ปัจจุบันนี้ AI ถือเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านธุรกิจ อุตสาหกรรม หน่วยงานรัฐ การเงิน สุขภาพ และความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของคนในสังคมในยุคนี้ ส่งผลให้บุคคลที่นำปัญญาประดิษฐ์นี้มาพัฒนาองค์กรอย่าง AI Engineer กลายเป็นตำแหน่งที่เป็นที่ต้องการของหลายบริษัทและตลาดแรงงาน หากใครยังสงสัยว่า AI Engineer คืออะไร เรียนจบอะไรมาถึงทำงานด้านนี้ได้ จบมาแล้วสามารถทำงานเกี่ยวกับอะไรได้บ้าง และต้องมีความรู้ความสามารถในเรื่องไหนบ้างถึงจะมีคุณสมบัติเพียงพอต่อตำแหน่งนี้ วันนี้ JobDB มีข้อมูลมาฝากกัน
AI Engineer คือผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการนำปัญญาประดิษฐ์มาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ หน้าที่หลัก ๆ คือการเขียนโปรแกรมหรือชุดคำสั่งด้วยเทคนิคต่าง ๆ เพื่อให้ปัญญาประดิษฐ์สามารถเรียนรู้ พัฒนา และสามารถตัดสินใจในเรื่องที่ซับซ้อนได้ด้วยตนเองอย่างถูกต้องแม่นยำมากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ยังเป็นคนที่นำข้อมูลใหม่ๆมาพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ในปัจจุบัน
หากใครที่สนใจอยากสมัครตำแหน่งนี้ วุฒิที่ควรมีคือ ปริญญาตรีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ หรือ สาขาวิชาวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์และวิทยาการข้อมูล เพราะความรู้พื้นฐานที่ใช้ในการทำงาน ควรมีตามหัวข้อดังต่อไปนี้
- วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
- คณิตศาสตร์
- เทคโนโลยีสารสนเทศ
- สถิติ
- การเงิน
- เศรษฐศาสตร์
- วงจรชีวิตของการพัฒนาซอฟต์แวร์
- Modularity, OOPS, Classes
- รูปแบบการออกแบบ
- สถิติและคณิตศาสตร์
- การเรียนรู้ของเครื่อง
- การเรียนรู้เชิงลึกและเครือข่ายประสาทเทียม
- อิเล็กทรอนิกส์หุ่นยนต์และเครื่องมือวัด (ไม่ใช่หนังสือมอบอำนาจ)
- การแก้ปัญหาเชิงวิเคราะห์
- การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
- ความคิดสร้างสรรค์
- ความรู้อุตสาหกรรม
นอกจากนี้หากเรียนรู้ด้าน Machine Learning, Deep Learning หรือ Data Science จะช่วยทำให้เรามีความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ ทั้งในทางทฤษฎีและทางปฏิบัติ ซึ่งจะช่วยให้เราได้เปรียบมากกว่าคู่แข่งที่มาสมัครงานคนอื่น
อาชีพที่สามารถประกอบได้หลังสำเร็จการศึกษา
- วิศวกรคอมพิวเตอร์ นักโปรแกรม
- นักวิชาการคอมพิวเตอร์ ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีทางการเงิน
- นักวิเคราะห์และออกแบบระบบคอมพิวเตอร์ ผู้ดูแลระบบเครือข่าย
- นักพัฒนาเว็บไซต์
- ผู้จัดการซอฟต์แวร์
- เจ้าของบริษัท ผู้ประกอบการอิสระ
หน้าที่ในการทำงาน
- ศึกษาและแปลงต้นแบบ Data Science
- วิจัยและใช้อัลกอริทึม ML และเครื่องมือ AI ที่เหมาะสม
- พัฒนาแอปพลิเคชัน Machine Learning ตามข้อกำหนด
- ทำงานร่วมกับวิศวกรไฟฟ้าและทีมหุ่นยนต์
- เลือกชุดข้อมูลและวิธีการแสดงข้อมูลที่เหมาะสม
- เรียกใช้การทดสอบและการทดลองของ Machine Learning / AI
- ออกแบบและสร้าง Computer Vision Solutions เพื่อใช้ประโยชน์จาก Machine Learning และ Deep Learning
- จัดเตรียม Technology เพื่อพัฒนา Versions ที่ใช้งานได้ของ Model
- สร้างและปรับใช้ AI Algorithms
นอกจากนี้หน้าที่ในการทำงานยังสามารถแบ่งตามระดับความเชี่ยวชาญและตำแหน่งงานที่แยกออกไปแต่ละหน่วยงาน
ความรู้ความสามารถที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน
- มีความรู้ความเข้าใจใน Computer Science และ Software Engineering เป็นอย่างดี
- มีความรู้ความเข้าใจใน Mathematical และ Algorithms
- เชี่ยวชาญในการเขียน Program โดยใช้ภาษา R และ Python
- เชี่ยวชาญในการใช้ Command ของ Unix และ Linux Environments
- มีความรู้ความเข้าใจใน Data Evaluation
- มีประสบการณ์การทำงานเกี่ยวกับ Deep Learning, Machine Learning, Image Processing, NLP, Computer Vision และ Neural Network Architectures
บริษัท McKinsey บริษัทที่ปรึกษาชื่อดังของโลกได้วิเคราะห์ไว้ว่าในปี ค.ศ.2030 หรืออีก 10 ปีข้างหน้า AI จะสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากถึง 13 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว และบริษัท 70% ทั่วโลกจะใช้ AI ในการดำเนินธุรกิจ ดังนั้นในอนาคตประเทศไทยอาจต้องการวิศวกรปัญญาประดิษฐ์เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากหลายธุรกิจต้องเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกันมากขึ้น หากใครที่เริ่มสนใจหางานในวงการไอทีแบบนี้ สามารถเข้ามาหางานที่แอปพลิเคชัน JobsDB ได้เลย
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android
เลือกงานที่ใช่ ใช้ชีวิตที่ชอบ ด้วยการค้นหางานที่ง่ายและรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดการเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณอัปโหลด ดู และลบได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานแสนง่าย ด้วยระบบ AI ใหม่ ช่วยค้นหางานที่ตรงใจมากขึ้นถึง 6 เท่า
เส้นทางสู่การเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ กับ 5 คุณสมบัติที่ต้องมี
System Engineer ทำอะไร ต่างจากงานไอทีอย่างไรบ้าง
เรซูเม่สมัครงาน สายไอที ควรมีอะไรบ้าง
IT Insider: เจาะ เทรนด์ไอที ยุคใหม่ อะไรที่ HR กำลังมองหา
เช็กด่วน! แหล่งอัปเดต เทรนด์ไอที ที่คนไอทีควรติดตาม