การต่อรองเงินเดือนสำหรับเด็กจบใหม่

การต่อรองเงินเดือนสำหรับเด็กจบใหม่
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 07 July, 2023
Share

เมื่อเข้าสู่โลกแห่งการทำงานใคร ๆ ก็คงหวังจะได้รับเงินเดือนสูง ๆ แต่สำหรับเด็กจบใหม่ที่รู้สึกว่าตัวเองอายุก็น้อยแถมยังขาดประสบการณ์นั้น แม้ใจหนึ่งจะอยาก ต่อรองเงินเดือน ให้ได้สูง แต่อีกใจหนึ่งก็อยากได้งานให้เร็วที่สุด ส่วนมากจึงมักมีความกลัวที่จะเป็นฝ่ายเรียกร้องเงินเดือนตามที่ต้องการ รวมไปถึงไม่มั่นใจว่าควรทำอย่างไรจึงจะเหมาะสม ในความเป็นจริงไม่ว่าคุณคิดจะต่อรองเงินเดือนหรือไม่ นี่มักจะเป็นหนึ่งในหัวข้อที่ถูกยกมาพูดคุยในห้องสัมภาษณ์อยู่แล้ว ดังนั้นการเตรียมข้อมูลและเตรียมตัวที่จะต้องถามหรือตอบคำถามเกี่ยวกับเงินเดือนบ้างนั้นย่อมเป็นเรื่องไม่เสียหลาย

1. ศึกษาบริษัทให้ดีก่อน

หากเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีนโยบายด้านเงินเดือนอย่างเป็นระบบอยู่แล้ว โอกาสในการต่อรองเงินเดือนนั้นมี แต่แทบจะไม่มีผลใด ๆ เนื่องจากบริษัทมีตัวเลขในใจสำหรับคุณอยู่แล้ว ยิ่งเป็นบริษัทใหญ่ก็ยิ่งมีผู้อยากสมัครเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากคุณไม่ได้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นเหนือใครเอามาก ๆ การที่คุณจะไม่ตอบรับกับเงินเดือนที่เสนอ บริษัทเหล่านี้ก็ยินดีมองหาผู้สมัครรายต่อไปทันที อย่างไรก็ตามคุณก็ยังควรศึกษาข้อมูลเรื่องเงินเดือนเกี่ยวกับบริษัทเอาไว้ สำหรับเป็นการประกอบการตัดสินใจเข้าสมัครและทำให้คุณสามารถตอบได้คร่าว ๆถึงเงินเดือนที่คุณต้องการเมื่อถูกตั้งคำถามในห้องสัมภาษณ์ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณเองมีความรู้ ความใส่ใจรายละเอียดของบริษัทเป็นอย่างดี

2. ตัวเลขเท่าไรจึงเหมาะสม

หากเป็นบริษัทที่สามารถต่อรองเงินเดือนได้จริง คำถามต่อไปคงหนีไม่พ้นว่า แล้วควรตั้งตัวเลขไปที่เท่าไรจึงเหมาะสม สำหรับเด็กจบใหม่ในยุคนี้นับเป็นเรื่องโชคดีที่คุณมีแหล่งข้อมูลชั้นเยี่ยมอย่างอินเตอร์เน็ตให้สามารถเข้าถึงข้อมูลมากมายได้ในเวลาอันสั้น ลองศึกษาบริษัทอื่นๆในแวดวงเดียวกับบริษัทที่คุณสมัครงาน เพื่อเปรียบเทียบอัตราเงินเดือนในตำแหน่งและประสบการณ์ที่ใกล้เคียง บางครั้งคุณอาจได้รับข้อมูลเหล่านี้จากกระดานสนทนา (ควรใช้วิจารณญาณมากเป็นพิเศษ) จากข่าว หรือแม้กระทั่งจากการลงประกาศหางาน หรือการติดต่อกับบริษัทจัดหางานก็เป็นอีกช่องทางที่ทำให้คุณได้ข้อมูลและอาจได้โอกาสในบริษัทอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกด้วย อย่าลืมอีกแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้อย่างรุ่นพี่ที่จบการศึกษาและเข้าทำงานไปก่อน หรือคนรู้จักอื่น ๆ ที่ทำงานอยู่ในบริษัทที่คุณหมายตา พยายามสร้างเครือข่ายคนรู้จักให้มากเข้าไว้เพื่อเพิ่มโอกาสให้ตัวเอง เมื่อได้ข้อมูลเพียงพอแล้ว ลองนำมาคำนวณให้เป็นเงินเดือนที่คุณต้องการ โดยอาจดูภาระค่าใช้จ่ายของตัวเองประกอบด้วย แต่อย่าตั้งตัวเลขจากสิ่งที่คุณอยากได้เพียงอย่างเดียว ควรอ้างอิงตัวเลขจากข้อมูลที่คุณหามาได้ เพื่อที่คุณจะสามารถชี้แจงที่มาที่ไปของเงินเดือนที่ต้องการได้อย่างเป็นเหตุเป็นผล

3. คุณสมบัติของคุณล่ะ เหมาะสมแล้วหรือยัง

เมื่อคุณรู้แล้วว่าตำแหน่งงานในลักษณะนี้สามารถเรียกเงินเดือนได้ถึงระดับไหน อย่าลืมหันกลับมาดูคุณสมบัติของตัวเองก่อน สำหรับเด็กจบใหม่แล้ว สิ่งที่ด้อยกว่าผู้สมัครงานอื่น ๆ อาจไม่ใช่ความรู้แต่เป็นเรื่องประสบการณ์ ดังนั้นคุณมีสิ่งอื่นมาทดแทนหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในภาษาอังกฤษรวมไปถึงภาษาที่สาม ประสบการณ์ร่วมงานหรือกิจกรรมขนาดใหญ่ระดับประเทศหรือระดับนานาชาติมีหรือไม่ การฝึกงานหรือการทำงานพิเศษใดในช่วงที่เรียน จะทำให้คุณสมบัติของคุณเหมาะสมกับตัวเลขเงินเดือนนั้นขึ้นมาบ้างหรือเปล่า หากคำตอบยังคงเป็นคำว่าไม่ คุณควรใช้เวลาเตรียมตัวเพิ่มอีกสักเล็กน้อยในการสั่งสมประสบการณ์ ความสามารถให้พร้อมก่อน สมัครงาน จริง หากคุณคิดว่าตัวเองอาจไม่สามารถประเมินตนเองได้อย่างแม่นยำ ลองปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ ญาติผู้ใหญ่ รุ่นพี่หรือบริษัทจัดหางานให้ช่วยประเมินจุดนี้แทนคุณ

4. ต่อรองอย่างไรจึงจะเหมาะสม

คำถามนี้เป็นคำถามโลกแตกยิ่งกว่าการหาตัวเลขเงินเดือนที่เหมาะสมเสียอีก การต่อรองกับคนแต่ละคนนั้นจะได้ผลหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยมากมาย หากคุณลองค้นข้อมูลจากหลายแหล่ง จะพบว่าเทคนิคการต่อรองนั้นมีร้อยแปด ที่สำคัญเทคนิคของแต่ละสำนักบางครั้งแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เช่น บางคนแนะนำให้เสนอเงินเดือนที่ต้องการออกไปก่อน ในขณะที่บางคนแนะนำให้รอฝั่งนายจ้างยื่นข้อเสนอก่อน บางคนให้ระบุเป็นช่วงเงินเดือน แต่บางคนให้ระบุเป็นตัวเลขที่เจาะจง ดังนั้นวิธีไหนล่ะที่เหมาะสมกับคุณ คำตอบจริง ๆ แล้ว คือไม่มีวิธีไหนที่ได้ผลทุกสถานการณ์ คุณควรจะศึกษาและเปิดใจเรียนรู้ให้มากที่สุด เพื่อที่ถึงเวลาของสถานการณ์จริง จะได้สามารถเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะกับจังหวะและโอกาสที่มีได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงคือ ไม่ควรรีบร้อนพูดคุยเรื่อง เงินเดือน ก่อนที่จะพูดคุยกันเรื่องคุณสมบัติของตัวคุณ แสดงให้เห็นถึงความสามารถของตัวคุณให้ผู้สัมภาษณ์ประทับใจเสียก่อน เพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จในการ ต่อรองเงินเดือน ให้มากขึ้นและเมื่อมีจังหวะได้พูดคุยเรื่องเงินเดือน คุณควรสามารถให้เหตุผลประกอบได้ว่าเหตุใดคุณจึงต้องการเงินเดือนเท่านี้ โดยเน้นไปที่คุณสมบัติและความสามารถในการพัฒนาตนเองที่คุณมี รวมไปถึงมาตรฐานเงินเดือนในแวดวงอุตสาหกรรมที่ใกล้เคียงกันตามที่ได้หาข้อมูลมา มิใช่อ้างอิงจากอัตราเงินเฟ้อหรือค่าครองชีพที่สูงขึ้น

5. อย่าลืมคำนึงถึงผลตอบแทนอื่น ๆ ด้วย

หลายต่อหลายครั้งที่ผู้สมัครงานยึดติดแต่ตัวเลขเงินเดือนเพียงอย่างเดียวจนลืมมองถึงผลตอบแทนและ สวัสดิการ อื่นที่บริษัทมอบให้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นค่าคอมมิชชั่น โบนัส เงินพิเศษ สวัสดิการค่ารักษาพยาบาล เงินช่วยเหลือต่าง ๆ รวมไปถึงโอกาสในการเรียนรู้พัฒนาตนเองและโอกาสความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน บางครั้งเงินเดือนที่น้อยกว่าอาจหมายถึงสวัสดิการที่สูงกว่ามากหรือประสบการณ์อันหาค่ามิได้ก็ได้ ดังนั้นคุณจึงควรสอบถามหรือค้นหาข้อมูลเหล่านี้ด้วย และพิจารณาชั่งน้ำหนักเลือกในสิ่งที่เข้ากันกับความต้องการของคุณมากกว่า

6. ข้อตกลงต้องมาเป็นลายลักษณ์อักษร

ไม่ว่าคุณจะตกลงกันอย่างดิบดีในห้องสัมภาษณ์อย่างไร อย่าลืมว่าทุกสิ่งจะยังไม่เป็นผลจนกว่าคุณจะได้เซ็นสัญญาจ้างงานที่มีรายละเอียดเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน ดังนั้นทุกครั้งก่อนเซ็นสัญญาหรือเอกสารใด ๆ ก็ตาม ควรอ่านรายละเอียดให้ดีว่าเนื้อหาเป็นไปตามที่คุณได้ตกลงกันเอาไว้หรือไม่ จะได้ไม่มีปัญหากันภายหลัง

ถึงแม้ว่าการต่อรองเงินเดือนจะฟังดูเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กจบใหม่ แต่ถ้าหากคุณมีการเตรียมตัวที่ดี ศึกษาหาข้อมูลมาอย่างเพียงพอและมีการซักซ้อมมาจนมีความมั่นใจในตัวเอง รับรองว่าคุณจะต้องทำได้ดีไม่แพ้ใครเมื่อเวลานั้นมาถึงแน่นอนค่ะ

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

นักศึกษาจบใหม่เรียกเงินเดือนเท่าไหร่ดี

ทำไมเด็กจบใหม่ Start เงินเดือนไม่เท่ากัน

More from this category: งานแรก

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่ามีผู้สมัครจำนวนเท่าไหร่ที่เตรียมเรซูเม่ที่หาข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมของตนโดยการสำรวจด้วยคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
เพียงคลิก 'สมัครสมาชิก' เพื่อยอมรับ คำชี้แจงสิทธิ์ส่วนบุคคลของ Jobsdb โดยคุณสามารถยกเลิกอีเมลเมื่อใดก็ได้
สงวนลิขสิทธิ์ 1998-2024 โดย บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด