10 สิ่งที่คนทำงานยุคใหม่อยากบอกผู้ประกอบการ
การตื่นเช้าออกมาทำงานก่อนใคร การก้มหน้านั่งทำงานเงียบ ๆ ตั้งแต่เช้าจนค่ำ การออกมาเฮฮากับเพื่อนร่วมงานในห้องอาหารตอนพัก ไม่ใช่ว่าคนทำงานอย่างเราจะมีความสุขกับการทำงานเสมอไป บางครั้งเราก็มีอะไรมากมายอยากบอกเจ้านาย แต่ด้วยงานกองโตที่อยู่ตรงหน้าทำให้เราไม่มีโอกาสเงยหน้าขึ้นมาพูดคุยกับใคร วันนี้ใกล้จะหมดปีแล้ว และนี่คือสิ่งที่เราอยากบอกกับ… “นายจ้างที่เรารัก”
มาตรงเวลากลับตรงเวลา ไม่ใช่ว่าเราไม่ขยัน การที่เราต้องตื่นแต่เช้ามาให้ทันเวลางานเข้า หรือกลับบ้านตามเวลาเลิกงาน ไม่ใช่ว่าเราไม่ขยัน แต่เราเป็นคนที่สามารถจัดการกับงานเป็น เรามี Agenda ที่ชัดเจนตั้งแต่ก่อนถึงที่ทำงานว่าเราจะทำงานอะไรก่อนหรือหลัง และหากมีงานเพิ่มเข้ามาเราจะแทรกได้ในเวลาไหนบ้าง นี่เป็นเหตุผลที่ทำงานเราทำงานเสร็จในเวลางาน
เลิกบล๊อคอินเตอร์เน็ตเราเถอะ หมดยุคของการบล๊อคการเข้าถึงอินเตอร์เน็ตกันแล้ว ยังมีหลาย ๆ องค์กรปิดกั้นการทำงานของพนักงานด้วยการจำกัดการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต บางครั้งเราก็อยากใช้อินเตอร์เน็ตในการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม หาไอเดียใหม่ในการทำงาน ดูข้อมูลคู่แข่ง ซึ่งมันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเราได้ อย่ามองว่าโซเชียลมีเดีย โปรแกรมแชตต่าง ๆ จะทำให้เราไม่สนใจงานที่เราทำ เราเชื่อว่าเรามีความรับผิดชอบมากพอที่ถึงแม้จะใช้อินเตอร์เน็ตนอกเหนือจากเรื่องงาน แต่เราก็สามารถจัดการงานในหน้าที่เราให้เสร็จได้
เปลี่ยนจากคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเป็นโน้ตบุ๊กให้เราหน่อย การนั่งทำงานอยู่กับที่เป็นเวลานาน บางครั้งไม่ช่วยทำให้เราคิดงานออก ในองค์กรธุรกิจใหญ่ ๆ มักจะมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คให้แก่พนักงาน ให้สามารถยกไปนั่งทำงานตามมุมต่าง ๆ ของออฟฟิศได้ ซึ่งนอกจากเป็นการให้เสรีภาพในการทำงานแล้ว ยังทำให้พนักงานรู้สึกผ่อนคลาย มีโอกาสได้นั่งทำงาน รู้จัก-พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานแผนกอื่น ก่อให้เกิดไอเดียใหม่ในการทำงาน โดยไม่จำกัดแค่การนั่งทำงานอยู่กับที่ด้วยคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านสาย LAN
อยากให้เราพูด ช่วยฟังเราด้วย เจ้านายชอบสอนเราว่า “ผู้ฟังที่ดีควรเป็นอย่างไร” เจ้านายชอบบอกเราว่า “มีอะไรให้เดินเข้ามาคุย” เมื่อคุณอยากให้เราพูด ให้เราฟัง คุณก็ควรเปิดใจรับฟังเรา พร้อมกับสีหน้าท่าทางที่เป็นมิตรด้วย ไม่บ่อยนักที่เราจะมีเวลาตรงกัน เดินเข้าไปคุยกัน ดังนั้นหากต้องการให้เราพูด ช่วยฟังความเห็น และแนวทางของเราก่อนจะตัดบท หรือต่อว่าเรา คุณมีประสบการณ์มากกว่าก็จริง แต่คุณควรเปิดรับฟังความคิด และไอเดียใหม่ ๆ จากลูกน้องของคุณด้วย เพื่อที่จะได้ร่วมมือกันคิดและสร้างสรรค์ผลงานใหม่ให้เกิดขึ้นกับองค์กร
บางทีเราก็อยากทำงานหน้าที่อื่นบ้าง ในหลายองค์กรธุรกิจ การให้พนักงานนั่งทำงานหน้าที่เดิม ๆ ก็ก่อให้เกิดความเบื่อหน่ายได้ หากเป็นไปได้ เราอยากให้องค์กรทำ Job Rotation บ้าง เราอยากเรียนรู้งานในหน้าที่อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานที่เราทำ เราอยากนำความรู้ ความสามารถที่เรามีไปใช้เพิ่มประสิทธิการทำงานในหน้าที่อื่น ๆ บ้าง
เราอยากลาหยุดแบบไม่มีอะไรกวนใจ บ่อยครั้งที่เราตัดสินใจลาพักร้อน ลากิจ แล้วมักจะได้รับโทรศัพท์ หรือข้อความ อีเมล์ตามเรื่องงานตั้งแต่เช้าจนค่ำ เราเชื่อว่าก่อนถึงวันลาเราเคลียร์งานทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราเชื่อว่าเวลาที่เรานอนป่วยอยู่บนเตียง เพื่อนร่วมงานคนอื่นมีความสามารถมากพอที่จะทำงานแทนเรา ดังนั้นหากเราตัดสินใจลาหยุด ขอให้เราได้หยุดจริง ๆ เถอะ
เชื่อมั่นในตัวเรา มีเจ้านายจำนวนไม่น้อยที่ชอบตีตนไปก่อนไข้ หวาดระแวง เวลามอบหมายงานให้พนักงานทำ ดังนั้นหากคุณมอบหมายงานให้เราทำแล้ว แปลว่าคุณต้องมีความมั่นใจในระดับหนึ่ง ให้โอกาสในการแสดงความสามารถ ให้เวลาเราคิดและนำเสนอไอเดียก่อน อย่างเพิ่งตีกรอบความคิดให้เรา เมื่อไหร่ที่เราต้องการความช่วยเหลือ หรือมีปัญหาระหว่างการทำงาน เราสัญญาว่าเราจะรีบเข้าไปปรึกษาคุณ
พูดกับเราดี ๆ เหมือนตอนเราทำผลงานให้ พนักงานทุกคนมีทั้งข้อดีและข้อเสียในตัวเอง เราขอบคุณทุกคำชื่นชมที่เจ้านายมอบให้ แต่เมื่อครั้นเราทำผิดพลาดมา ช่วยใช้เหตุผลในการพูดคุยกับเรา อธิบายให้เราฟังด้วยอารมณ์ที่นิ่ง เราพร้อมรับฟัง พร้อมขอโทษและแก้ไข อย่าเป็นแม่พระกับเราแค่ตอนเราทำผลงานให้เลย
ช่วยเราแก้ปัญหาที หลายครั้งที่การทำงานมักไม่ราบรื่นอย่างที่เราคิด และในหลายครั้งที่พนักงานเข้าไปขอคำปรึกษาจากหัวหน้างาน แล้วต้องพบกับคำดูถูกมากมาย อีกทั้งยังไม่ได้คำตอบและแนวทางแก้ไขกลับมา ขอให้คุณรู้ไว้เถอะว่าคุณยังเป็นหัวหน้างานเรา เรายังเคารพและต้องการที่ปรึกษาดี ๆ อยู่ ช่วยรับฟังปัญหา เสนอวิธีการแก้ไขให้เราที ช่วยเป็นเกาะป้องกันเราจากผู้บริหารระดับสูง หรือลูกค้าชั้นเอกบ้าง มันจะทำให้เรารักคุณ และอยากทุ่มเทการทำงานให้กับคุณมากขึ้นด้วย
Work at Home บ้างก็ดี ในหลายตำแหน่ง หลายอาชีพ การทำงานไม่จำกัดแค่การนั่งอยู่ในออฟฟิศ ทุกวันนี้เราสามารถทำงานและแชร์งานผ่านระบบ Cloud Computing สามารถประชุมกับเพื่อนร่วมงานจากทั้งใน และต่างประเทศได้จากที่บ้านผ่านระบบ Video conference เราสามารถตอบอีเมล์และคุยกับเพื่อนร่วมงานได้จากทุกที่แม้จะนั่งธุระส่วนตัวอยู่ในห้องน้ำ หากเป็นไปได้ควรเปิดโอกาสให้เราสัมผัสประสบการณ์การทำงานจากที่บ้านบ้าง เราเชื่อว่าเราสามารถทำผลงานได้ไม่ต่างจากการมานั่งทำงานตรงหน้าหัวหน้าที่ออฟฟิศ
ทั้งหมดนี้อยากให้ผู้ประกอบการได้เข้าใจและปรับมุมมองใหม่ ว่าทุกวันนี้เราอยู่ในยุคของเสรีภาพในการทำงาน พนักงานแต่ละคนมีความคิดและความต้องการที่แตกต่างกันออกไป แต่ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร อยากให้ผู้ประกอบการช่วยมองที่ผลสำเร็จจากการทำงาน หรือผลงานที่ออกมามากกว่า ว่าสุดท้ายแล้วเขาสามารถทำงานได้ตาม KPI หรือ OKR ที่ตั้งไว้หรือไม่ อย่างไร