ทำอย่างไรไม่ให้ ขี้เกียจในที่ทำงาน ?

ทำอย่างไรไม่ให้ ขี้เกียจในที่ทำงาน  ?
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 07 July, 2023
Share

เสียงนาฬิกาปลุก หรือเสียงโทรศัพท์ที่ตั้งปลุกดังลั่นหัวนอน กับภาพที่คุณสะลึมสะลือควานหาปุ่มหยุดเสียง แล้วก็ทิ้งตัวลงนอนต่ออีกครั้ง

แล้วคุณก็ต้องสะดุ้งตื่นอีกครั้งเพราะความตกใจกับเวลาที่หายไปจากความขี้เกียจในการไปทำงาน ความลุกลี้ลุกลนออกจากบ้าน เดินทางไปทำงานด้วยความกระวนกระวาย จบท้ายในช่วงเช้ากับการ เข้างานสาย ไปเกือบๆชั่วโมง

เริ่มต้นวันด้วยความไม่สดใสตั้งแต่ก่อนออกจากบ้าน สุดท้ายแล้วคุณก็กลับมานั่งเนือยที่โต๊ะทำงานคุณใหม่ ตามด้วยการทำงานแบบเซ็งๆความขี้เกียจในที่ทำงานยังคงลากยาวไปช่วงบ่ายด้วยการสัปงกที่โต๊ะทำงาน และที่ประหลาดคือเมื่อใกล้เลิกงาน คุณจะสดชื่นเหมือนได้ยาบำรุงเป็นอย่างดีพร้อมกลับบ้าน

ก่อนอื่น ถามตัวเองเสียก่อน คุณ ขี้เกียจทำงาน จริงๆหรือแค่เหนื่อยเกินไป

ความขี้เกียจในที่ทำงาน เริ่มเป็นปัญหาตั้งแต่เมื่อไหร่ ?

จริงๆแล้ว ความขี้เกียจในที่ทำงานทำให้คุณทำงานไม่เสร็จตามกำหนดด้วยใช่หรือเปล่า การทำงานให้เสร็จต้องล่าช้าไปเกินกว่าเวลาปกติเพียงเล็กน้อยก็ยังนับว่ายังพอรับได้อยู่ แต่ถ้าความขี้เกียจนั้นสร้างปัญหาในการทำงานของคุณต่อไปล่ะ ? การเลื่อนส่งงานทำให้กลายเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมไปเรื่อยๆ เมื่อคุณเลื่อนเดดไลน์ส่งงานไปครั้งหนึ่งแล้ว การประเมินผลงานของคุณหรือแม้กระทั่งการได้รับการเสนอชื่อเพื่อโปรโมตก็อาจมีผลด้วยทั้งนั้น เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้มีผลโดยตรงกับ ความเจริญก้าวหน้าในสายอาชีพการทำงาน

ยังมีวิธีการหยุดความขี้เกียจนี้ การทำให้ตัวเองกระปรี้กระเปร่า กระตุ้นตัวเองให้พร้อมเริ่มงานในทุกเช้า ลองใช้กลยุทธ์ทั้ง 7 แบบนี้ในการสู้กับความขี้เกียจและค้นหาแรงบันดาลใจในวันที่คุณขี้เกียจทำงานดูครับ

วิธีการหยุดความขี้เกียจในที่ทำงาน

1. ซื่อสัตย์กับตัวเอง

คุณต้องระบุปัญหาที่เกิดก่อนที่คุณจะแก้ไขปัญหานั้นได้ การบอกแค่เพียงคุณขี้เกียจในที่ทำงานนั้นไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา เลิกโทษอย่างอื่นแล้วยอมรับความจริงถึงสาเหตุที่ทำให้คุณขี้เกียจในการทำงานซึ่งมีแต่จะทำให้งานออกมาแย่หรือพลาดเดดไลน์ในการทำงานไป

ลองมองดูงานที่คุณเพิ่งทำผ่านไปไม่กี่วัน คุณได้โยนงานให้คนอื่นแบกอยู่หรือเปล่า คุณเป็นพนักงานในทีมแบบไหนกัน ? ลองประเมินพฤติกรรมในการทำงานของคุณ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณจะขี้เกียจทำงาน การประเมินด้วยตัวคุณเองเป็นโอกาสที่คุณจะได้เปลี่ยนพฤติกรรมและปรับปรุงผลงานของคุณเอง พฤติกรรมของคุณมีเพียงคุณเท่านั้นที่จะปรับปรุงและพัฒนามันได้

2.  ใช้ตัวช่วยวางแผนการทำงาน

เปลี่ยนความขี้เกียจในการทำงานแต่ละวันด้วยการใช้แพลนเนอร์เพื่อช่วยวางแผนการทำงาน การวางแผนและจัดลำดับความสำคัญในการทำงานแทนที่การทำงานแบบเฉพาะหน้านั้นมีความสำคัญมากที่สุดซึ่งต้องทำให้เกิดขึ้น การใช้แพลนเนอร์ช่วยให้คุณโฟกัสและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ลองตั้งเป้าหมายระยะสั้นและทำให้เสร็จตามแผนคุณจะรู้สึกเหมือนบรรลุเป้าหมายและมีแรงกระตุ้นในการทำงาน

ลองใช้แพลนเนอร์ในรูปแบบต่างๆ ทั้งแบบ bullet เพื่อเน้นความสำคัญ คุณสามารถสร้างรายการทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน โดยแพลนเนอร์นั้นไม่ควรจะซับซ้อนจนเกินไป มีเพียงลำดับรายการที่คุณต้องทำให้เสร็จและไม่ต้องลงงานที่ไม่สำคัญลงในนั้น

3. ตั้งเป้าหมายเป็นประจำ

การทำงานง่ายๆให้สำเร็จตามเป้านั้นจะเป็นเรื่องง่าย แต่อย่าลืมว่าชีวิตคุณก็ยังต้องการเป้าหมายในการพัฒนาด้วยเช่นกัน เป้าหมายดังกล่าวควรจะช่วยให้คุณเกิดการพัฒนาทักษะและการรับมือในสถานการณ์ต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น คุณอาจตั้งเป้าในการเลื่อนขั้น ได้รับการศึกษาที่สูงขึ้นหรือรู้จักเพื่อนร่วมงานให้ดียิ่งกว่าเดิม เป้าหมายดังกล่าวอาจกำหนดเป็นรายสัปดาห์ รายเดือน รายไตรมาสหรือรายปี พยายามรายงานผลการทำงานให้เป็นประจำสม่ำเสมอด้วย

เป้าหมายดังกล่าวจะช่วยให้คุณมีทิศทางในการทำงานใสมากยิ่งกว่าเดิม และช่วยขจัดความขี้เกียจในระหว่างวันทำงานอีกต่างหาก

4. พักเสียบ้าง

การพักไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณหายขี้เกียจแล้ว ยังช่วยลดความเครียดและการขาดเป้าหมายในการทำงานได้อีกด้วย ช่วยให้เติมเต็มไฟในการกลับมาทำงานใหม่อีกครั้ง การพักในระหว่างการทำงานยังช่วยไม่ให้เกิด สภาวะหมดไฟในการทำงาน (Burnout) ซึ่งจะก่อให้เกิดความขี้เกียจอีกด้วย

5. สร้างลักษณะนิสัยที่ดีนอกเหนือที่ทำงาน

ถ้าคุณสามารถสร้างรูปแบบการทำงานที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีนอกเหนือจากในที่ทำงานแล้ว คุณสามารถนำไปใช้ในที่ทำงานได้เช่นเดียวกัน คุณสามารถเลือกที่จะใช้เวลาทำอย่างอื่นที่สร้างสรรค์ดีกว่าเสียเวลากับการนั่งดูซีรีย์ที่บ้านเป็นชั่วโมงๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำกับข้าวหรือทำความสะอาดบ้านเพียงไม่กี่นาทีก่อนทำอย่างอื่น อย่าลืมเรื่องของการออกกำลังกายด้วย ซึ่งไม่ได้มีผลดีต่อสุขภาพกายคุณเท่านั้น แต่ยังส่งผลไปยังชีวิตการทำงานของคุณอีกด้วย การออกกำลังกายช่วยให้คุณสามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆได้และช่วยให้คุณรู้สึกมีแรงกระตุ้นและพยายามยิ่งกว่าเดิม การออกกำลังกายด้วยตารางการฝึกง่ายๆช่วยขจัดความขี้เกียจและได้รับแรงกระตุ้นดียิ่งขึ้น

6. จัดการปัญหาต่างๆที่แอบแฝงอยู่

ถ้าคุณพบว่าตัวเองยังขี้เกียจในที่ทำงาน แน่ใจหรือยังว่าไม่มีปัญหาอื่นๆซ่อนอยู่มีผลต่อคุณ สาเหตุที่คุณขี้เกียจอาจจะมาจากปัญหาอื่นๆก็เป็นไปได้ เช่น หากคุณรู้สึกหมดแรง คุณอาจต้องปรับการทานอาหาร หรือหากคุณนอนไม่หลับ อาจมีสาเหตุมาจากที่นอนหลับพักผ่อนที่ไม่โอเคก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นสาเหตุจากความเหนื่อยล้าอันเนื่องมาจากความไม่พึงพอใจในทีี่ทำงาน อาจเกิดจากงานที่ไม่เหมาะสมกับคุณก็เป็นไปได้ ลองหา งานใหม่จาก jobsDB ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะมีตัวเลือกงานและบริษัทให้เลือกหลากหลายตามความต้องการของแต่ละคนด้วยครับ เมื่อคุณได้งานที่ดี แรงบันดาลใจในการทำงานจะกลับมาเต็มเปี่ยมอีกครั้ง

7. ให้รางวัลตัวเอง

เมื่อคุณสามารถปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นได้แล้ว คุณก็ควรจะให้รางวัลตัวเองได้ด้วยกลยุทธ์เหล่านี้ สร้างระบบการให้รางวัลสำหรับคุณเอง ทำให้คุณมีแรงกระตุ้นอยู่เสมอ และทำให้เห็นว่าคุณเองก็สามารถมาได้ไกลมากแค่ไหนแล้ว เพียงเท่านี้คุณก็จะก้าวข้ามผ่านความขี้เกียจไปได้

#icanbebetter

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่ามีผู้สมัครจำนวนเท่าไหร่ที่เตรียมเรซูเม่ที่หาข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมของตนโดยการสำรวจด้วยคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
เพียงคลิก 'สมัครสมาชิก' เพื่อยอมรับ คำชี้แจงสิทธิ์ส่วนบุคคลของ Jobsdb โดยคุณสามารถยกเลิกอีเมลเมื่อใดก็ได้
สงวนลิขสิทธิ์ 1998-2024 โดย บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด