลักษณะงานหรือไม่ และยังช่วยตรวจพบความผิดปกติที่ซ่อนอยู่ เช่น โรคหัวใจ หรือภาวะความดันโลหิตสูงตั้งแต่เนิ่นๆ

ตรวจเลือด

การตรวจเลือดช่วยประเมินสุขภาพภายในร่างกายและอวัยวะสำคัญ เช่น การทำงานของตับ ไต ระดับน้ำตาลในเลือด ระดับไขมันในร่างกาย และภาวะโลหิตจาง นอกจากนี้ยังสามารถตรวจหาโรคติดเชื้อบางชนิดหรือความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง การตรวจเลือดจึงช่วยให้องค์กรมั่นใจว่าพนักงานสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยระหว่างปฏิบัติงาน

ตรวจปัสสาวะ

ตรวจปัสสาวะเป็นวิธีง่ายๆ แต่สามารถประเมินการทำงานของไตและระบบทางเดินปัสสาวะ รวมถึงตรวจหาการติดเชื้อหรือความผิดปกติอื่นๆ เช่น เบาหวาน ภาวะการเผาผลาญผิดปกติ หรือภาวะขาดน้ำ การตรวจปัสสาวะช่วยให้ทราบสภาพร่างกายโดยรวมและป้องกันปัญหาสุขภาพที่จะส่งผลต่อการทำงานในระยะยาว

เอกซเรย์ปอดและหัวใจ

การเอกซเรย์ช่วยประเมินสภาพปอดและหัวใจ ตรวจหาภาวะปอดอักเสบ ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ หรือความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังบางชนิด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับงานที่ต้องใช้แรงเยอะ อยู่ในสภาพแวดล้อมเสี่ยง เช่น ฝุ่น ควัน หรือสารเคมี การตรวจเอกซเรย์ทำให้พนักงานและองค์กรมั่นใจว่าการทำงานจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

ตรวจวัดสายตา

สายตาเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความแม่นยำ เช่น การทำงานกับเครื่องจักร การขับรถ หรืองานที่เกี่ยวข้องกับหน้าจอ การตรวจวัดสายตาจะประเมินความชัดเจนในการมอง การมองสี ความสามารถในการมองในแสงต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ

ตรวจสารเสพติด

บางองค์กรจำเป็นต้องตรวจสารเสพติดเพื่อความปลอดภัยของพนักงานและเพื่อนร่วมงาน การตรวจนี้ช่วยป้องกันอุบัติเหตุ การทำงานผิดพลาด หรือปัญหาสุขภาพจากการใช้สารเสพติด การมีมาตรการตรวจสารเสพติดยังช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ปลอดภัยและส่งเสริมสุขภาพที่ดีของพนักงาน

ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน ต้องตรวจอะไรบ้าง

ตรวจร่างกายก่อนเข้าทำงาน 5 โรคมีอะไรบ้าง?

ก่อนเข้าทำงาน บริษัทมักกำหนดให้พนักงานเข้ารับการตรวจร่างกาย เพื่อประเมินสุขภาพเบื้องต้นและป้องกันความเสี่ยงในการทำงาน โดยเฉพาะโรคที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงานหรือเพื่อนร่วมงาน โรคที่มักตรวจพบก่อนเข้าทำงานมีดังนี้

  1. วัณโรค เป็นโรคติดเชื้อที่ส่งผลต่อปอดและระบบทางเดินหายใจ ตรวจวัณโรคช่วยป้องกันการแพร่ระบาดในที่ทำงาน โดยเฉพาะในงานที่ต้องอยู่ใกล้คนจำนวนมาก
  2. โรคแทรกซ้อนจากสารเสพติด รวมถึงผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจที่เกิดจากการใช้สารเสพติด เช่น โรคตับ โรคหัวใจ ความผิดปกติทางระบบประสาท หรือปัญหาสุขภาพจิต การตรวจช่วยให้มั่นใจว่าพนักงานมีความพร้อมทางร่างกายและจิตใจ ลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุและความผิดพลาดในการทำงาน
  3. โรคพิษสุราเรื้อรัง การดื่มแอลกอฮอล์ในระดับเรื้อรังส่งผลต่อร่างกายหลายระบบ เช่น ตับ หัวใจ และสมรรถภาพทางร่างกาย การตรวจช่วยประเมินว่าพนักงานสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
  4. โรคเท้าช้าง โรคที่ทำให้ร่างกายบางส่วนบวมผิดปกติ เช่น ขาหรือเท้า ตรวจโรคเท้าช้างเพื่อป้องกันการทำงานที่ต้องเดินหรือยกของหนัก และประเมินความสามารถในการปฏิบัติงานตามตำแหน่ง
  5. โรคเรื้อน เป็นโรคติดเชื้อเรื้อรังที่ส่งผลต่อผิวหนังและระบบประสาท การตรวจโรคเรื้อนช่วยป้องกันการแพร่เชื้อและรักษาสุขภาพผู้ปฏิบัติงานให้พร้อมสำหรับงานที่ต้องอยู่ใกล้ผู้อื่น
  6. โรคอื่นๆ ที่เรื้อรังร้ายแรง หรือมีอาการแสดงอย่างชัดเจนจนเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคปอดเรื้อรัง หรือโรคที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวและสมรรถภาพร่างกาย การตรวจช่วยให้องค์กรประเมินความเหมาะสมของพนักงานและลดความเสี่ยงในการทำงาน
เทคนิคเตรียมตัวตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานให้ผ่านฉลุย

เทคนิคเตรียมตัวตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานให้ผ่านฉลุย

การตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้มั่นใจว่าร่างกายพร้อมสำหรับการทำงาน การเตรียมตัวอย่างถูกวิธีไม่เพียงช่วยให้ผลตรวจแม่นยำ แต่ยังลดความเครียดและความกังวลระหว่างการตรวจด้วย เทคนิคต่อไปนี้จะช่วยให้คุณผ่านการตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานได้อย่างราบรื่น

  1. พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6–8 ชั่วโมงก่อนตรวจ
  2. งดอาหารและเครื่องดื่ม (ยกเว้นน้ำเปล่า) 8–12 ชั่วโมง หากมีการตรวจเลือดที่เกี่ยวกับน้ำตาลและไขมัน
  3. งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนตรวจ
  4. หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ ก่อนตรวจ 1 วัน เพื่อไม่ให้ค่าตรวจคลาดเคลื่อน
  5. แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน หอบหืด
  6. แจ้งยาที่ใช้อยู่เป็นประจำ หรืออาหารเสริมที่รับประทาน
  7. หากมีประวัติแพ้ยา ต้องแจ้งให้ชัดเจน
  8. แต่งกายสบายๆ เพื่อสะดวกต่อการตรวจ (เช่น เอกซเรย์ปอด)
  9. หากเป็นผู้หญิงควรหลีกเลี่ยงการตรวจปัสสาวะช่วงมีประจำเดือน เพราะอาจทำให้ผลตรวจผิดพลาด
  10. หากบริษัทกำหนดตรวจพิเศษ เช่น การมองเห็น หรือการได้ยิน ควรงดใส่คอนแท็กต์เลนส์หรือหูฟังก่อนตรวจ

ค่าใช้จ่ายในการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน

ค่าใช้จ่ายในการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานขึ้นอยู่กับรายการตรวจที่บริษัทกำหนด และโรงพยาบาลหรือคลินิกที่เลือกใช้บริการ โดยทั่วไปมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานอยู่ระหว่าง 1,500–5,000 บาท ขึ้นอยู่กับความละเอียดของรายการตรวจและนโยบายของบริษัท เช่น ตรวจเอกซเรย์หรือสารเสพติด อาจมีราคาสูงกว่าปกติเนื่องจากเป็นการตรวจเฉพาะทาง และบางบริษัทอาจรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดหรือบางส่วนให้พนักงาน

ข้อควรรู้ในการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน

ข้อควรรู้ในการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน

มีข้อควรรู้หลายประการที่ควรทำความเข้าใจเพื่อให้การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

  • ผลตรวจอาจแตกต่างกันตามโรงพยาบาล การใช้เครื่องมือหรือมาตรฐานการตรวจที่แตกต่างกันอาจทำให้ผลออกมาไม่เหมือนกัน ควรเลือกโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ได้รับความน่าเชื่อถือ
  • การตรวจบางอย่างขึ้นอยู่กับลักษณะงาน บริษัทอาจกำหนดรายการตรวจเฉพาะ เช่น งานที่ต้องยกของหนัก งานที่อยู่ในสภาพแวดล้อมเสี่ยง หรือใช้สายตามาก
  • การงดอาหารและพักผ่อนมีผลต่อผลตรวจ การอดอาหารก่อนตรวจเลือดหรือพักผ่อนให้เพียงพอก่อนวันตรวจช่วยให้ผลแม่นยำและลดความเสี่ยงต่อผลบวกเท็จ
  • สิทธิความเป็นส่วนตัวของพนักงาน ข้อมูลสุขภาพเป็นความลับ บริษัทต้องเก็บรักษาอย่างปลอดภัยและใช้เพื่อประเมินความเหมาะสมกับงานเท่านั้น
  • บริษัทบางแห่งกำหนดเงื่อนไขชัดเจน เช่น ต้องเข้ารับการตรวจภายในเวลาที่กำหนด หรือใช้โรงพยาบาลที่บริษัทกำหนด
  • ไม่ควรปกปิดโรคประจำตัว การแจ้งประวัติสุขภาพอย่างครบถ้วนช่วยให้แพทย์และองค์กรประเมินความเหมาะสมและป้องกันความเสี่ยงระหว่างทำงาน

หากผลตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานไม่ผ่านทำอย่างไร?

หากผลตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานไม่ผ่าน ไม่ต้องตกใจ เพราะยังมีแนวทางจัดการเพื่อให้สามารถเริ่มงานได้อย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย

  • ประเมินผลตรวจและขอคำปรึกษาแพทย์ แพทย์จะอธิบายผลตรวจและชี้ว่าปัญหาสุขภาพเกิดจากอะไร รุนแรงแค่ไหน และควรปรับปรุงหรือรักษาอย่างไร
  • รักษาหรือปรับพฤติกรรมตามคำแนะนำ เช่น หากพบความดันสูง น้ำตาลสูง หรือไขมันสูง แพทย์อาจแนะนำให้ปรับอาหาร ออกกำลังกาย หรือรับยาตามอาการ เพื่อปรับสภาพร่างกายให้เหมาะสมกับงาน
  • แจ้งผลและเอกสารต่อบริษัท บริษัทควรได้รับข้อมูลเกี่ยวกับอาการหรือโรคที่ตรวจพบ เพื่อประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่งงาน หากต้องการ บริษัทอาจเสนอทางเลือก เช่น เลื่อนวันเริ่มงานหรือปรับงานให้เหมาะสม
  • ตรวจซ้ำหรือติดตามผล ในบางกรณีแพทย์อาจแนะนำให้ตรวจซ้ำหลังรักษาหรือปรับพฤติกรรม เพื่อยืนยันว่าสภาพร่างกายเหมาะสมสำหรับการทำงาน
  • พิจารณาทางเลือกอื่นๆ หากผลตรวจชี้ว่าสภาพร่างกายไม่สามารถทำงานตามตำแหน่งได้ อาจต้องพิจารณาตำแหน่งงานที่เหมาะสมกว่า หรือรอให้ร่างกายพร้อมก่อนเข้าทำงาน

สรุป

การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้พนักงานและองค์กรมั่นใจว่าร่างกายและจิตใจพร้อมทำงาน การตรวจประกอบด้วยร่างกายทั่วไป เลือด ปัสสาวะ เอกซเรย์ปอดและหัวใจ วัดสายตา และตรวจโรคแทรกซ้อนจากสารเสพติด และตรวจ 5 โรคอันตรายที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการทำงาน หากอยากตรวจสุภาพแบบผ่านฉลุยควรเตรียมตัวงดอาหาร พักผ่อนให้เพียงพอ งดดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ออกกำลังกายหนักๆ ก่อนตรวจ 1 วัน แจ้งโรคประจำตัว ยาที่แพ้ให้ครบถ้วน เพื่อให้ผลออกตรวจเป็นไปด้วยดี หากผลตรวจไม่ผ่านสามารถปรึกษาแพทย์ รักษาหรือปรับพฤติกรรม และติดตามผลเพื่อประเมินความเหมาะสมกับงานได้ การตรวจสุขภาพจึงช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มความปลอดภัย และช่วยให้พนักงานพร้อมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

หากคุณกำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ ที่ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายในชีวิต อย่าลืมหางานผ่าน Jobsdb แพลตฟอร์มหางานที่รวบรวมตำแหน่งงานหลากหลายสาขา ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสายงานใด หรือกำลังมองหาตำแหน่งที่เติบโตในอนาคต พบกับงานในฝันที่จะทำให้ชีวิตของคุณก้าวไปอีกขั้น!

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน (FAQ)

หลายคนอาจยังคงสงสัยเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานอยู่ เราได้รวบรวมคำถามที่น่าสนใจ พร้อมคำตอบมาให้แล้ว!

ตรวจร่างกายก่อนเข้าทำงาน 5 โรคมีอะไรบ้าง?

ตรวจร่างกายก่อนเข้าทำงาน 5 โรค โดยส่วนมากจะเน้นไปโรคที่ส่งผลต่อการทำงาน เช่น วัณโรค โรคแทรกซ้อนจากสารเสพติด โรคพิษสุราเรื้อรัง โรคเท้าช้าง โรคเรื้อน หรือโรคอื่นๆ ที่เรื้อรังร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคปอดเรื้อรังและโรคติดเชื้อบางชนิด ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของบริษัทและตำแหน่งงาน

ถ้ามีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดัน จะมีผลต่อการสมัครงานไหม?

โรคประจำตัวส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการสมัครงาน หากอยู่ในการควบคุมและสามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ บริษัทบางแห่งอาจขอเอกสารยืนยันจากแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสม

ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานตรวจโรคอะไรบ้างที่ไม่ผ่านแน่ๆ?

โรคหรือภาวะที่อาจทำให้ไม่ผ่าน ได้แก่ โรคติดต่อรุนแรงที่เป็นอันตรายต่อผู้อื่น เช่น วัณโรค การติดเชื้อไวรัสบางชนิด หรือภาวะร่างกายที่ไม่สามารถทำงานตามตำแหน่งได้

ตรวจสุขภาพใช้เวลานานแค่ไหน?

โดยทั่วไปการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานจะใช้เวลาประมาณ 1–2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับรายการตรวจและความพร้อมของโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ให้บริการ

More from this category: ความอยู่ดีมีสุขในที่ทำงาน

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
ท่านได้ยอมรับคำประกาศเกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปี ท่านได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง เพื่อยินยอมให้ Jobsdb และบริษัทในเครือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถยกเลิกได้ทุกเวลา