เริ่มงานใหม่ทั้งที นอกจากต้องเตรียมใจและเตรียมเอกสารให้พร้อมแล้ว อีกหนึ่งด่านสำคัญที่หลายคนกังวลก็คือ “การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน” บางคนอาจยังไม่รู้ว่าต้องตรวจอะไรบ้าง หรือควรเตรียมตัวอย่างไรถึงจะผ่านแบบไร้กังวล จริงๆ แล้วขั้นตอนเหล่านี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แถมยังเป็นโอกาสดีที่เราจะได้เช็กสุขภาพตัวเองไปในตัวด้วย
บทความนี้พาไปดูว่าตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานต้องเจออะไรบ้าง และมีเทคนิคเตรียมตัวแบบไหนให้ผ่านฉลุย!
การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน คือกระบวนการประเมินสภาพร่างกายและจิตใจของพนักงานใหม่ เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การตรวจนี้สำคัญเพราะช่วยป้องกันอุบัติเหตุและโรคที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทำงาน ทั้งยังช่วยให้องค์กรประเมินความเหมาะสมของพนักงานกับลักษณะงาน เช่น งานที่ต้องยกของหนัก ทำงานในสภาพแวดล้อมเสี่ยง หรือมีความเครียดสูง นอกจากนี้ การตรวจสุขภาพยังเป็นไปตามกฎหมายแรงงานและข้อบังคับของบริษัท ทำให้ทั้งพนักงานและองค์กรมีความปลอดภัยและมั่นใจในการทำงานร่วมกัน
ก่อนจะเริ่มทำงาน หลายบริษัทมักกำหนดให้พนักงานใหม่เข้ารับการตรวจสุขภาพ เพื่อให้มั่นใจว่ามีสภาพร่างกายและจิตใจที่เหมาะสมกับลักษณะงาน และเป็นไปตามข้อกฎหมายแรงงาน โดยทั่วไปก่อนจะเข้าสู่กระบวนการตรวจ พนักงานควรเตรียมบัตรประชาชน แบบฟอร์มประวัติสุขภาพ เอกสารประวัติการรักษา หรือผลตรวจสุขภาพเดิม (ถ้ามี) ไปด้วย เพื่อให้แพทย์สามารถประเมินสภาพร่างกายได้อย่างครบถ้วนและเป็นไปอย่างรวดเร็ว
เป็นการตรวจขั้นพื้นฐานโดยแพทย์เพื่อประเมินความสมบูรณ์ของร่างกาย เช่น วัดความดันโลหิต ชีพจร อุณหภูมิ น้ำหนัก ส่วนสูง ดัชนีมวลกาย (BMI) และตรวจร่างกายภายนอก เช่น ผิวหนัง หัวใจ ปอด ช่องท้อง ข้อต่อ ซึ่งช่วยให้แพทย์ทราบว่าร่างกายแข็งแรงเพียงพอสำหรับลักษณะงานหรือไม่ และยังช่วยตรวจพบความผิดปกติที่ซ่อนอยู่ เช่น โรคหัวใจ หรือภาวะความดันโลหิตสูงตั้งแต่เนิ่นๆ
การตรวจเลือดช่วยประเมินสุขภาพภายในร่างกายและอวัยวะสำคัญ เช่น การทำงานของตับ ไต ระดับน้ำตาลในเลือด ระดับไขมันในร่างกาย และภาวะโลหิตจาง นอกจากนี้ยังสามารถตรวจหาโรคติดเชื้อบางชนิดหรือความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง การตรวจเลือดจึงช่วยให้องค์กรมั่นใจว่าพนักงานสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยระหว่างปฏิบัติงาน
ตรวจปัสสาวะเป็นวิธีง่ายๆ แต่สามารถประเมินการทำงานของไตและระบบทางเดินปัสสาวะ รวมถึงตรวจหาการติดเชื้อหรือความผิดปกติอื่นๆ เช่น เบาหวาน ภาวะการเผาผลาญผิดปกติ หรือภาวะขาดน้ำ การตรวจปัสสาวะช่วยให้ทราบสภาพร่างกายโดยรวมและป้องกันปัญหาสุขภาพที่จะส่งผลต่อการทำงานในระยะยาว
การเอกซเรย์ช่วยประเมินสภาพปอดและหัวใจ ตรวจหาภาวะปอดอักเสบ ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ หรือความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังบางชนิด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับงานที่ต้องใช้แรงเยอะ อยู่ในสภาพแวดล้อมเสี่ยง เช่น ฝุ่น ควัน หรือสารเคมี การตรวจเอกซเรย์ทำให้พนักงานและองค์กรมั่นใจว่าการทำงานจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
สายตาเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความแม่นยำ เช่น การทำงานกับเครื่องจักร การขับรถ หรืองานที่เกี่ยวข้องกับหน้าจอ การตรวจวัดสายตาจะประเมินความชัดเจนในการมอง การมองสี ความสามารถในการมองในแสงต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ
บางองค์กรจำเป็นต้องตรวจสารเสพติดเพื่อความปลอดภัยของพนักงานและเพื่อนร่วมงาน การตรวจนี้ช่วยป้องกันอุบัติเหตุ การทำงานผิดพลาด หรือปัญหาสุขภาพจากการใช้สารเสพติด การมีมาตรการตรวจสารเสพติดยังช่วยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ปลอดภัยและส่งเสริมสุขภาพที่ดีของพนักงาน
ก่อนเข้าทำงาน บริษัทมักกำหนดให้พนักงานเข้ารับการตรวจร่างกาย เพื่อประเมินสุขภาพเบื้องต้นและป้องกันความเสี่ยงในการทำงาน โดยเฉพาะโรคที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงานหรือเพื่อนร่วมงาน โรคที่มักตรวจพบก่อนเข้าทำงานมีดังนี้
การตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้มั่นใจว่าร่างกายพร้อมสำหรับการทำงาน การเตรียมตัวอย่างถูกวิธีไม่เพียงช่วยให้ผลตรวจแม่นยำ แต่ยังลดความเครียดและความกังวลระหว่างการตรวจด้วย เทคนิคต่อไปนี้จะช่วยให้คุณผ่านการตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานได้อย่างราบรื่น
ค่าใช้จ่ายในการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานขึ้นอยู่กับรายการตรวจที่บริษัทกำหนด และโรงพยาบาลหรือคลินิกที่เลือกใช้บริการ โดยทั่วไปมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยในการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานอยู่ระหว่าง 1,500–5,000 บาท ขึ้นอยู่กับความละเอียดของรายการตรวจและนโยบายของบริษัท เช่น ตรวจเอกซเรย์หรือสารเสพติด อาจมีราคาสูงกว่าปกติเนื่องจากเป็นการตรวจเฉพาะทาง และบางบริษัทอาจรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดหรือบางส่วนให้พนักงาน
มีข้อควรรู้หลายประการที่ควรทำความเข้าใจเพื่อให้การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย
หากผลตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานไม่ผ่าน ไม่ต้องตกใจ เพราะยังมีแนวทางจัดการเพื่อให้สามารถเริ่มงานได้อย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย
การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้พนักงานและองค์กรมั่นใจว่าร่างกายและจิตใจพร้อมทำงาน การตรวจประกอบด้วยร่างกายทั่วไป เลือด ปัสสาวะ เอกซเรย์ปอดและหัวใจ วัดสายตา และตรวจโรคแทรกซ้อนจากสารเสพติด และตรวจ 5 โรคอันตรายที่อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการทำงาน หากอยากตรวจสุภาพแบบผ่านฉลุยควรเตรียมตัวงดอาหาร พักผ่อนให้เพียงพอ งดดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ออกกำลังกายหนักๆ ก่อนตรวจ 1 วัน แจ้งโรคประจำตัว ยาที่แพ้ให้ครบถ้วน เพื่อให้ผลออกตรวจเป็นไปด้วยดี หากผลตรวจไม่ผ่านสามารถปรึกษาแพทย์ รักษาหรือปรับพฤติกรรม และติดตามผลเพื่อประเมินความเหมาะสมกับงานได้ การตรวจสุขภาพจึงช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มความปลอดภัย และช่วยให้พนักงานพร้อมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากคุณกำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ ที่ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายในชีวิต อย่าลืมหางานผ่าน Jobsdb แพลตฟอร์มหางานที่รวบรวมตำแหน่งงานหลากหลายสาขา ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสายงานใด หรือกำลังมองหาตำแหน่งที่เติบโตในอนาคต พบกับงานในฝันที่จะทำให้ชีวิตของคุณก้าวไปอีกขั้น!
หลายคนอาจยังคงสงสัยเกี่ยวกับการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานอยู่ เราได้รวบรวมคำถามที่น่าสนใจ พร้อมคำตอบมาให้แล้ว!
ตรวจร่างกายก่อนเข้าทำงาน 5 โรค โดยส่วนมากจะเน้นไปโรคที่ส่งผลต่อการทำงาน เช่น วัณโรค โรคแทรกซ้อนจากสารเสพติด โรคพิษสุราเรื้อรัง โรคเท้าช้าง โรคเรื้อน หรือโรคอื่นๆ ที่เรื้อรังร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคปอดเรื้อรังและโรคติดเชื้อบางชนิด ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของบริษัทและตำแหน่งงาน
โรคประจำตัวส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการสมัครงาน หากอยู่ในการควบคุมและสามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ บริษัทบางแห่งอาจขอเอกสารยืนยันจากแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสม
โรคหรือภาวะที่อาจทำให้ไม่ผ่าน ได้แก่ โรคติดต่อรุนแรงที่เป็นอันตรายต่อผู้อื่น เช่น วัณโรค การติดเชื้อไวรัสบางชนิด หรือภาวะร่างกายที่ไม่สามารถทำงานตามตำแหน่งได้
โดยทั่วไปการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานจะใช้เวลาประมาณ 1–2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับรายการตรวจและความพร้อมของโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ให้บริการ