เงินเดือนกับความก้าวหน้าเลือกอะไรดี
มั่นใจว่าปัจจัยอันดับต้น ๆ ของทุกคนที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานกัน ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องเงิน ทำงานก็ต้องได้รับค่าตอบแทน งานมิใช่การกุศล ที่หยาดเหงื่อไหลรินทุกวันนี้ ก็ต้องได้ค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อกันหน่อย หลายคนอาจคิดว่า งานที่เงินดีคือโอเคแล้ว แต่ในบางครั้งก็จะมีข้อแย้งว่า เราควรมองความก้าวหน้าในอาชีพการงานไว้ด้วย มิใช่จะมองแต่รายได้ที่ได้รับภายในวันนี้ แต่ 5 ปีผ่านไป ก็ยังทำทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่ได้พัฒนาไปไหน
ทักษะเดิม ๆ เงินเดือนเท่า ๆ เดิม เพิ่มเติมด้วยความรับผิดชอบที่มากขึ้น เลยเป็นที่สงสัยในใจใครหลายคนว่า เราจะให้น้ำหนักอะไรเป็นสำคัญดีระหว่างเงินเดือน กับความก้าวหน้า ปัจจัยในการพิจารณาของแต่ละคนคงแตกต่างกันไป ลองให้สำรวจตัวเองจากหัวข้อต่าง ๆ เหล่านี้ เชื่อได้ว่าเมื่ออ่านจบ น่าจะได้คำตอบแบบลับเฉพาะของตัวเองไม่มากก็น้อย
แต่ละคนมีจุดมุ่งหมายในชีวิตที่แตกต่างกัน ส่งผลให้มีเส้นทางการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันไปด้วย หลายคนอาจมองแค่ความสุขในวันนี้ ถ้าเจอเงินเดือนเยอะคว้าไว้เลยดีกว่า อย่าไปหวังความก้าวหน้าในวันหน้า ไม่ก้าวหน้าแต่ได้เงินเยอะจะเดือดร้อนไปไย ฉันไม่ได้เป็นคนทะเยอทะยานอะไรขนาดนั้น แต่ในขณะที่บางคนอาจมองไกลกว่านั้น คิดว่าฉันมีความทะยาน หวังว่าวันหนึ่งจะก้าวไปเป็นผู้บริหารให้จงได้ ของานที่ได้โอกาสกรุยทางไปสู่สะพานข้ามดาว อดทนเงินน้อยกว่าในวันนี้ แต่ไปยิ่งใหญ่ในวันหลังดีกว่า หวังอย่างไร ก็จงไปตามนั้นไม่มีอะไรถูกอะไรผิด ก่อนอื่นหยุดถามตัวเองสักนิดว่าเราเป็นแบบไหนกันแน่ จะได้หันหัวเรือไปถูกทิศทางนะคะ
2. ความจำเป็นในการใช้เงิน
ความจำเป็นในการใช้เงินที่ต่างกันก็มีผลให้การตัดสินใจต่างกันด้วย ถ้าคุณมีฐานะดั้งเดิมที่ค่อนข้างดีอยู่แล้ว เงินอาจไม่มีผลเท่าความก้าวหน้าในระยะยาว ในขณะที่บางคนอาจต้องใช้เงินเดือนเลี้ยงอีกหลายคนในครอบครัว ยังผลให้ต้องโฟกัสกับปัจจุบัน ไม่ใช่อนาคต จึงต้องเลือกงานที่ให้ค่าตอบแทนดีเป็นสำคัญ ความก้าวหน้าใด ๆ ค่อยไปว่ากันข้างหน้า ปากท้อง ณ วันนี้สำคัญกว่าเป็นไหน ๆ
3. ระดับ ความเครียด
งานแต่ละตำแหน่ง มีระดับความเครียดที่แตกต่างกัน ถ้างานใดก็ตามที่ทำแล้วเครียดมาก แนะนำว่า อย่าไปทำ ไม่ว่างานนั้นจะเงินเยอะหรือจะก้าวหน้าอย่างไรก็ตาม ไม่คุ้มที่จะเอาสุขภาพไปเสี่ยง เงิน และความก้าวหน้าสำคัญมากก็จริง แต่คงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าสุขภาพของเรา ดังนั้นไม่ว่าจะเงิน หรือความก้าวหน้า ก็ให้เลือกอันที่ทำแล้ว ไม่เครียดจนเกินไปก็แล้วกันค่ะ
4. ความรู้และทักษะที่จะได้รับระหว่างการทำงาน
ลองพิจารณาดูว่า ตำแหน่งที่เราจะได้ทำ นอกเหนือจากเงินเดือนแล้ว จะได้รับโอกาสเรียนรู้ในเรื่องที่เป็นประโยชน์ น่าสนใจ หรือตรงกับความต้องการของเราหรือไม่ อย่างไร หากเป็นงานที่ส่งเสริมให้โอกาสการเรียนรู้ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ได้มาก ก็จงอย่ารีรอ ให้รีบไปทำเลยค่ะ เพราะความรู้ ทักษะและประสบการณ์จะอยู่ติดตัวเราไปตลอด แม้ว่าจะเป็นงานที่ให้ค่าตอบแทนไม่สูงเมื่อเทียบกับงานอื่น แต่จะเป็นงานที่ให้คุณค่ากับผู้ทำได้มากมาย อย่าพยายามเลือกงานที่ต้องทำอะไรเดิม ๆ ตลอดเวลา เพราะจะทำให้เราไม่พัฒนาและหยุดอยู่กับที่ค่ะ
5. ทีมงานคุณภาพ และปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ
สุดท้ายไม่ว่าจะงานที่เงินดี หรืองานที่ก้าวหน้า ก็ต้องอาศัยผู้ผลักดันทั้งคู่ คนที่จะให้คุณให้โทษได้ในการทำงาน ก็คือหัวหน้างานของคุณนั่นเอง งานที่เงินดี คงจะได้ปรับเงินเพียงเล็กน้อย หากคุณได้เจอกับหัวหน้าที่วิสัยทัศน์ต่างกัน และงานที่ก้าวหน้า น่าจะก้าวไปได้ช้ากว่าความเป็นจริง ถ้าหัวหน้างานไม่ได้ให้โอกาสพัฒนา นอกจากนี้ทีมงานคุณภาพที่แวดล้อมเราก็สำคัญด้วยเช่นกัน งานจะเดินไม่ได้ถ้าขาดทีมเวิร์ค ดังนั้นโปรดพิจารณาถึงสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ในการทำงานด้วย เพราะเงินและความก้าวหน้าอาจหาได้จากหลายที่ แต่ความเข้ากันได้ระหว่างคนในทีมไม่ได้หาได้ง่าย ๆ ถ้าหาเจอแล้ว ก็ควรจะอยู่นาน ๆ นะคะ
คงไม่มีข้อสรุปไหนที่ชี้ชัดได้ว่า เงิน หรือ ความก้าวหน้าสำคัญกว่ากัน เพราะที่มา และที่ไปของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้น jobsDB แนะนำให้เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง และพิจารณาเลือกตามที่คิดว่าเหมาะสมกับตัวเรา จะดีที่สุดค่ะ หากไม่รู้ว่าจะเริ่มพิจารณาที่ตรงไหน ลองพิจารณาจากข้อแนะนำข้างต้นก่อนก็ได้ค่ะ
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
