ข้อดีของการเป็นพนักงานประจำ
หลายคนอาจจะบ่นว่าการเป็นพนักงานประจำ ก็ไม่ต่างจาก การทำงาน เช้าชามเย็นชาม ตื่นเช้าไปทำงาน ตอนเย็นก็กลับบ้าน ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นมากนัก งาน ที่ทำก็เหมือน ๆ กันทุกวัน บางครั้งก็เต็มไปด้วย ความเครียดจากการทำงาน ค่อนข้างสูง แต่ถึงแม้จะบ่นไปอย่างนั้น คนทำงานหลายคนก็ยังเลือกที่จะเป็นพนักงานประจำอยู่ดี ด้วยเหตุผลหลายอย่างที่แตกต่างกันไป
การเป็นพนักงานประจำให้มากกว่าที่เราคิด เรามาดูกันว่าการเป็นพนักงานประจำนั้นมีข้อดีอะไรบ้าง ทำไมคนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะทำงานประจำ เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับการทำธุรกิจส่วนตัว หรือทำงานอิสระอื่น ๆ จะมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง เราสามารถนำมาเป็นไอเดีย ก่อนตัดสินใจเลือกอาชีพของเราในอนาคต
ความมั่นคงในการทำงาน
พนักงานประจำ -ความมั่นคงของพนักงานประจำอยู่ที่การได้รับเงินเดือนตรงเวลาทุกเดือน โดยไม่ต้องกังวลว่ารายได้จะน้อยลง หากผลประกอบการของบริษัทไม่ดี
ธุรกิจส่วนตัว -คนที่ทำงานส่วนตัวต้องบริหารความเสี่ยงด้วยตัวเอง ซึ่งแตกต่างจากการทำงานประจำ เช่น ต้องมาคอยดูว่าเดือนนี้เราจะได้กำไร หรือขาดทุนเท่าไร
เพื่อนร่วมงานที่ดี
พนักงานประจำ -เมื่อเดินเข้ามาในออฟฟิศ ไม่เพียงแต่จะได้พบกับ เพื่อนร่วมงาน แผนกเดียวกันเท่านั้น แต่เรายังจะได้พบกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ด้วย เราจะได้พบกับมิตรภาพที่ดีจากเพื่อนร่วมงาน และผู้ร่วมแก้ปัญหาในการทำงานที่หลากหลาย
ธุรกิจส่วนตัว -การทำงานเพียงคนเดียวที่บ้าน จะทำให้เรารู้สึกค่อนข้างเหงา อีกทั้งเราต้องเป็นคน ๆ เดียวที่ต้องหาคำตอบให้กับปัญหาในการทำงาน ซึ่งคำตอบที่ได้อาจจะยังไม่หลากหลาย หรือเป็นแนวทางที่ดีเท่าที่ควร
พบเจอกับความหลากหลาย
พนักงานประจำ -การได้มาทำงานในออฟฟิศ จะทำให้เราได้เจอกับงานที่ท้าทาย เพื่อนร่วมงานที่ทำงานเก่ง จึงทำให้เราสามารถพัฒนาทักษะ และความสามารถในการทำงาน ให้มีมากขึ้น เพราะเราสามารถขอคำปรึกษาจากเขาได้ทันที
ธุรกิจส่วนตัว -การทำงานอยู่ที่บ้านกับเพื่อนร่วมงานจำนวนไม่มาก จะทำให้ความคิดสร้างสรรค์ของเราไม่ได้พัฒนามากเท่าไร เพราะเราจะเจอแต่ปัญหาเดิม ๆ หรือเพื่อนร่วมงานคนเดิม ๆ ซึ่งคำปรึกษาที่เราจะได้รับ ก็ไม่ต่างจากความคิดของเราเท่าไรนัก
การพัฒนา ศักยภาพในการทำงาน
พนักงานประจำ -โอกาสที่เราจะได้พัฒนาความสามารถในการทำงานมีมากขึ้น เราจะได้พบเจอคนที่มีประสบการณ์ในการทำงานที่สูงกว่าเรา และสามารถให้คำปรึกษาเราได้ ข้อเสนอแนะที่แตกต่างกัน ทำให้เราสามารถนำมาปรับใช้กับงาน ทำให้เราเป็นคนทำงานที่เก่งขึ้น
ธุรกิจส่วนตัว -เราต้องพึ่งพาความสามารถในการทำงานของเราเอง ช่องทางในการพัฒนาความสามารถอาจจะแคบกว่าการทำงานในออฟฟิศ ศักยภาพในการทำงานของเราก็อาจจะพัฒนาได้ไม่เร็วเท่าที่ควร
การค้นหาเป้าหมายในชีวิต
พนักงานประจำ -คงไม่มีใครทำงานออฟฟิศไปตลอดชีวิต ดังนั้น เราต้องเร่งค้นหาตัวเองให้เจอ เราอยากทำงานอะไร วางแผนการทำงานไว้ว่าอย่างไรบ้าง เช่น อยากเป็นผู้จัดการเมื่ออายุเท่าไร เราสามารถทำอย่างค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปได้ ค่อยเก็บสะสมประสบการณ์ไปเรื่อย ๆ
ธุรกิจส่วนตัว -เราต้องเริ่มคิดและเริ่มวางแผนว่าเราอยากจะทำงานอะไร อีกทั้ง เรายังต้องเลือกที่จะเสี่ยงด้วยตัวเองก่อน การเป็นเจ้านายตัวเองอาจจะดีกว่า แต่เราก็ต้องบอกตัวเองให้ยอมรับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นให้เร็วขึ้นด้วย เพราะเราคือผู้ที่จัดการชีวิตและธุรกิจของเราเอง
ความมีอิสระในการทำงาน
ธุรกิจส่วนตัว -เรามีอิสระในการตัดสินใจอย่างเต็มที่ ตราบเท่าที่เราพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว เราจะสั่งซื้ออะไร หรือเลือกใครเข้ามาทำงาน ก็ไม่ต้องรอคอยการตัดสินใจจากใคร เรามีอำนาจในการตัดสินใจอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลว่าเรื่องจะผ่านหรือไม่ผ่าน จะมีใครเห็นชอบด้วยหรือไม่
การตัดสินใจว่าจะเลือกทำงานอะไร? ระหว่างพนักงานประจำ กับ การทำธุรกิจส่วนตัว ขึ้นอยู่ตัวเราเองแล้วว่าชอบทำงานลักษณะไหน พิจารณาข้อดีและข้อเสียของงานแต่ละประเภท แล้วบอกตัวเองให้ได้ว่าข้อดีของงานประจำ หรือความมีอิสระของการทำธุรกิจส่วนตัว ที่ทำให้เราอยากทำงาน แล้วตัดสินใจเลือกด้วยความมั่นใจ
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
