Incognito Mode ฟังก์ชันเพื่อความเป็นส่วนตัวของคนไอที

FacebookLineTwitterLinkedInEmailCopy LinkPrint

           ทุกวันนี้ ความเป็นส่วนตัวในโลกออนไลน์ยิ่งมีช่องว่างแคบลงทุกที ไหนจะเหล่าแฮกเกอร์ ไหนจะไวรัส Malware ไหนจะอาชญากรรมไซเบอร์ หนทางหนึ่งที่จะป้องกันบัญชีออนไลน์ของเรา รวมทั้งป้องกันการใช้งานคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือได้ก็คือ Incognito Mode ยิ่งเป็นคนทำงานสายไอทีด้วยแล้ว ฟังก์ชันเพื่อความเป็นส่วนตัวนี้ยิ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทราบไว้ เพื่อแก้ไขและแนะนำให้กับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในองค์กรได้

Incognito Mode ฟังก์ชันเพื่อความเป็นส่วนตัวของคนไอที

Incognito Mode มีประโยชน์อย่างไร

           Incognito Mode หรือโหมดไม่ระบุตัวตน บนโปรแกรมเปิดเว็บหรือเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ช่วยให้เรามีความเป็นส่วนตัวในการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือได้ แม้จะไม่ได้ช่วยป้องกันได้ทั้งหมด แต่ก็สามารถป้องกันไม่ให้เว็บเบราว์เซอร์บันทึกข้อมูล ประวัติการใช้งานเว็บไซต์ (History) การค้นหา (Search) คุกกี้ (Cookies) และข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ (Private data) ที่เราต้องกรอกระหว่างการใช้งานอินเทอร์เน็ต นั่นเอง

           โหมดไม่ระบุตัวตนยิ่งจะมีประโยชน์อย่างยิ่งหากออฟฟิศของคุณมีการแชร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ใช้ หรือเมื่อคุณต้องไปใช้คอมพิวเตอร์ในที่สาธารณะ เป็นต้น

 

ใช้งานโหมดไม่ระบุตัวตนในเบราว์เซอร์ ต่าง ๆ

           วิธีการตั้งค่าโหมดไม่ระบุตัวตนแต่ละเบราว์เซอร์ ก็จะมีความแตกต่างกัน และมีหน้าตาการใช้งานไม่เหมือนกัน มาดูกันเลยว่า มีขั้นตอนการตั้งค่าอย่างไรบ้าง

 

โปรแกรม Google Chrome

  • เริ่มจากดาวน์โหลดโปรแกรม Google Chrome มาไว้ในเครื่อง
  • ในการตั้งค่า โปรแกรม Google Chrome เริ่มต้นทำงานในโหมดไม่ระบุตัวตน ต้องเพิ่ม Command Line เข้าไปใน Shortcut
  • คลิกที่ Shortcut ที่ปกติเราใช้ในการเปิด Google Chrome แล้วเลือกเมนู Properties
  • ในช่อง Target ให้เพิ่ม incognito ลงไปในส่วนสุดท้าย โดยการเคาะเว้นวรรคหนึ่งที, 1 แดช และตามด้วยคำว่า incognito
  • คลิก OK เพื่อยืนยันการตั้งค่า เป็นอันเสร็จสิ้น

 

โปรแกรม Mozilla Firefox

  • เริ่มจากดาวน์โหลดโปรแกรม Mozilla Firefox มาไว้ในเครื่อง
  • คลิกที่ปุ่มแฮมเบอร์เกอร์ แล้วคลิกที่ ตัวเลือก (Options)
  • ไปที่แท็บความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย (Privacy & Security)  แล้วเลือกเมนูประวัติ (History)
  • เลือกใช้การตั้งค่าที่กำหนดเองสำหรับประวัติ (Use custom settings for history) และติ๊กตรงใช้โหมดการเรียกดูแบบส่วนตัวเสมอ (Always use private browsing mode)
  • รีสตาร์ทเว็บ เบราว์เซอร์ Firefox ใหม่ ก็ใช้งานได้แล้ว

 

โปรแกรม Safari

  • การตั้งค่าเบราว์เซอร์ Safari บน macOS ให้เริ่มต้นทำงานแบบ Private window
  • ให้ไปที่ Safari แล้วคลิก Preferences
  • ในแท็บ General ให้คลิกที่เมนู Safari opens with แล้วเลือก A new private window
  • ในการใช้งานครั้งถัดไป Safari ก็จะทำงานในโหมด Private windows เสมอ

 

           โหมดไม่ระบุตัวตน ฟังก์ชันเพื่อความเป็นส่วนตัวที่คนไอทีควรรู้ มีประโยชน์ในการทำงาน และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานได้ในระดับหนึ่ง ถึงเหล่าแฮกเกอร์จะยังไม่ลดละหาวิธีเจาะเข้าข้อมูล แต่ก็จะทำได้ยากขึ้น หากเราป้องกันเป็นอย่างดี สำหรับองค์กรไหนที่กำลังหาคนทำงานสายไอทีเข้าไปร่วมสร้างทีม สร้างผลงานที่โดดเด่นให้กับบริษัทของคุณ สามารถลงประกาศหาคนที่ใช่ได้ที่แอปพลิเคชัน JobsDB

ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android

JobsDB Mobile App

เลือกงานที่ใช่ ใช้ชีวิตที่ชอบ ด้วยการค้นหางานที่ง่ายและรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดการเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณอัปโหลด ดู และลบได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานแสนง่าย ด้วยระบบ AI ใหม่ ช่วยค้นหางานที่ตรงใจมากขึ้นถึง 6 เท่า​

มาทำความรู้จักกับ สายงานด้านไอทีกันเถอะ

10 ศัพท์คอมพิวเตอร์ ที่สายไอทีตัวจริงควรรู้

10 ทักษะไอที ที่นายจ้างต้องการมากที่สุด

Cyber Security คืออะไร ทำไมทุกองค์กรที่อยากก้าวสู่ยุคดิจิทัลจึงควรใส่ใจ

Malware คืออะไร? ความท้าทายที่ฝ่าย IT ต้องเตรียมรับมือ
บทความยอดนิยม

9 เทรนด์การทำงานในอนาคตสำหรับปี 2023Incognito Mode ฟังก์ชันเพื่อความเป็นส่วนตัวของคนไอที

เชื่อว่าทุกคนคงเคยเจอเหล่ามิจฉาชีพในรูปแบบต่างๆ กันมาแล้ว ทั้งโทรเข้ามาที่เบอร์โทรศัพท์โดยตรง มาในรูปแบบข้อความพร้อมแนบล...
ในยุคที่ทุกอย่างเต็มไปด้วยความเครียด ไม่ว่าจะเป็นสภาวะเศรษฐกิจ หรือเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดในสังคม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเหล่า...
หากว่าด้วยเรื่องของการเรียนรู้ เรามักจะพูดกันว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีวันสิ้นสุด เมื่อก้าวเข้าสู่โลกของการทำงานการศึกษาหาความร...

คำค้นหายอดนิยม

บทความที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ
No data was found
Scroll to Top