อยากเปลี่ยนสายงาน ควรเตรียมตัวอย่างไร
เชื่อหรือไม่ เรื่องใหญ่ในชีวิตที่คิดไม่ตกอีกหนึ่งเรื่อง นั่นก็คือ คิดที่จะ เปลี่ยนสายงาน บางคนคิดมาเป็นปี สองปี หรือสามปี ว่าอยากจะ อยากจะ แต่สุดท้ายชีวิตก็ยังวนอยู่ที่เดิม ติดอยู่กับสิ่งเดิม ๆ เพียงเพราะคำว่า “กลัว” ไม่กล้าออกจาก comfort zone ของตัวเอง แต่ก็เข้าใจนะ เพราะการเริ่มอะไรใหม่ ๆ นั้นมันค่อนข้างยาก ยิ่งการเปลี่ยนสายงานไปจากสายงานเดิมที่เคยทำอยู่แล้วด้วยนั้น เรียกว่าเปลี่ยนชีวิตไปเลยก็ว่าได้ ถ้าไม่พร้อมจริง ๆ ก็จะมีความกลัวเป็นเรื่องธรรมดา ดังนั้น เรามาลองมาหาวิธี และค่อย ๆ ออกจาก comfort zone เพื่อเตรียมตัวเปลี่ยนสายงานไปพร้อม ๆ กันดีกว่า
หาข้อมูลเกี่ยวกับงานที่จะไปทำ
คุณต้องศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับสายงานที่คุณคิดจะเปลี่ยนไปทำให้ละเอียด ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบการทำงาน ลักษณะงาน หรือแม้แต่ไลฟ์สไตล์ของคนอาชีพนี้ แน่นอนว่าแต่ละอาชีพจะมีไลฟ์สไตล์ต่างกัน การเปลี่ยนอาชีพจึงเหมือนการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ถ้าคุณเปลี่ยนไปทำงานในสายอาชีพนั้นแล้ว คุณจะรับได้กับไลฟ์สไตล์นี้ได้หรือไม่
ปรึกษาผู้มีประสบการณ์
จะดีมาก ๆ ถ้าคุณได้หาข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพใหม่ที่คุณสนใจอยากเปลี่ยนสายอยู่นี้ โดยการสอบถามจากผู้ที่มีประสบการณ์ตรง เพราะเขาจะเป็นคนที่ถ่ายทอดข้อมูลการทำงานให้ได้มากที่สุด และตรงประเด็นที่สุด เขาสามารถบอกได้ถึงรูปแบบการทำงาน อุปสรรค์ปัญหาต่าง ๆ ในสายงาน ที่คนทำงานจะต้องเจอ เขาสามารถบอกวิธีการเอาตัวรอด หรือวิธีการพัฒนาตัวเอง เพื่อให้สามารถอยู่ในอาชีพนี้ได้ ลองไปปรึกษาว่าคนทำงานสายอาชีพนี้ ต้องมีคุณสมบัติ คุณลักษณะ และทักษะการทำงานอะไรบ้าง เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาพิจารณาดูว่าเรามีแล้วหรือยัง
เพิ่มเติมทักษะ
จริงอยู่ที่ว่าคุณมีประสบการณ์การทำงาน และมีทักษะการทำงานจากที่ทำงานเก่ามา ถ้าเปลี่ยนสายงานแล้วก็เหมือนกับเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง แต่บางคนอาจจะสามารถเรียนรู้สายงานใหม่ได้รวดเร็ว หรือสามารถใช้ทักษะการทำงานจากสายงานเก่ามาปรับใช้กับสายงานใหม่ได้ แต่สำหรับคนที่สายงานที่อยากเปลี่ยนใหม่ไม่มีอะไรที่สอดคล้องหรือปรับใช้จากสายงานเก่าได้เลย เรียกได้ว่าต้องเริ่มต้นจากศูนย์ ก็ต้องสำรวจตัวเองว่ายังขาดทักษะอะไรอยู่บ้าง อาจจะไปหาคอร์สเรียนเพิ่มเติม หรือหาอ่าน เพื่อเพิ่มเติมความรู้ และทักษะการทำงาน เตรียมความสู่การเปลี่ยนสายงานใหม่
สร้างความมั่นใจ
ก่อนที่จะออกจาก comfort zone แล้วไป เปลี่ยนสายงาน กัน มาสร้างความมั่นใจกันอีกซักครั้ง เพื่อตัวคุณเองและเพื่อผู้ประกอบการที่จะจ้างคุณเข้าทำงาน แม้คุณจะไม่มีประสบการณ์ในการทำงานด้านนี้มาก่อน ก่อนอื่นคุณควรหาคำตอบให้ได้ว่า “ทำไมคุณถึงจะเปลี่ยนสายงาน” เพราะไม่ใช่แค่หาคำตอบให้กับตัวเองเท่านั้น แต่คำถามนี้จะต้องไปปรากฏตอนที่คุณสัมภาษณ์งานอย่างแน่นอน
เขียนเรซูเม่ฉบับใหม่
เรซูเม่ฉบับเดียวไม่ได้สามารถใช้สมัครงานได้กับทุกงาน ฉะนั้น ทิ้งเรซูเม่ฉบับเก่าของคุณไปได้เลย ถ้าคุณคิดจะเปลี่ยนสายงานใหม่ คุณควรเขียนเรซูเม่ฉบับใหม่ขึ้นมาให้เหมาะสมกับการสมัครงานในสายงานใหม่โดยเฉพาะเลย และคุณต้องทำการบ้านหนักกว่าเดิม ในการที่จะทำให้เรซูเม่ของคนที่จะเปลี่ยนสายงานให้โดดเด่น โดนใจผู้ประกอบการ คุณต้องหาจุดเด่น และจุดเชื่อมโยงระหว่างสายงานเก่า และสายงานใหม่ของคุณให้ได้ แล้วเขียนมันออกมาให้ดึงดูดผู้ประกอบการให้ได้
อัปเดตโปรไฟล์
เพื่อให้ผู้ประกอบการค้นหาโปรไฟล์ของคุณเจอ คุณควร อัปเดตโปรไฟล์กับ jobsDB โดยกรอกข้อมูลให้เหมาะสมกับสายงานใหม่ที่ต้องการสมัคร เมื่อผู้ประกอบการมาค้นหาผู้สมัครงาน เค้าจะใช้คำคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสายงานนั้น ๆ เพื่อค้นหาโปรไฟล์ของผู้สมัครงาน ถ้าคุณไม่ใส่ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และเหมาะสมกับตำแหน่งงานที่คุณกำลังคิดจะเปลี่ยน ผู้ประกอบการก็จะไม่สามารถเจอโปรไฟล์ของคุณได้เลย คุณควรอัปเดตโปรไฟล์ของคุณให้สดใหม่อยู่เสมอ เพราะระบบค้นหาโปรไฟล์ของ jobsDB ที่ทางผู้ประกอบการใช้ค้นหาผู้สมัครงาน จะดึงโปรไฟล์ของผู้สมัครงานที่สดใหม่ขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ ที่สำคัญ คุณควรกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน และอย่าลืมตั้ง “สถานะอนุญาติให้ดูข้อมูล” ในโปรไฟล์ของคุณ
แน่นอนว่าทุกข้อที่ jobsDB พูดถึงนั้นไม่สามารถทำให้คุณเปลี่ยนงานได้ถ้าคุณไม่ตัดสินใจลงมือทำ ดังนั้นหากคุณรู้สึกว่าเบื่อความจำเจ เบื่อรูปแบบชีวิตที่เป็นอยู่ ลองถามตัวเองว่าคุณจะเสียเวลาอยู่กับความเบื่อหน่ายแบบนั้นอยู่ไปทำไม สู้เอาเวลาไปค้นหาอะไรใหม่ ๆ อาชีพใหม่ ๆ ให้ชีวิตได้ลองทำอะไรที่มีสีสันดูบ้างดีกว่า ดังนั้นอย่ากลัวการเปลี่ยนสายงาน เพราะที่จริงการอยู่กับอะไรเดิม ๆ นาน ๆ นั้นน่ากลัวกว่าเยอะเลย สู้ ๆ นะคะ
#icanbebetter
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
5 วิธีเขียนเรซูเม่ สำหรับคนที่จะเปลี่ยนสายงานให้โดดเด่น ไม่ถูกคัดทิ้ง
