เทรนด์เทคโนโลยี มาแรงแห่งปี 2022 มีอะไรที่ควรต้องจับตา ใส่ใจ และเรียนรู้บ้าง มาอ่านคำแนะนำ ความรู้ และมุมมองของ คุณชานนท์ ไตรสิงห์ ตำแหน่ง Senior Software Engineer สังกัด Venture Builder Team บริษัท SCB 10X Co., Ltd. กัน
ต่อยอดมาจากปีที่แล้วถึงต้นปี 2022 ผู้คนพูดถึงคริปโทเคอร์เรนซีอย่างแพร่หลาย สำหรับคนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงเทคโนโลยีอาจจะมองว่า นี่คือสินทรัพย์ประเภทหนึ่งสำหรับการลงทุน ขณะที่คนซึ่งอยู่ในวงการเทคโนโลยีมองลึกลงไปถึงเทคโนโลยีบล็อกเชนที่อยู่เบื้องหลัง คริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งทำให้คนสามารถทำธุรกรรมการเงินได้โดยไม่ต้องมีบริษัทการเงินมาบริหารจัดการ ทุกอย่างดำเนินการอัตโนมัติบนสมาร์ทคอนแทร็ค
เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) นอกจากจะเอื้อประโยชน์ในด้านการเงินที่ทำให้เกิดการซื้อขายแลกเปลี่ยนหรือเก็งกำไรแล้ว ยังสนับสนุนอาชีพอื่น ๆ ในสายสร้างสรรค์ อย่างอาชีพศิลปิน นักพัฒนาเกม หรือผู้ออกแบบงานกราฟิก ให้เข้ามาในวงการนี้ โดยอาจจะเข้ามาในรูปแบบของการสร้างสรรค์สิ่งที่ตนเองถนัดอยู่แล้ว และใช้แพลตฟอร์มซึ่งมีเทคโนโลยีบล็อกเชนรองรับในการวางขายงานของตน ตรงนี้เรียกว่า Non-Fungible Token (NFT)
แล้วยิ่งพอ Facebook มีการปรับเปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็น Meta จะเป็นที่สังเกตได้ว่า แพลตฟอร์มก็ทำงานบนบล็อกเชน ซึ่งทางแบรนด์ต่าง ๆ จำนวนไม่น้อย ล้วนกระโดดเข้ามาร่วมเพื่อให้บริการหรือเตรียมให้บริการในโลกเสมือนจริง ซึ่งมีลักษณะเดียวกับที่ Facebook กำลังทำ เป็นผลให้เทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ช่วยสนับสนุนให้ปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์หรือคนอื่นในโลกเสมือนจริงเป็นที่นิยมตามไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น แว่นตา Oculus ที่ติดอันดับเป็นสินค้ายอดฮิตในช่วงคริสต์มาส ปี 2021 ที่ผ่านมา
ตอนนี้บล็อกเชนดูจะเป็นเทคโนโลยีหลักที่น่าจับตามองที่สุดแล้วจริง ๆ เพราะสรุปแล้ว เทคโนโลยีนี้ได้เปิดช่องทางให้ผู้คนขยายขอบเขตในการสร้างรายได้ เป็นพื้นฐานของการสร้างโลกเสมือนจริงที่ในอนาคตสำนักงานก็จะไปตั้งอยู่ในพื้นที่ดิจิทัล แพลตฟอร์มของโลกเสมือนจริงจะสนับสนุนหรือเพิ่มปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนโดยไม่ต้องคำนึงถึงการเดินทางหรือสถานที่ในโลกของความเป็นจริง รวมไปถึงการยกโลกธุรกิจไปอยู่ในพื้นที่ดิจิทัลด้วยเช่นกัน
อาชีพ Blockchain Developer หรือผู้พัฒนาบล็อกเชนกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด แต่เนื่องจากเทคโนโลยีบล็อกเชนนี้ยังใหม่ คนทำงานนี้ในตลาดมักจะสั่งสมประสบการณ์จากการศึกษาด้วยตัวเอง
นอกจากทางผู้พัฒนาบล็อกเชนจะไปทำงานในสายสตาร์ทอัพ ไปอยู่ตามบริษัทฟินเทคแล้ว ในส่วนของ Metaverse หรือพวก Virtual Space ที่กำลังเป็นที่สนใจสำหรับเป็นช่องการขายและการทำการตลาด ยังต้องการผู้ประกอบอาชีพอื่น ๆ ที่ช่วยสร้างสรรค์สังคมในโลกเสมือนขึ้นมาด้วย โดยอาชีพในสายงานอย่างสถาปนิก นักออกแบบดีไซน์ ผู้พัฒนาธุรกิจ และการทำการตลาด มีช่องทางที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างโลกเสมือนแต่ละใบได้อย่างมาก อาชีพที่มีอยู่แล้วเหล่านี้สามารถเข้ามามีบทบาท อย่างสถาปนิกนั้น จากแต่เดิมต้องออกแบบตึกโดยคำนึงถึงความเป็นจริง หากเป็นในโลกเสมือน สถาปนิกจะได้ทำงานในมุมมองที่ต่างออกไป กว้างออกไป เพราะจินตนาการจะไม่ถูกจำกัดด้วยลักษณะทางกายภาพและธรรมชาติของโลกอย่างที่เป็นมา
ในมุมมองของคุณชานนท์ ยุคนี้คนที่สนใจงานด้านเทคโนโลยีจะต้องมี 2 ทักษะ
เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ถ้าเราติดตามข่าวสารจะพบว่าในกระแสของการพูดคุยในวงการเทคโนโลยี ในช่วงแรกนั้นความสนใจของผู้คนอยู่ที่ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ซึ่งทำให้การทำงานต่าง ๆ ง่ายขึ้น เพราะทาง AI จะเป็นตัวลดความซับซ้อนหรือซ้ำซ้อนของงานลง อย่างไรก็ตามขณะที่คนในวงการเทคโนโลยีกำลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์ พัฒนา AI ก็ได้มีเทคโนโลยี Blockchain เป็นที่รู้จักในเวลาต่อมา ก่อนจะมีแนวคิดและการพัฒนา Metaverse การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว มีสิ่งใหม่ ๆ เข้ามา ขณะที่เทคโนโลยีที่มีอยู่เดิมก็ถูกพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้สร้างสรรค์ในงานเทคโนโลยีต้องกระตือรือร้นในการเรียนรู้อยู่เสมอ
การผลักดันให้ตนเองลงมือทำเป็นสิ่งจำเป็น เมื่อเราเรียนรู้อะไรบางอย่างแล้ว สิ่งที่รู้จากตำราอาจไม่ได้คงทนอยู่ตลอดไป เมื่อไม่ได้นำมาใช้ เราก็อาจจะหลงลืม หรือมีบางจุดที่ยังเข้าใจไม่กระจ่าง ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ หรืออาจไม่เหมาะที่จะนำมาใช้งานจริง การลงมือทำจริงจะทำให้เราเข้าใจความรู้เหล่านั้นได้ถ่องแท้มากขึ้น เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น และสร้างผลงานขึ้นมากลายเป็น Portfolio ที่สามารถนำไปต่อยอดหรือใช้สมัครงานในตำแหน่งงานเราสนใจได้
เรื่องนี้เป็นประเด็นทางการตลาด โดยทั่วไปนักพัฒนาเทคโนโลยีจะมองว่าผู้ใช้งานต้องการที่จะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ด้วยความหวังดีจึงนำเสนอผลิตภัณฑ์ แพลตฟอร์มหรือโปรแกรมที่มีฟังก์ชันการใช้งานมากมาย แต่แทนที่จะนำเสนอทุกสิ่งทุกอย่าง นักพัฒนาเทคโนโลยีควรมองให้ออกว่าผู้ใช้งานต้องการสิ่งที่จะนำเสนอจริงหรือไม่ ต้องพิจารณาถึงโจทย์ของลูกค้า คิดว่าลูกค้าจะใช้สิ่งที่พัฒนาขึ้นมาเพื่ออะไร ต้องคำนึงถึงการใช้งานจริงว่าเหมาะสมกับลูกค้า
บริษัท SCB 10X เน้นที่จะเติบโตผ่านนวัตกรรม ซึ่งคุณชานนท์ได้เปิดเผยว่าธนาคารไทยพาณิชย์ได้แบ่งการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนให้เกิดบริษัทสตาร์ทอัพอย่าง SCB 10 X โดยแบ่งทีมออกเป็น
คุณชานนท์อยู่ในส่วนของทีม Manager Builder ซึ่งเมื่อมองเฉพาะขอบเขตของ SCB 10X เอง มีการกำหนดวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่จำกัดความสามารถของคนที่วัยหรืออายุงาน โดยเน้นว่า เวลาทำงานคนที่มีเป้าหมายเดียวกัน ทัศนคติแบบเดียวกัน คือคนที่จะสร้างผลสัมฤทธิ์ของงานออกมาให้ประจักษ์
ที่ SCB 10X งานหนึ่ง ๆ จะมีการหมุนเวียนเปลี่ยนคนทำได้ สลับกันทำแต่สามารถได้ผลของงานสำเร็จ ดังนั้นการรับคนเข้าทำงาน ก็จะเน้นมองหาคนที่มีเป้าหมายเดียวกัน คนสัมภาษณ์งานของ SCB 10X จะเป็นสมาชิกในทีม ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้มีประสบการณ์มากหรือตำแหน่งสูง เกณฑ์ในการเลือกคนคือ คุยด้วยแล้วรู้สึกว่าอยากทำงานด้วย
นอกจากนี้ การรับฟังกันในองค์กรเป็นเรื่องสำคัญ ทาง SCB 10X มีการจัดเป็น Section ให้คนได้พูดสิ่งที่อยู่ในใจ เพื่อจะได้นำคำพูดสะท้อนกลับไปปรับปรุงและผลักดันองค์กรต่อ เพื่อให้องค์กรเป็นสถานที่ที่คนทำงานอยู่แล้วสบายใจ สนุกกับงาน ไม่รู้สึกอึดอัด
ในแง่ของการพัฒนาสภาพแวดล้อมการทำงานที่ SCB 10X คุณชานนท์ให้ความเห็นว่า ก่อนนี้หลายบริษัทด้านเทคโนโลยีพยายามจะสร้างสภาพแวดล้อมที่สนุก ให้คนได้มีความสุขในพื้นที่ทำงาน แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้คนทำงานจากที่บ้าน หรือทำงานแบบไฮบริด ทั้งจากที่บ้านสลับกับการแวะเข้ามาในสถานที่ทำงาน การพัฒนาสภาพแวดล้อมของ SCB 10X จึงเน้นการเป็นสถานที่ที่คนทำงานจะรู้สึกสนุกกับงาน เพราะที่ทำงาน อย่างไรก็ตาม คนก็ต้องมาเพื่อทำงาน แม้ทางบริษัทจะจัดให้มีไม้ลื่น มีจุดเล่นเกม เพื่อสร้างความบันเทิงให้คนทำงาน แต่สิ่งที่ดึงดูดคนได้ดีที่สุดก็คืองานที่ทำแล้วมีความสุขนั่นเอง
สำหรับคนเก่งที่มีไอเดีย ทาง SCB 10X สนับสนุนการได้ถ่ายทอดออกมา ได้แสดงความสามารถ ถ้าความคิดของคนในทีมดูแล้วใช้งานได้จริง ก็จะได้รับการยึดมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์
คุณชานนท์ได้แนะนำว่า งานในส่วนของแอดมินและซัพพอร์ตล้วนมีความสำคัญกับทีม ทำให้คนอื่น ๆ สามารถจดจ่ออยู่กับหน้าที่ของตนได้ โดยไม่ต้องพะวงในสิ่งที่อยู่นอกขอบเขตการทำงาน ซึ่งเรื่องความรู้ทางเทคนิค ไม่จำเป็นจะต้องรู้ทุกอย่าง แต่ควรจะมองภาพรวมออก เข้าใจศัพท์เทคนิค ใช้โปรแกรมบางอย่างที่สนับสนุนงานตัวเองในตำแหน่งซัพพอร์ตได้
การมีใบประกาศนียบัตรต่าง ๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยบ่งบอกว่าคนทำงานซัพพอร์ตน่าจะมีทักษะที่จะประยุกต์เข้ากับทีมได้ การมีพื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีของบริษัทที่ไปทำงานด้วยนั้น ทำให้สามารถพัฒนาตัวเองไปได้ไกลขึ้น เป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้เราสามารถทำงานเป็นฝ่ายซัพพอร์ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะทำงานกับบริษัทเทคโนโลยีใดก็ตาม
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android
https://th.jobsdb.com/th-th/articles/blockchain-%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%84%e0%b9%82%e0%b8%99%e0%b9%82%e0%b8%a5%e0%b8%a2%e0%b8%b5%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%99%e0%b9%82%e0%b8%a5%e0%b8%81/
https://th.jobsdb.com/th-th/articles/nft-arts-%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9e%e0%b8%a2%e0%b9%8c%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a5/
https://th.jobsdb.com/th-th/articles/cryptocurrency-%e0%b8%aa%e0%b8%81%e0%b8%b8%e0%b8%a5%e0%b9%80%e0%b8%87%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a5/
https://th.jobsdb.com/th-th/articles/digital-literacy/
https://th.jobsdb.com/th-th/articles/metaverse-%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%ad%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89/