10 วิธีเปลี่ยนตัวเองรับปีใหม่ ทำยังไงให้ก้าวหน้า

Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 21 May, 2024
Share

แม้จะผ่านปีใหม่กันมาแล้ว 1 เดือน แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในช่วงต้นปี แถมหลายคนยังบอกว่าเดือนมกราคมนั้นยาวนานเสียเหลือเกิน เรียกได้ว่าเปิดปีใหม่มา ก็ทำงานกันอย่างเหน็ดเหนื่อยแบบ Non-Stop จนไม่มีเวลาตั้งเป้าหมายในการเปลี่ยนตัวเอง เพราะฉะนั้นถือว่ายังไม่สายที่จะหาเวลาในการพัฒนาตัวเองต้อนรับปี 2567 ซึ่งบทความนี้เราจะมาแชร์ 10 วิธีดีๆ ในการพัฒนาตัวเองและทำยังไงให้ก้าวหน้าขึ้นกว่าเดิม

1. ตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง

เริ่มต้นด้วยวิธีสุดคลาสสิกที่คนนิยมทำกันทุกปี และปีใหม่นี้ก็ยังต้องใช้วิธีนี้กันต่อไป เพราะถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการวางแผนว่าในปีใหม่นี้ เราอยากจะทำสิ่งไหนให้ประสบความสำเร็จบ้าง อาจลองหาอุปกรณ์สำหรับจดบันทึกเพื่อใช้ในการกำหนดเป้าหมายของชีวิตในปีนี้ของคุณลงไป หากกลัวว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้จะกว้างเกินไป ให้ลองระบุเป้าหมายทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว จากนั้นจึงคอยมอนิเตอร์ว่าเป้าหมายที่ระบุไว้นั้น มีเรื่องใดที่สำเร็จแล้วบ้าง โดยให้บันทึกความสำเร็จลงไปเพิ่มเติมด้วย เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้บรรลุเป้าหมายในมิชชันต่อไป

อีกทั้งการกำหนดเป้าหมายแบบนี้ จะช่วยให้คุณเห็นถึงพัฒนาการของตัวเองขึ้นเรื่อยๆ แถมยังช่วยให้รู้ด้วยว่ายังอยู่ห่างไกลเป้าหมายอีกเท่าไร เพื่อหาวิธีเสริมในกระตุ้นตัวเองให้มากขึ้น

2. กล้าจะที่ออกจากกรอบ

บางคนอาจชอบเรื่องความเคยชินจากการทำสิ่งเดิมๆ ซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นคอมฟอร์ตโซนของตัวเอง แต่บางครั้งการเพิ่มความกล้าให้ตัวเองในปีใหม่นี้ ด้วยการเติมความกล้าที่จะออกจากกรอบ หรือออกจากคอมฟอร์ตโซนของตัวเอง ก็ถือเป็นอีกวิธีที่เดิมในการเปลี่ยนตัวเองรับปีใหม่ ก่อนอื่นเลยคือคุณต้องพยายามบอกตัวเองว่าการเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องน่ากลัวเสมอไป

เพราะการที่จะก้าวไปสู่ความก้าวหน้าหรือการที่จะเติบโตได้นั้น ต้องอาศัยการทุ่มเท ความเอาใจใส่ และการทำงานหนัก หากคุณยังยึดติดกับอะไรเดิมๆ อยู่แต่ในคอมฟอร์ตโซนของตัวเอง คุณจะไม่มีโอกาสในการพัฒนาตัวเองเลย แถมเสี่ยงต่ออาการ Burn Out ได้ในอนาคตอีกด้วย ฉะนั้นแล้วปีใหม่นี้ลองมาทำสิ่งใหม่ๆ ให้แก่ตัวเอง เพื่อเพิ่มความท้าทายและคุณค่าให้ชีวิตกันดีกว่า

3. พิชิตความกลัว

หลายคนคงมีสิ่งที่ไม่ชอบทำหรือความกลัวในสิ่งต่างๆ กันอยู่แล้ว จะดีแค่ไหนถ้าปีใหม่นี้คุณบอกกับตัวเองว่าลองดูสักตั้งในการต่อสู้กับความกลัวเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการกลัวความไม่แน่นอนในที่ทำงาน กลัวความผิดพลาด กลัวความผิดหวัง กลัวอุปสรรค หรือกลัวการพูดในที่สาธารณะ เป็นต้น

ขึ้นชื่อความกลัวนั้นถือเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งที่จะมาขัดขวางโอกาสในการก้าวหน้าของคุณ แต่การพิชิตความกลัวนั้น คุณควรค่อยๆ หาทางต่อสู้กับมันอย่างค่อยเป็นค่อยไป พยายามไปทีละนิด หากไม่ไหวก็พักก่อน จะได้ไม่เป็นการฝืนตัวเองจนเกินไปนัก เมื่อคุณก้าวผ่านความกลัวเหล่านี้ไปได้ ถึงวันนั้นแล้วก็จะถือว่าคุณได้ชนะตัวเองแล้วล่ะ

4. พัฒนาทักษะที่มีให้ดีกว่าเดิม

การเสริมทักษะใหม่ๆ ให้ตัวเอง ถือเป็นสิ่งที่ควรทำอยู่เสมอ แต่บางทีคุณก็ควรลองถามตัวเองด้วยว่าสิ่งไหนที่คุณทำแล้วมีความสุขที่สุด หรือสำรวจตัวเองว่าทักษะไหน ความสามารถใด ที่คุณทำมันได้ดีบ้าง เมื่อรู้ว่าทำสิ่งนั้นได้ดีแล้ว คุณจะทำอย่างไรให้ทำสิ่งเหล่านั้นได้ดียิ่งขึ้นไปอีก เพราะอย่าลืมว่าการเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด คุณจึงควรค่อยๆ พัฒนามันไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นการยกระดับความชำนาญในทักษะให้กลายเป็นความเพอร์เฟ็กต์ในที่สุด

5. ปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่

สำหรับการทำงานนั้นนอกจากทักษะและความสามารถที่ต้องใช้แล้ว องค์ประกอบที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างคือเรื่องของสภาพแวดล้อมโดยรอบ ที่ถือว่ามีส่วนช่วยอย่างมากที่จะทำให้คุณรังสรรค์ผลงานออกมาได้ดีขึ้น เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อจิตใจ ช่วยบรรเทาความเครียด ช่วยให้มีสุขภาพจิตสดใส และความสุขในการทำงานได้

หากคุณรายล้อมไปสภาพแวดล้อมที่ดี จะช่วยขับเคลื่อนในเรื่องของแรงบันดาลใจ ผสานกับการกระตุ้นให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ในการทำงานอีกต่างหาก อาจลองจัดโต๊ะทำงานใหม่รับปีใหม่ เปลี่ยนมุมทำงาน หรือหากออฟฟิศไหนที่ทำงานแบบ Hybrid Work ก็ลองหาที่นั่งทำงานใหม่ๆ เพื่อรีเฟรชตัวเองและหลีกหนีความซ้ำซากจำเจ รวมไปถึงเรื่องคนรอบข้างก็สำคัญ ควรพาตัวเองไปอยู่ใกล้ๆ กับคนที่มีพลังงานบวก เพื่อช่วยส่งเสริมซึ่งกันและกัน ไม่ควรพาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมความขัดแย้งในที่ทำงาน

6. เพิ่มพูนความรู้ด้านภาษา

แม้ภาษาไทยจะเป็นภาษาบ้านเกิด และภาษาอังกฤษจะเป็นภาษาสากล ซึ่งเป็นทักษะทางภาษาที่จำเป็นต่อการทำงานในยุคปัจจุบันอยู่แล้ว แต่การตั้งเป้าในปีใหม่ในการเรียนรู้ทักษะด้านภาษาที่ 3 ก็ถือเป็นสิ่งควรลองทำไม่น้อย เพราะในปัจจุบันมีบริษัทต่างประเทศหลายสัญชาติที่เข้ามาลงทุน จึงทำให้ทักษะด้านภาษาที่ 3 กลายเป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน

หากคุณได้ลองเทคคอร์สภาษาอื่นๆ เช่น ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลี ภาษาฝรั่งเศส ภาษาอิตาลี ภาษาเยอรมัน ฯลฯ นอกจากจะช่วยเสริมทักษะใหม่ๆ ให้แก่ตัวเอง บอกเลยว่านี่แหละที่จะเป็นโอกาสที่ดีในการขยับขยายและเพิ่มความก้าวหน้าในเรื่องการทำงานอย่างแท้จริง 

7. อ่านหนังสือเสริมแรงบันดาลใจ

แม้ทุกวันนี้เราจะอยู่ในยุคดิจิทัลหรือยุคโซเชียลครองเมือง จนทำให้ไอเท็มอย่างหนังสือลดระดับความนิยมลงไป แต่หากคุณกลับมาตั้งเป้าให้กับตัวเองในการหาหนังสือดีๆ มาอ่านสักเล่ม ก็ถือว่ามีส่วนช่วยให้คุณโฟกัสกับตัวเองได้มากขึ้น แถมยังให้คุณได้ทำ Social Detox หรือตัดขาดจากโลกโซเชียลได้ไปในตัว

ลองหาหนังสือประเภท How To หนังสือสร้างแรงบันดาลใจ หรือหนังสือชีวประวัติของบุคคลที่ประสบความสำเร็จมาอ่าน คุณจะได้รับไอเดียใหม่ๆ ได้ความรู้เพิ่มเติม และได้วิธีคิดรูปแบบใหม่ นำมาปรับใช้กับตัวเอง ผสานกับแรงบันดาลใจแบบอัดแน่นให้คุณได้กล้าเผชิญกับปัญหาที่เตรียมเข้ามาทดสอบคุณในปีใหม่นี้

8. ค้นหางานอดิเรกใหม่ๆ

เมื่อได้ลองก้าวจากออกกรอบเดิมๆ ในเรื่องการทำงานแล้ว ควรลองออกก้าวออกจากกรอบเดิมๆ ในเรื่องของงานอดิเรกด้วยเช่นกัน ลองหาอะไรใหม่ๆ ที่คุณสนใจมาเริ่มทำในปีใหม่นี้ดู เช่น เรียนโยคะ เรียนดำน้ำ เรียนมวยไทย เข้าคลาสทำอาหาร ปั่นจักรยาน ปีนผา คลาสเต้น เล่นดนตรี ฯลฯ

เมื่อคุณได้ลองทำอะไรใหม่ๆ สิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้คุณมีทักษะและช่วยให้มีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้พัฒนาทางด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และจิตใจไปพร้อมๆ กัน เพื่อการเติมเต็มความสุขต้อนรับปีใหม่นี้ 

9. ออกกำลังกายเพิ่มความฟิต

หากปีที่แล้วคุณทำงานหนักจนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ปีใหม่นี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตั้งเป้าด้านการออกกำลังกายให้แก่ตัวเอง เพราะอย่าลืมว่าเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพจิตก็ถือเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน แถมการออกกำลังกายยังเป็นการหลั่งสารเอ็นโดรฟิน สายแห่งความสุข ที่ถือว่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการปวด ลดความเครียด เสริมสร้างสุขภาวะ และปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น

โดยลองเริ่มที่การออกกำลังกาย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 30 นาทีขึ้นไป แล้วคุณจะค้นพบความเครียดได้หายไป ร่างกายแข็งแรงขึ้น จนส่งผลให้การทำงานของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

10. ลงมือทำ

จริงๆ ข้อนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการตั้งเป้าหมาย เพราะหากวิธีต่างๆ ที่เราแนะนำไปด้านบนอยู่ในแผนการเปลี่ยนตัวเองรับปีใหม่คุณ แต่สุดท้ายไม่เกิดการลงมือทำ ก็ถือว่าไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นวิธีที่สุดในการเปลี่ยนตัวเองเพื่อความก้าวหน้าก็คือ การลงมือทำ ยิ่งคุณได้ลงมือทำสิ่งที่คุณวางแผนไว้เท่าไร ความสำเร็จและความก้าวหน้าก็จะเข้ามาหาคุณเร็วเท่านั้น

สรุปวิธีเปลี่ยนตัวเองรับปีใหม่

สิ่งใดที่คุณเคยล้มเหลวหรือไม่ประสบความสำเร็จในปีที่แล้ว พยายามทิ้งมันไปและอย่าเก็บมาคิดจนเกิดความเครียด แต่ให้เปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นมาแรงบันดาลใจในการเรียนรู้และการพัฒนา เพื่อตั้งเป้าหมายใหม่ในการเปลี่ยนตัวเองรับปีใหม่นี้ ค่อยๆ ลงมือทำอย่างค่อยเป็นไป อย่ากดดันตัวเองจนไม่มีความสุข อย่างไรเสียความก้าวหน้าก็จะเข้ามาหาคุณอย่างแน่นอน

ส่วนปีใหม่นี้ใครที่อยากเปลี่ยนงานใหม่ JobsDB พร้อมจัดให้! กับงานคุณภาพจากหลายหลายบริษัทชั้นนำในทุกสายงานให้คุณได้เลือกอย่างจุใจ เข้ามาเลือกงานที่ใช่ บริษัทที่ชอบ แล้วส่งใบสมัครได้เลย

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่าผู้สมัครค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับอะไรใน Jobsdb? สำรวจคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพื่ออัพเดทเทรนด์ใหม่เสมอ

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
เพียงคลิก 'สมัครสมาชิก' เพื่อยอมรับ คำชี้แจงสิทธิ์ส่วนบุคคลของ Jobsdb โดยคุณสามารถยกเลิกอีเมลเมื่อใดก็ได้
สงวนลิขสิทธิ์ 1998-2024 โดย บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด