About News ข้อมูลเชิงลึก ผลสำรวจจาก Jobsdb เผยว่า ผู้สมัครสายเทคโนโลยีในเอเชียยังคงมั่นใจในโอกาสหางานใหม่ แม้ตลาด Tech มีสัญญาณการชะลอตัว
ผลสำรวจจาก Jobsdb เผยว่า ผู้สมัครสายเทคโนโลยีในเอเชียยังคงมั่นใจในโอกาสหางานใหม่ แม้ตลาด Tech มีสัญญาณการชะลอตัว

ผลสำรวจจาก Jobsdb เผยว่า ผู้สมัครสายเทคโนโลยีในเอเชียยังคงมั่นใจในโอกาสหางานใหม่ แม้ตลาด Tech มีสัญญาณการชะลอตัว

  • 71% ของผู้สมัครสาย Tech ในเอเชียเชื่อว่าพวกเขามีอำนาจการต่อรองสูง อ้างอิงตามผลสำรวจจาก Jobstreet (จ๊อบสตรีท) และ Jobsdb (จ๊อบส์ดีบี) ภายใต้กลุ่มบริษัท SEEK (ซีค) ที่ได้จัดทำร่วมกับ Boston Consulting Group (บริษัท เดอะ บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป จำกัด) และ The Network (เดอะ เน็ตเวิร์ค)

  • ประกาศงานด้านเทคโนโลยีในภูมิภาคลดลง 8% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ยังคงสูงกว่าช่วงก่อนการเกิดการระบาดถึง 42% ตามข้อมูลของ SEEK

กรุงเทพฯ (9 พฤษภาคม 2566) – SEEK (ซีค) บริษัทแม่ของแพลตฟอร์มหางานออนไลน์ชั้นนำของเอเชียอย่าง Jobstreet (จ๊อบสตรีท) และ Jobsdb (จ๊อบส์ดีบี) เปิดเผยข้อมูลจากรายงานผลสำรวจใหม่ล่าสุดในหัวข้อ "สิ่งที่ผู้สมัครสาย Tech อยากให้ผู้ประกอบการรู้: อนาคตแห่งการจ้างงานและการสรรหาที่เปลี่ยนแปลงไป (What Tech Jobseekers Wish Employers Knew: Unlocking the Future of Recruitment)” พบว่าผู้สมัครสายเทคโนโลยีในเอเชียยังคงมั่นใจในโอกาสหางานของพวกเขา โดยวัดจากที่ผู้สมัครได้รับข้อเสนองานหลายครั้งต่อปีและรู้ว่าตัวเองมีอำนาจการต่อรองที่แข็งแกร่ง แม้ว่าตลาดแรงงานด้านเทคโนโลยีในภูมิภาคเริ่มมีสัญญาณของการชะลอตัว สะท้อนจากจำนวนโฆษณาประกาศรับสมัครตำแหน่งงานด้านเทคโนโลยีลดลง 8% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2566

ผลสำรวจดังกล่าวนี้ จัดทำโดย Boston Consulting Group (BCG) (บริษัท เดอะ บอสตัน คอนซัลติ้ง กรุ๊ป จำกัด) และ The Network (เดอะ เน็ตเวิร์ค) พันธมิตรระดับโลกของเว็บไซต์หางานที่ Jobstreet (จ๊อบสตรีท) และ Jobsdb (จ๊อบส์ดีบี) ภายใต้กลุ่มบริษัท SEEK (ซีค) ได้จัดทำร่วมกัน พบว่า 71% ของกลุ่มผู้สมัครสายเทคโนโลยีในภูมิภาคมีความรู้สึกว่าพวกเขามีอำนาจในการต่อรองสูง โดยเกือบครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม (46%) ได้รับการติดต่อเรื่องตำแหน่งงานว่างใหม่ ๆ ในทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน ทำให้พวกเขาเป็นกลุ่มแรงงานทักษะที่เป็นที่ต้องการอย่างมาก

Peter Bithos (ปีเตอร์ บิโธส) ประธานกรรมการบริหาร SEEK Asia กล่าวว่า

“เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมาอัตราการจ้างงานกลุ่มผู้สมัครสายเทคโนโลยีได้ทะยานขึ้นไปสู่จุดสูงสุดอย่างรวดเร็ว จึงไม่น่าแปลกใจที่ปีนี้เราจะเห็นความต้องการผู้มีความสามารถด้านเทคโนโลยีลดลงหากเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ทั้งนี้การประกาศรับสมัครตำแหน่งงานสายเทคโนโลยีบนแพลตฟอร์มของเรายังคงสูงกว่าระดับก่อนการเกิดการระบาดของโควิดถึง 42% ซึ่งเป็นตัวชี้วัดว่าความต้องการผู้สมัครสาย Tech ยังคงสูงอยู่ แม้ว่าการจ้างงานด้านเทคโนโลยีจะมีการชะลอตัวลงก็ตาม”

“บริษัทเทคโนโลยีแบบดั้งเดิมหลายแห่งกำลังปรับลดขนาดลงหลังจากมีการจ้างงานมากเกินไปในช่วงที่มีการระบาดของโควิดและยังคงลดอัตราการจ้างงานลง เนื่องจากหลายธุรกิจต้องเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ความต้องการคนเก่งด้านเทคโนโลยีจะยังคงอยู่ต่อไปทั้งนี้ สภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) คาดการณ์ว่าภายในอีก 5 ปี ข้างหน้า งานสายเทคโนโลยีจะเพิ่มขึ้น 150 ล้านตำแหน่ง และภายในปี 2573 งาน 77% จะต้องใช้ทักษะด้านดิจิทัล อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันภาคธุรกิจยังประสบปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี เห็นได้ว่ามีเพียงแค่หนึ่งในสาม (33%) ของงานด้านเทคโนโลยีทั่วโลก ที่พนักงานมีทักษะด้านดิจิทัลที่จำเป็น

ข้อมูลจากแพลตฟอร์มของ SEEK แสดงให้เห็นว่าจำนวนใบสมัครงานโดยเฉลี่ยต่อการประกาศรับสมัครงานด้านเทคโนโลยีในเอเชียได้เพิ่มขึ้นกว่า 40% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครสายเทคโนโลยีที่ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างงานกำลังมองหางานใหม่อยู่ หรือพวกเขาคาดหวังว่าจะมีโอกาสหางานอื่นที่ดีกว่า

ดังนั้นการเข้าใจความต้องการของกลุ่มผู้สมัครสายเทคโนโลยี จึงเป็นกุญแจสำคัญสำหรับบริษัทที่ต้องการดึงดูดคนเก่งหน้าใหม่หรือรักษาพนักงานที่มีอยู่

จากผลสำรวจ "สิ่งที่ผู้สมัครสาย Tech อยากให้ผู้ประกอบการรู้: อนาคตแห่งการจ้างงานและการสรรหาที่เปลี่ยนแปลงไป" พบว่าแรงจูงใจสามอันดับแรกที่ทำให้ผู้ที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีต้องการเปลี่ยนงาน คือการมองหางานใหม่ที่ตำแหน่งน่าสนใจกว่าหรือตำแหน่งงานที่สูงขึ้นกว่าเดิม (55%), งานที่ทำอยู่ปัจจุบันมีโอกาสในการเติบโตน้อย (31%) และไม่พอใจกับเงินเดือนและสวัสดิการในตำแหน่งงานปัจจุบัน (26%)

ผู้สมัครที่มีทักษะด้านเทคโนโลยียังมีความต้องการงานที่มั่นคงและมีความสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว

โดย 68% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่าสิ่งนี้เป็นเส้นทางอาชีพในอุดมคติ เพราะพวกเขาสามารถใช้เวลากับครอบครัว เพื่อน และงานอดิเรกได้ ยิ่งไปกว่านั้น มีเพียง 18% เท่านั้นที่เต็มใจที่จะกลับไปทำงานเต็มเวลาที่ออฟฟิศ ในขณะที่ 64% ชอบการทำงานรูปแบบไฮบริด

คุณดวงพร พรหมอ่อน กรรมการผู้จัดการ Jobsdb Thailand (จ๊อบส์ ดีบี ประเทศไทย) กล่าวว่า

“สำหรับประเทศไทย ผู้ประกอบการไทยสามารถดึงดูดผู้สมัครกลุ่ม Tech Talent ที่มีความสามารถด้วยการทำความเข้าใจถึงความต้องการและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผู้สมัคร ไม่ว่าจะเป็นค่าตอบแทน โบนัส และสวัสดิการ รวมถึงการพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ เช่น การให้ความสำคัญกับ work-life balance การทำงานที่มีความยืดหยุ่น ตลอดจนคำนึงถึงประสบการณ์ที่ผู้สมัครจะได้รับ โดยเริ่มตั้งแต่ในช่วงของกระบวนการสรรหา ด้วยเหตุนี้ Jobsdb ในฐานะ “พันธมิตรด้านการหางานที่ดีที่สุด” จึงมุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนผู้ประกอบการที่กำลังมองหา Tech Talent และผู้สมัครงานที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้ได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุด โดยเราได้ทำการสำรวจและศึกษาข้อมูลเชิงลึกที่ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเชื่อมโยงกับตลาดแรงงานในปัจจุบันได้อย่างใกล้ชิด ตลอดจนสามารถนำข้อมูลเชิงลึกต่าง ๆ เหล่านี้ไปใช้ได้จริง”

คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการ

65% ของผู้สมัครสายเทคโนโลยีที่ตอบแบบสอบถามมองว่า การสรรหาที่ราบรื่นและทันท่วงทีเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้ผู้ประกอบการโดดเด่น และเกือบครึ่ง (47%) จะปฏิเสธข้อเสนอหากพวกเขาพบกับประสบการณ์เชิงลบ แม้ข้อเสนอจะน่าสนใจก็ตาม

รายงานนี้แนะนำให้ผู้ประกอบการระบุช่วงเงินเดือนและคำบรรยายงานที่ชัดเจน รวมถึงเสนอสัมภาษณ์กับหัวหน้างานที่อาจจะได้ร่วมงานในอนาคต และเปิดกว้างสำหรับการเจรจาเพิ่มเติมเกี่ยวกับโบนัสหรือสวัสดิการต่าง ๆ

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงาน สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่

ติดต่อเรา

ติดต่อกับสมาชิกจากทีมสื่อและนักลงทุนสัมพันธ์ของ SEEK