ข้ามไปที่เนื้อหา
Hiring Advice วิธีดึงดูดผู้สมัคร 4 เคล็ดลับสรรหาเด็กจบใหม่สาย STEM เข้าร่วมงาน
4 เคล็ดลับสรรหาเด็กจบใหม่สาย STEM เข้าร่วมงาน

4 เคล็ดลับสรรหาเด็กจบใหม่สาย STEM เข้าร่วมงาน

          ปัญหาการขาดแคลนแรงงานยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของหลาย ๆ องค์กร รวมไปถึงการขาดแคลนแรงงานสาย STEM (Science Technology Engineering Mathematics) ซึ่งเป็นกลุ่มอาชีพที่มีการเปลี่ยนผ่านด้านเทคโนโลยีสูงกว่าอาชีพอื่น และเป็นงานทีจำเป็นต้องใช้ความรู้เฉพาะ ข้อมูลจาก jobsDB ระบุว่าในปีที่ผ่านมาบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการผลิต และไอที มีการลงประกาศงานมากที่สุดติดอันดับ 1 ใน 5 ในขณะเดียวกับข้อมูลจาก jobsDB ยังระบุอีกว่า ธุรกิจยานยนต์ ธุรกิจการผลิตทั่วไป และธุรกิจไอที เป็นธุรกิจที่มีคนหางานให้ความสนใจสมัครงานติดอันดับ 1 ใน 5 เช่นกัน

เมื่อมีคนหางานจำนวนมาก และมีบริษัทที่ต้องการคนสายนี้มากเช่นกัน ทำให้เกิดการแข่งขันระหว่างคนหางานและผู้ประกอบการ วันนี้ jobsDB ขอแนะนำเคล็ดลับในการดึงคนหางานสาย STEM เข้ามาร่วมงาน รวมไปถึงวิธีการเก็บรักษาคนคุณภาพนี้ไว้ให้อยู่กับองค์กรของคุณไปนาน ๆ

  1. จัดทำความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา เพื่อมอบทุนวิจัย ⁠ ⁠หากองค์กรของคุณต้องการเด็กจบใหม่เข้าไปร่วมงาน  แนะนำให้คุณมองหาสถาบันการศึกษา หรือมหาวิทยาลัยที่สอนหลักสูตร หรือมีคณะที่สอดคล้องกับความต้องการขององค์กรของคุณ จากนั้นเข้าไปจัดทำความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัย อาจเป็นในแง่ของทุนวิจัยที่เป็นตัวเงิน หรือทุนวิจัยด้านของการสนับสนุนอุปกรณ์ บุคลากร หรือโอกาสต่าง ๆ เมื่อเด็กนักศึกษาเรียนจบก็จะมีโอกาสร่วมงานกับองค์กรของคุณ ⁠ ⁠ในแง่ของความร่วมมือระหว่างสถาบัน บริษัทควรส่งทีมอบรม ทีมผู้เชี่ยวชาญเข้าไปถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์การทำงานจนประสบความสำเร็จ เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ทำความรู้จัก พูดคุย ซักถามกับคนทำงานในสายที่ตนเองกำลังศึกษาอยู่ เพื่อให้เห็นภาพการทำงานจริงก่อนจะเรียนจบออกไป หรือจัดอบรมทักษะแรงงานพร้อมมอบใบประกาศนียบัตรให้ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการหางานในอนาคต ⁠ ⁠ยกตัวอย่างเช่นบริษัทของคุณทำธุรกิจด้านไอที มีแผนจะเปิดตัวตัวซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ใหม่ ควรส่งทีมเข้าไปให้ความรู้กับนักศึกษา กำหนดโจทย์ให้นักศึกษาร่วมกันออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อให้นักศึกษาได้นำความรู้ที่เรียนมา มาประยุกต์ใช้กับงานจริงก่อนเรียนจบ หรือหากบริษัทของคุณทำธุรกิจด้านวิศวกรรม กระบวนการผลิตต่าง ๆ และพบปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน อาจนำปัญหาดังกล่าวไปเป็นโจทย์ เพื่อให้นักศึกษาคิดค้น และทำวิจัยเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งจะทำให้นักศึกษาเกิดความสนใจ และเห็นภาพว่าทักษะความรู้ที่เรียนมาไปประยุกต์ใช้กับงานจริงได้อย่างไร หากนักศึกษาคนไหนสามารถทำได้ก็จะมีโอกาสได้เข้าทำงานกับองค์กรของคุณ โดยที่ไม่ต้องมองหางานหลังเรียนจบ ⁠

  2. ให้โอกาสในการพัฒนาตัวเอง ดูงานต่างประเทศ ⁠ ⁠งานสาย “STEM” ส่วนใหญ่จะเป็นอาชีพที่ใช้ความรู้เฉพาะทางสูง ไม่ว่าจะเป็นหมอ พยาบาล วิศวกร นักวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นอาชีพมีการเปลี่ยนแปลงทางความรู้ ตามเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังเป็นคน Gen Y ที่ต้องการการทำงานที่เห็นผลเร็ว และชอบแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ ในการทำงาน ดังนั้นหากผู้ประกอบการต้องการคนสายนี้เข้าทำงาน ควรดึงดูดคนหางานด้วยโอกาสในการพัฒนาตัวเอง สนับสนุนให้พนักงานเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ให้โอกาสในการศึกษาดูงานนอกเหนือไปจากสวัสดิการพื้นฐานที่บริษัทให้ ซึ่งอาจระบุในประกาศรับสมัครงาน หรือสัญญาจ้างงานที่ชัดเจน ⁠ ⁠ยกตัวอย่างเช่นหากทำงานในตำแหน่งนี้ครบ 2 ปี จะต้องเดินทางไปดูงานที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทในต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้คนกลุ่มนี้มองเห็นโอกาสในการเปิดโลกทรรศน์ใหม่ ๆ หรือการส่งไปดูงานในประเทศที่เป็นผู้นำเทคโนโลยีด้านนั้น ๆ ให้เห็นถึงเครื่องมือ ซอฟต์แวร์ หรือกระบวนการผลิตที่ดี ที่ทันสมัย แล้วให้นำกลับมาพัฒนาองค์กร ก่อให้เกิดกระบวนการ วิธีใหม่ ที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ⁠

  3. เปิดโอกาสให้มีการหมุนเวียนเปลี่ยนงานภายในองค์กร ⁠ ⁠คนทำงานรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่ชอบอยู่กับที่ ชอบการทำงานที่หลากหลาย ดังนั้นการเปิดโอกาสให้มีการหมุนเวียนเปลี่ยนงาน (Job Rotation) ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากจะทำให้พนักงานที่ทำงานในตำแหน่งเดิมมาซักระยะหนึ่ง มีโอกาสได้ทำงานในตำแหน่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสายงาน ทำให้พนักงานมีทักษะ ความรู้ที่รอบด้านมากขึ้น มองเห็นปัญหา และเรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาในหน้าที่อื่น มองเห็นการทำงานที่เกี่ยวเนื่องกัน ซึ่งจะช่วยให้เพิ่มทักษะในการทำงาน อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสการเติบโตในหน้าที่การงาน ⁠ ⁠ในด้านของงานสายการผลิต วิศวกร Job Rotation จะช่วยสร้างการเรียนรู้แบบ 360 องศา ทำให้พนักงานมีทักษะและมุมมองในการบริหารจัดการใหม่ ๆ ก่อให้เกิดความรู้ความสามารถเฉพาะทาง หรือที่เราเรียกว่า ผู้เชี่ยวชาญ (Specialist) ซึ่งจำเป็นมากกับงานสายนี้ ⁠

  4. ให้เสรีภาพทางความคิด เปิดโอกาสแสดงความคิดเห็น ⁠ ⁠การให้เสรีภาพในการทำงานนั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก แต่เป็นเรื่องที่คนทำงานกลุ่ม Gen Y ให้ความสำคัญมากเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเสรีภาพในการใช้ชีวิตในบริษัท อาทิห้ามใช้ Social media หรือโปรแกรมสนทนาระหว่างการทำงาน บล๊อคอินเทอร์เน็ตภายนอก สิ่งเหล่านี้อาจเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้พนักงานลาออกจากบริษัทของคุณ

นอกจากนี้การให้เสรีภาพทางความคิดด้านการทำงานก็มีความสำคัญมากเช่นการ คนทำงานรุ่นใหม่ไม่ชอบให้ใครมาสั่งการ ตีกรอบทางความคิด หรือจำกัดความคิดในแบบเดิม ๆ ยกตัวอย่างเช่น บริษัทมอบหมายโปรเจคใหม่ให้พนักงาน ก็ควรเปิดโอกาสให้พนักงานไปคิดหาวิธีการทำงานที่เหมาะสม เปิดโอกาสให้เขาได้ใช้ความรู้ใหม่ที่เรียนมา มาคิด ประยุกต์ใช้ และพัฒนาการทำงานที่มีประสิทธิ นอกเหนือไปจากการสั่งให้พนักงาน “ต้องทำงาน” ตามรูปแบบเดิม ๆ ที่บริษัทเคยใช้มา

สมัครรับคำแนะนำเกี่ยวกับการจ้างงาน

คุณสามารถยกเลิกการติดตามข่าวสารผ่านช่องทางอีเมลได้ตลอดเวลา โปรดรู้ไว้ว่าเมื่อกด 'ติดตามข่าวสาร' คุณได้ยอมรับเงื่อนไข คำชี้แจงสิทธิ์ส่วนบุคคลของ SEEK