ส่อง โลกเสมือนจริง เมื่อ Metaverse มา คนทำงานต้องปรับทิศทางอย่างไร

ส่อง โลกเสมือนจริง เมื่อ Metaverse มา คนทำงานต้องปรับทิศทางอย่างไร
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 07 July, 2023
Share

ตั้งแต่ปลายปี 2021 จนถึงตอนนี้ หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า " Metaverse " หรือ โลกเสมือนจริง ที่กำลังเข้ามามีบทบาทในแทบทุกธุรกิจ แล้วโลกเสมือนจริงนี้มีความสำคัญต่อชีวิตของเราอย่างไร และเราควรต้องปรับตัวอย่างไร เพื่อให้องค์กรของเราก้าวทันโลก วันนี้ JobsDB สรุปความรู้จาก ดร. สุพจน์ ศรีนุตพงษ์ ตำแหน่ง Head of Technical Knowledge Management จากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (Advanced Info Service) ซึ่งทำให้เราได้ใคร่ครวญถึงทิศทางที่คนทำงานต้องเลือกมอง และเลือกเดิน มาฝากทุกคนกัน

Metaverse สำหรับการทำงาน

โลกในปัจจุบันกำลังใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีมากขึ้นในแง่ของการสื่อสาร ทำให้การทำงานของผู้คนมีความแน่นแฟ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยไม่เกี่ยวข้องกับระยะทาง แม้จะอยู่ที่บ้านก็สามารถทำงานได้เหมือนเป็นปกติ ต่างจากในอดีตที่จะต้องเดินทางมาเพื่อนั่งทำงานในสำนักงาน เจอกับเอกสารฉบับกระดาษ และเข้าห้องประชุมเพื่อระดมความคิดร่วมกัน เทคโนโลยี Metaverse ได้ให้ประสบการณ์เดียวกันแม้คนจะทำงานอยู่ที่บ้านก็ตามที โดยได้กำหนดพื้นที่ดิจิทัลให้เข้าใช้งานพร้อมระบุตัวตนได้ ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงไฟล์เอกสารและทำงานร่วมกับผู้อื่น หรือร่วมประชุมออกความคิดเห็นได้อย่างสะดวก

สถานการณ์โควิด-19 เป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้คนในวัยทำงานเปิดรับเทคโนโลยีสำหรับการประชุมออนไลน์ หรือสนับสนุนการทำงานทางไกลอย่างเสียไม่ได้ และผลักดันให้การพัฒนาเทคโนโลยีในสาย Metaverse โดยบริษัทต่าง ๆ เป็นไปอย่างกระตือรือร้นมากขึ้น เทคโนโลยีสนับสนุนมากมายเป็นไปในทิศทางเพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ไม่ต่างจากอยู่ในสถานที่ที่คาดหวังว่าต้องไป และทิศทางการลงทุนของบริษัทหลายแห่ง เปลี่ยนจากการต้องมีสำนักงานใหญ่โตเป็นพื้นที่ขนาดเล็กลง แต่มีพื้นที่ใน Metaverse หรือ โลกเสมือนจริง ที่มากขึ้น ซึ่งเท่ากับว่าจะลดต้นทุนการเช่าพื้นที่ลงไป

บริษัทไทยกับการตอบรับกระแส Metaverse

องค์กรอย่าง AIS ผู้ให้บริการโทรคมนาคมซึ่งพัฒนาตัวเองเป็นบริษัทที่เปิดรับเทคโนโลยี (Tech Company) ตั้งเป้าปรับตัวเป็น Digital Life Service Provider คือผู้ให้บริการชีวิตยุคดิจิตัลสำหรับทุกคน ซึ่งในแง่การบริหารกลยุทธ์บริษัทได้วางแผนนำเทคโนโลยีประมวลผลอัจฉริยะโดยปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence, AI) และ เทคโนโลยีการจำลองสภาพแวดล้อมจริง (Visual Reality, VR) รวมถึง Metaverse ซึ่งเป็นพื้นที่เสมือนที่มีการติดตั้งปัญญาประดิษฐ์และจำลองสภาพแวดล้อมเหมือนจริง มาใช้ประกอบการเพื่อสนับสนุนการมีปฏิสัมพันธ์ของผู้คนในการทำงาน

AIS ดำเนินงานโดยมีวิสัยทัศน์ว่าจะต้องเป็นCognitive Telcoหรือเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่ฉลาดยิ่งขึ้น คือจะต้องมีเทคโนโลยีที่พร้อมสรรพเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งานโทรคมนาคม โดยนอกจากสนับสนุนการจัดตั้งหรือใช้งานสำนักงานเสมือนจริง และการให้บริการ Metaverse ยังขยายขอบเขตการให้บริการโดยให้ความร่วมมือกับภาคธนาคาร (ชื่อโครงการ AISCB) เพื่อสนับสนุนการให้สินเชื่อและการเข้าถึงบริการทางการเงินผ่านดิจิตัลแพลตฟอร์ม รวมไปถึงสร้างความร่วมมือกับแพลตฟอร์มอย่าง Hotstar ในเรื่องการพัฒนาสื่อเพื่อความบันเทิง

หากเจาะลึกว่า เทคโนโลยี Metaverse ที่ AIS ได้พัฒนาขึ้นไปถึงขั้นไหน ผลงานที่เห็นเป็นรูปธรรมและใช้งานได้จริง ได้แก่ โครงการ Avenue เป็นโลกจำลองที่ให้คนสามารถเข้าไปจับจ่ายใช้สอยได้ไม่ต่างจากห้างสรรพสินค้า การดำเนินการตรงนี้ทาง AIS เป็นผู้นำเทรน ได้มีการริเริ่มก่อนที่ทาง Facebook จะประกาศออกมาว่าจะปรับเปลี่ยนทิศทางการทำงานโดยมุ่งให้บริการแบบ Metaverse

การดำเนินงานของ AIS ทำให้เห็นว่ากระแส Metaverse อยู่ใกล้ตัวคนทำงาน การทำงานของบริษัทต่าง ๆ ในอนาคตจะอยู่ในโลกเสมือนจริงได้แน่ ๆ โดยมนุษย์สื่อสารผ่านอุปกรณ์โดยไม่ได้เจอหน้ากัน แต่ก็ยังคงความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกันได้ การสื่อสารไม่ได้ขาดประสิทธิภาพลง ความสัมพันธ์ไม่ได้เสื่อมถอย เพราะคนทำงานจะได้รับการสนับสนุนให้มีบรรยากาศการทำงานที่เสมือนจริง แต่การที่โลกจะก้าวไปถึงวันที่ Metaverse แผ่ขยายในโลกการทำงานอย่างกว้างขวาง มโนทัศน์การเรียนรู้และพัฒนาทักษะต่าง ๆ ของผู้คนจำต้องเติบโตสอดคล้องกับการพัฒนาของโลกในอนาคตด้วย

ทิศทางของเทคโนโลยี และความกังวลของคนทำงาน

โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเมื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน การติดต่อสื่อสารเกิดขึ้นอย่างไร้พรมแดน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การร่วมมือระหว่างองค์กรที่อยู่คนละซีกของโลกเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะเริ่มมีโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของทุกคนในทุกวัย ข่าวสารต่าง ๆ ไม่ทันข้ามวัน ผู้คนก็เป็นผู้สื่อสารให้รู้ทั่วกัน

อุปกรณ์ในการสื่อสารซึ่งเอื้อให้โซเชียลมีเดียเติบโตก็คือมือถือสมาร์ทโฟน และในอนาคตคาดว่าอุปกรณ์จะถูกออกแบบเพื่อให้รองรับการทำงานของ Metaverse เบื้องต้นที่หลายบริษัทกำลังพัฒนากันอยู่ อยู่ในรูปแบบของแว่นตา แต่เป็นไปได้เช่นเดียวกันว่าเราจะได้เห็นการออกแบบอุปกรณ์ออกมาในรูปแบบที่เราคาดไม่ถึง โดยหลัก ๆ แล้วอุปกรณ์เหล่านี้จะเพิ่มความสมจริงของการมีส่วนร่วมใน Metaverse

การใช้งานอุปกรณ์อันเป็นนวัตกรรมและทำงานด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย กลุ่มวัยทำงานที่มีแนวโน้มจะปรับเข้าสู่รูปแบบ Metaverse จำเป็นจะต้องเปิดใจเพื่อใช้งาน และเรียนรู้ ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วคนรุ่นเก่ากว่าอย่างเจเนอเรชั่นเอ็กซ์หรือวายจะมีลักษณะเป็น Digital Immigrant เป็นคนที่ต้องทำงานหนักกว่าคนในเจเนอเรชั่นซีหรืออัลฟ่ากับเรื่องของเทคโนโลยี

เมื่อเปรียบเทียบระหว่างเจเนอเรชั่น คนในเจเนอเรชั่นซีหรืออัลฟ่าได้เติบโตมาพร้อมกับอุปกรณ์ที่ทันสมัยอย่างสมาร์ทโฟนอยู่แล้วและเคยชินกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไปเร็ว เพียงลองใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีใหม่ ๆ ไม่นานก็เข้าใจการทำงานได้ดี คนในวัยทำงานจากเจเนเรชั่นก่อน ๆ จึงเริ่มหนาว ๆ ร้อน ๆ กันบ้างว่าจะปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีได้เท่าทันคนรุ่นหลังหรือไม่ เพราะในโลกของการทำงาน บริษัทก็ย่อมต้องการผู้คนที่ปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีได้

การ Hybrid เพื่อทำงานร่วมกันของคนต่างเจเนอเรชั่น

เทคโนโลยีไม่ได้เข้ามาแทนที่ผู้คน แต่เข้ามาสนับสนุนการทำงานและดำเนินชีวิต ดังนั้นคนในเจเนอเรชั่น เอ็กซ์และวายควรมุ่งใส่ใจว่าองค์ความรู้ยังจำเป็นเสมอในการทำงาน ความรู้และประสบการณ์ที่สะสมมาเป็นทักษะจำเป็นในการเป็นกำลังให้กับองค์กร ขณะเดียวกันต้องเปิดใจว่าเทคโนโลยีคือเครื่องมือที่สมควรแก่การฝึกฝนใช้งาน จะเป็นโอกาสเพื่อพัฒนาชุดทักษะใหม่ ๆ

ยกตัวอย่าง เช่น คนที่มีความสามารถในด้านนิเทศศาสตร์ที่เก่งในเรื่องการออกแบบการแสดงหรือการนำเสนอ ก็นำองค์ความรู้และประสบการณ์มาใช้กับอุปกรณ์ที่เอื้อต่อการทำช่องแสดงสด (Live) ได้ อีกทั้งยังสามารถทำงานร่วมกับคนที่พัฒนาทักษะจำพวกการออกแบบ 3D สำหรับการออกแบบตัวละครเสมือน

นอกจากนี้ เทคโนโลยีที่ดูเป็นเรื่องยุ่งยาก หรือต้องการคนที่มีความเข้มข้นในการโปรแกรมมิ่งในปัจจุบัน อาจจะสร้างความเข้าใจผิดว่าคนที่เรียนหรือทำงานสายเทคโนโลยีเท่านั้นที่จะก้าวหน้าได้ อันที่จริงแล้ว คนทำงานในสายสนับสนุนก็ได้รับการส่งเสริมจากองค์กรเทคโนโลยีให้เติบโตเช่นกัน อย่างพนักงานทางการตลาด ก็สามารถใช้เครื่องมือเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและนำเสนอแก่องค์กร โดยเทคโนโลยีที่ใช้ถูกออกแบบให้ทำงานได้ง่าย อยู่ในรูปแบบ Low-Code/ No-Code เน้นการลากวางและเครื่องมือที่ใช้จะประมวลผลและนำเสนอบทสรุปข้อมูลที่ง่ายต่อการนำไปวิเคราะห์และนำเสนอต่อองค์กร

ดังนั้น คนต่างเจเนอเรชั่นมีทิศทางการทำงานร่วมกัน เทคโนโลยีไม่ได้แบ่งแยกคนว่ามีทักษะต่างกัน และมีคนที่จะเสียโอกาส แต่เทคโนโลยีมีอยู่และพัฒนาไปเพื่อให้โอกาสแก่ทุกเจเนอเรชั่นในการทำงานร่วมกันแบบ Hybrid มีการบูรณาการองค์ความรู้เพื่อใช้งานกับเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับตนเอง คนที่เก่งเทคโนโลยีกำลังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่องานในหลาย ๆ ตำแหน่งอยู่ด้วย ดังนั้นเมื่อ Metaverse มา ทิศทางการปรับตัวของคนทำงาน คือการเปิดรับเทคโนโลยีที่ทันสมัยซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยสนับสนุนการทำงานในตำแหน่งต่าง ๆ

คนรุ่นใหม่: การเรียนรู้และพัฒนาตนเองเพื่ออนาคต

เทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง 3 สิ่งที่คนทำงานไม่ควรพลาดในการทำความเข้าใจในยุคปัจจุบัน คือ

คนทำงานควรจะอธิบายได้ถึง ลักษณะการทำงานของเทคโนโลยีเหล่านี้ และผลกระทบของเทคโนโลยีต่อชีวิตการทำงานหรือชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ยังต้องพัฒนาทักษะการแก้ไขปัญหา และการสื่อสารกับผู้คน โดยจิตใจที่แสวงหาการพัฒนาทั้งความรู้และทักษะที่สนับสนุนการทำงานนอกเหนือจากความรู้ทางเทคนิค คือสิ่งที่องค์กรมองหาจากผู้สมัครงานหน้าใหม่

อย่างบริษัท AIS มีการจัดตั้ง AIS Academy ที่มีห้องสมุดให้บริการทั้งสื่อที่หยิบยืมได้และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทักษะของคน โดยเชื่อว่าคนเราแต่ละคนควรได้รับการพัฒนาทักษะเป็นรายบุคคลและตลอดชีวิต และได้รับโอกาสที่จะใช้ทักษะที่ฝึกฝนผ่านการทำงานต่าง ๆ ซึ่งทาง AIS เชื่อว่าจะทำให้คนอยากทำงานกับ AIS เพราะได้เห็นว่าเป็นองค์กรที่ส่งเสริมให้ตนเติบโตขึ้น

คนรุ่นใหม่เมื่อมองหาองค์กรในการทำงาน ควรแสวงหาองค์กรที่มีทิศทางที่จะฝึกฝนตนในด้านที่สนใจ องค์กรที่เน้นเทคโนโลยี ไม่ใช่ว่าทุกคนที่สมัครงานต้องใช้งานเทคโนโลยีทุกอย่างเป็นหมดแล้ว แต่ละองค์กรเทคโนโลยีจะมีเครื่องมือที่โดดเด่นและใช้งานอยู่ซึ่งโดยทั่วไปจะมีบุคลากรที่ได้เรียนรู้เครื่องมือที่ใช้งานมาก่อนซึ่งสามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับคนที่มาใหม่ได้ สิ่งสำคัญคือคนรุ่นใหม่ต้องมีทัศนคติในการพัฒนาทักษะของตนที่สอดคล้องกันกับความต้องการขององค์กร มีความคาดหวังที่จะทำงานเพื่อเสริมสร้างองค์กร และกำหนดทิศทางการเติบโตด้านความรู้ ทักษะ และความสัมพันธ์ในองค์กรเอาไว้ด้วย

ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android

JobsDB Mobile App

เลือกงานที่ใช่ ใช้ชีวิตที่ชอบ ด้วยการค้นหางานที่ง่ายและรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดการเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณอัปโหลด ดู และลบได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานแสนง่าย ด้วยระบบ AI ใหม่ ช่วยค้นหางานที่ตรงใจมากขึ้นถึง 6 เท่า​

https://th.jobsdb.com/th-th/articles/metaverse-%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%99%e0%b8%94%e0%b9%8c%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%99%e0%b9%88%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89/

https://th.jobsdb.com/th-th/articles/metaverse-%e0%b8%84%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%ad%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89/

https://th.jobsdb.com/th-th/articles/digital-literacy/

https://th.jobsdb.com/th-th/articles/goal-setting-%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b8%a2/

https://th.jobsdb.com/th-th/articles/micropreneurs/

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่ามีผู้สมัครจำนวนเท่าไหร่ที่เตรียมเรซูเม่ที่หาข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมของตนโดยการสำรวจด้วยคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
เพียงคลิก 'สมัครสมาชิก' เพื่อยอมรับ คำชี้แจงสิทธิ์ส่วนบุคคลของ Jobsdb โดยคุณสามารถยกเลิกอีเมลเมื่อใดก็ได้
สงวนลิขสิทธิ์ 1998-2024 โดย บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด