5 โรคเสี่ยงที่อาชีพ Call Center ต้องระวัง

5 โรคเสี่ยงที่อาชีพ Call Center ต้องระวัง
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 07 July, 2023
Share

Call Center กับ ความเสี่ยงจาก 5 โรคที่เลี่ยงไม่ได้


“สวัสดีค่ะ ดิฉัน….ยินดีให้บริการค่ะ”

“กรุณาถือสายรอสักครู่นะคะ”

“ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ”


ประโยคที่คุ้นเคยจากน้ำเสียงนุ่มๆ ของพนักงาน Call Center อาชีพที่เราใช้บริการกันอยู่บ่อยๆ แต่ไม่เคยรู้เบื้องหลังการทำงานของพวกเค้าสักเท่าไหร่ อาชีพ Call Center มีหน้าที่บริการข้อมูลและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ให้กับลูกค้า ทุกบริษัทจึงต้องให้ความสำคัญของกับบริการ Call Center เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า และยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อแบรนด์อีกด้วย (รวมงาน Call Center จาก jobsDB ไว้ที่นี่ คลิกเลย )

หลายคนอาจมองว่าCall Centerเป็นอาชีพที่ทำงานสบาย นั่งอยู่ในห้องแอร์ตลอดวัน เอาเข้าจริงกลับเป็นงานที่ท้าทายและต้องตื่นตัวตลอดเวลา เพราะอาศัยทักษะการเจรจาขั้นสูง ความอดทน และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ต้องตอบข้อสงสัยของลูกค้าให้ครบถ้วนในเวลาอันสั้นที่สุด ไหนจะต้องรองรับอารมณ์ลูกค้าอีก Call Center จึงเป็นอาชีพบริการที่แบกรับความกดดันสูง อีกทั้งลักษณะงานยังต้องนั่งทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมง หากทำงานหนักและเครียดเกินไป อาจละเลยการดูแลสุขภาพ ทำให้เสี่ยงต่อโรคได้โดยไม่รู้ตัว วันนี้เราเลยมีวิธีป้องกัน 5 โรคเสี่ยงของอาชีพนี้มาฝากกันค่ะ

1. โรค ออฟฟิศซินโดรม

ออฟฟิศซินโดรม จัดว่าเป็นโรคยอดฮิตของพนักงานออฟฟิศเลยก็ว่าได้ ด้วยลักษณะงานที่ต้องนั่งนานๆ อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันหลายชั่วโมง ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว หรือนั่งทำงานผิดวิธี อาจส่งผลให้มีอาการปวดเมื่อย เกร็งตามกล้ามเนื้อ เช่น ปวดหลัง คอ บ่า ไหล่ สะบัก มักมีอาการปวดในบริเวณกว้าง ทำให้ไม่สามารถระบุตำแหน่งได้ชัด รวมไปถึงอาการชาที่นิ้ว แขน ข้อมือ เพราะเส้นประสาทถูกกดทับ หากไม่เปลี่ยนพฤติกรรมก็จะทำให้ปวดเรื้อรัง


วิธีป้องกันเริ่มแรกคือควรปรับท่าทางการนั่งให้ถูกต้อง หลังตรง ไม่ก้มหรือเงยจนเกินไป ปรับหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้พอดีกับระดับสายตา ควรเปลี่ยนอิริยาบทการทำงานบ้าง ยืดเส้นยืดสาย ลุกจากที่นั่งเพื่อให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย นอกเหนือจากเวลางานควรหาเวลาออกกำลังกาย เช่น โยคะ เพราะชวยเพิ่มความยืดหยุ่นกล้ามเนื้อ หรือการวิ่งที่จะช่วยสร้างความแข็งแรงให้กับข้อต่อ

2. โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ

โรคคู่หูที่มาพร้อมกับอาการออฟฟิศซินโดรมเช่นกัน โดยเฉพาะสาวๆ ต้องระวังไว้ อย่างที่เราเกริ่นไปแล้วว่า พนักงาน Call Center ต้องนั่งทำงานนานๆ ยิ่งช่วงเวลาเที่ยงที่คนใช้บริการมาก บางคนอาจกลั้นปัสสาวะเพื่อรับผิดชอบงานตรงหน้าก่อน แต่บอกเลยว่าไม่ควรทำอย่างยิ่ง หรือบางคนเลือกดื่มกาแฟ ชาไข่มุกแทน ซึ่งการดื่มน้ำน้อยก็เป็นสาเหตุสำคัญ สัญญาณน่าเป็นห่วงของโรคนี้ก็คือปัสสาวะบ่อย แต่ปัสสาวะไม่สุด รู้สึกแสบหรือมีเลือดออก มีอาการเจ็บท้องน้อยและเอว


วิธีป้องกันทำได้ง่ายๆ เลยแค่ดื่มน้ำให้มาก อย่างต่ำ 6-8 แก้วต่อวัน เพื่อให้ร่างกายขับของเสีย อย่าขี้เกียจ ลุกไปเข้าห้องน้ำ อย่ากลั้นปัสสาวะ หมั่นรักษาความสะอาดของจุดซ่อนเร้นอยู่เสมอ

หางานได้ง่ายกว่าเดิมผ่าน application บนมือถือจากjobsDBทั้ง iOS และ Android โหลดเลย

3. โรคตาพร่ามัว

อาการตาพร่ามัวมักพบได้บ่อยเพราะลักษณะงานต้องใช้สายตาเพ่งหน้าจอหลายชั่วโมงติดต่อกัน การเพ่งสายตามากๆ จะทำให้มีอาการตาแห้ง ปวดตาอยู่บ่อยๆ ค่าสายตาเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด

นอกจากนี้ยังเกิดจากการพักผ่อนน้อย ไม่ได้ทานข้าวอีกด้วย หากมีอาการรุนแรง อาจทำให้มองเห็นภาพไม่ชัด จนนำไปสู่โรคต้อลมและต้อเนื้อในอนาคต ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน

ทางแก้ควรหมั่นพักสายตาจากคอมพิวเตอร์บ้างทุกๆ 1-2 ชั่วโมง หลีกเลี่ยงการขยี้ตา รับประทานอาหารบำรุง สายตา เช่น ผักใบเขียว แครอท ไข่ และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

4. โรคซึมเศร้า

อาชีพที่ต้องแบกรับความกดดันมากๆ อาจทำให้เครียดโดยไม่รู้ตัว โรคนี้เกิดจากความผิดปกติของสารเคมีในสมอง “เซโรโทนิน” (Serotonin) รวมทั้งทัศนคติในแง่ลบที่มีตัวตัวเอง ปัญหาส่วนตัวจากเพื่อนร่วมงานหรือในครอบครัว สัญญานที่น่าเป็นห่วงของโรคนี้คือเครียดจนนอนไม่หลับ ทานอาหารได้น้อยลง อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ และสมาธิสั้น เป็นต้น


ถ้ามีอาการเหล่านี้ลองปรึกษาเพื่อนและคนใกล้ตัว จัดตารางงานให้เป็นระบบ หาเวลาไปพักผ่อน เปิดหูเปิดตาบ้าง เพราะชีวิตไม่ได้มีแต่งานอย่างเดียว พยายามอย่าเก็บตัวอยู่คนเดียว หากยังไม่ดีขึ้นอาจปรึกษาจิตแพทย์ เพื่อทำการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะโรคนี้ส่งผลต่อร่างกายมาก และเสี่ยงต่อโรคแทรกซ้อนตามมาด้วย

5. โรคอ้วน

การทำงานในอิริยาบทเดิมๆ ไม่เพียงแต่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนล้าง่าย ยังทำให้ระบบเผาผลาญต่ำอีกด้วย เพราะร่างกายไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว ประกอบกับการทำงานที่ต้องแข่งกับเวลา ทำให้บางคนเน้นทานอาหารที่หาได้ง่าย เร็ว แต่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการสักเท่าไหร่ ทานซ้ำๆ ติดต่อกัน จนเกิดการสะสมไขมัน น้ำตาล ทำให้เป็นโรคอ้วนได้ ยังไม่นับในกรณีที่ยิ่งเครียด ยิ่งระบายไปกับการทานของจุกจิก จนทำให้น้ำหนักเพิ่มโดยไม่รู้ตัว โรคอ้วนยังเป็นสาเหตุให้เกิดโรคร้ายอื่นๆ ตามมา เช่น โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ


วิธีป้องกันที่หลายคนรู้ แต่ไม่ค่อยจะทำกันก็คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เน้นมื้อหลักให้อิ่ม ลดของจุกจิก เลี่ยงอาหารรสหวานจัด เค็มจัด ไขมันสูง เน้นผักผลไม้ ให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี และต้องไม่ลืมหาเวลาออกกำลังกายเบิร์นไขมัน หุ่นดีแล้วจะได้ใส่เสื้อผ้าสวยๆ ไปทำงาน

สุดท้ายนี้อยากให้พนักงาน Call Centerหรือคนที่กำลังจะก้าวเข้ามาในอาขีพนี้ รักษาสุขภาพให้ดีเอาไว้แต่เนิ่นๆ หาเวลาไปเที่ยวผ่อนคลายบ้าง อย่าปล่อยให้ตัวเองทำงานหนักเกินไป เงินที่หามาได้อาจจะเยอะก็จริง แต่ก็ไม่คุ้มกับค่ายารักษาโรคที่ตามมา ดูแลร่างกายให้แข็งแร็ง จะได้มีแรงทำอาชีพที่เรารักไปนานๆ :)

#icanbebetter

เพิ่มเพื่อน

สร้างโปรไฟล์

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่ามีผู้สมัครจำนวนเท่าไหร่ที่เตรียมเรซูเม่ที่หาข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมของตนโดยการสำรวจด้วยคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
เพียงคลิก 'สมัครสมาชิก' เพื่อยอมรับ คำชี้แจงสิทธิ์ส่วนบุคคลของ Jobsdb โดยคุณสามารถยกเลิกอีเมลเมื่อใดก็ได้
สงวนลิขสิทธิ์ 1998-2024 โดย บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด