คุณมีเวลากับครอบครัวกี่ชั่วโมงต่อวัน
ใน 1 วัน ทุกคนต้องแบ่งเวลาให้กับ งาน ครอบครัว และเรื่องส่วนตัว ซึ่งครอบครัวมักจะเป็นตัวเลือกที่ถูกตัดทิ้งเมื่อเวลาอันน้อยนิดใน 24 ชั่วโมงของคุณนั้นมันกระชั้นซะเหลือเกิน ไหนจะทำงานนอกบ้าน พบลูกค้านอกเวลา ฝ่าด่านรถติด แล้วยังมีหอบงานที่ค้างมาสะสางต่อที่บ้านอีก หลาย ๆ คนทุ่มเวลาให้กับการทำงานเป็นอย่างมาก เพื่อความสำเร็จในหน้าที่การงาน สร้างฐานะให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น หาเลี้ยงครอบครัว ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน และด้วยเหตุผลอื่น ๆ อีกมาก จนหลงลืมและละเลยให้ความสำคัญกับครอบครัว หากขาดสมดุลในการให้ความสำคัญระหว่างงานกับครอบครัว อาจจะเป็นปัจจัยในการทำลายความสุขในอนาคตได้ เพราะพ่อแม่เราก็แก่ลงทุกวัน หรือลูกเราที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่จะสายเกินไป jobsDB มีวิธีจัดสรรเวลาเรื่องงานและครอบครัวให้สมดุลมาฝากค่ะ
1. ช่วงเช้าก่อนไปทำงาน
ควรทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัว ถ้าเป็นไปได้ให้รวมถึงการไปส่งลูกที่โรงเรียน เพราะการใช้เวลาร่วมกันในช่วงเริ่มต้นของวัน เป็นเหมือนการสร้างรากฐานที่มั่นคงให้ครอบครัวได้มีการพูดคุยกัน ซักถามปัญหาหรือความในใจของลูก บอกเล่ากิจกรรมของตนเองในแต่ละวัน เพื่อที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตกันและกัน “วันนี้พ่อต้องประชุมกับลูกค้าสำคัญ” “วันนี้หนูเรียนพละศึกษา ไม่ชอบเลย” ในทุกคำพูดจะเพิ่มความผูกพันให้กับครอบครัว และช่วยลดช่องว่างที่จะเกิดปัญหาครอบครัว
ข้อแนะนำเลือกสถานที่ทำงานใกล้บ้าน หรือเลือกโรงเรียนของลูกใกล้บ้านหรือที่ทำงาน เพื่อให้มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น
2. ช่วงเวลาทำงาน
พยายามทำงานให้เสร็จตามเวลางาน โดยเริ่มจากงานที่ยากก่อน แก้ปัญหางานในเวลาที่คุณรู้สึกมีความพร้อมสูงสุดในแต่ละวัน จัดสรรส่วนที่เป็นหน้าที่การงานของคุณให้เป็นระเบียบ อย่าอู้ เถลไล จนงานคั่งค้างถึงเวลาโอที จนไปเบียดเบียนเวลาของครอบครัว
ข้อแนะนำคุณควรแบ่งงานใหญ่ให้เป็นชิ้นย่อย อย่าลืมที่จะกำหนดเวลาเสร็จให้กับทุกชิ้นงาน
3. ช่วงเวลาหลังเลิกงาน
ให้เวลาพักผ่อนกับตัวเองโดยอยู่กับครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการสอนการบ้านลูก ซึ่งนอกจากคุณจะได้ใกล้ชิดกับลูกแล้วยังสามารถรู้ด้วยว่าลูกของคุณอ่อนวิชาอะไร เก่งด้านไหน ช่วยแก้ปัญหาด้านการเรียนให้ลูกได้อีกด้วย หาเกมหรือกิจกรรมสนุก ๆ ทำด้วยกัน เช่น ต่อจิ๊กซอว์ ปลูกผักสวนครัว ออกกำลังกาย หรือช่วยกันทำงานบ้านเบา ๆ ให้ถือว่าเวลาอันน้อยนิดนี้เป็นการพักผ่อนที่แสนจะมีค่าของคุณที่ได้ใกล้ชิดกับครอบครัว
ข้อแนะนำไม่แบกงานที่ยังทำค้างกลับมาทำที่บ้าน ปิดโหมดเรื่องงานหลังจากก้าวออกจากที่ทำงาน พยายามไม่คิดงานในหัวตลอดเวลา
4. ช่วงวันหยุด
เมื่อรู้ตารางงานตลอดทั้งปีแบบคร่าว ๆ แล้ว ให้จัดสรร จองวันที่จะพากันไปท่องเที่ยวที่ไกล ๆ ซัก 1-2 ครั้ง ต่อปี อาจจะไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ หรือช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ลองหากิจกรรมนอกบ้านที่ทำร่วมกับครอบครัว เช่น ทานข้าวนอกบ้าน ไปพักผ่อนสถานที่ต่าง ๆ เยี่ยมคุณตาคุณยาย กิจกรรมนอกบ้านจะช่วยให้พ่อแม่มีปฏิสัมพันธ์กับลูก และช่วยเพิ่มความกระตือรือร้นของลูก ซึ่งจะนำไปสู่การสนทนาพูดคุยระหว่างพ่อแม่ลูก หรือหากิจกรรมที่เป็นงานอดิเรกซึ่งพ่อแม่อาจทำกิจกรรมที่ลูกสนใจร่วมกับลูก เช่น ขี่จักรยาน เล่นกีฬา เป็นต้น งานอดิเรกเหล่านี้จะช่วยให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข
ข้อแนะนำหากมีเหตุจำเป็นต้องทำงานนอกเวลาหรือทำงานในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ อาจขออนุญาตที่ทำงานพาลูกมานั่งทำการบ้านหรืออ่านหนังสือรอจนกว่าจะเสร็จงาน ลูกจะได้เห็นว่าคุณทำงานอย่างไร หรืออาจขอนำงานมาทำที่บ้านเป็นบางโอกาสเพื่อจะได้ใช้เวลากับครอบครัว เช่น ในกรณีที่ลูก สามี หรือภรรยาเจ็บไข้ได้ป่วย
ความสำเร็จในหน้าที่การงานนั้นไม่ได้เกิดจากการทุ่มเทอย่างไม่รู้จักหยุดพัก แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถสร้างสมดุลที่ลงตัวระหว่างงานและครอบครัวได้อย่างไร เพื่อให้ครอบครัวไม่เป็นแรงฉุดรั้งแต่เป็นแรงผลักดันให้เราก้าวไปสู่ความสำเร็จในหน้าที่การงานได้อย่างที่ตั้งใจ แท้ที่จริงแล้ว ปัญหาเรื่อง “เวลา” นั้นไม่ใช่ปัญหาเลย ถ้าเรารู้จักการบริหารเวลาที่มีให้แก่งาน และครอบครัวอย่างมีคุณภาพและสมดุล เลือกงานที่สร้างสมดุลให้กับชีวิตและการทำงานได้ เพียงอัปเดตโปรไฟล์กับ jobsDB ชีวิตก็ดีขึ้นได้ ด้วยงานใหม่ที่ใช่กว่าเดิมค่ะ
#icanbebetter
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
