6 วิธีในการพัฒนาตนเองในการทำงาน เพื่อการเติบโตแบบก้าวกระโดด

6 วิธีในการพัฒนาตนเองในการทำงาน เพื่อการเติบโตแบบก้าวกระโดด
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 07 July, 2023
Share

หากว่าด้วยเรื่องของการเรียนรู้ เรามักจะพูดกันว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีวันสิ้นสุด เมื่อก้าวเข้าสู่โลกของการทำงานการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมก็ยังถือเป็นสิ่งที่สำคัญเสมอ ซึ่งนี่ถือเป็นการพัฒนาตนเองในการทํางานอย่างหนึ่ง เพราะเราเชื่อว่าคนทำงานทุกคนก็มักจะตั้งเป้าหมายในเส้นทางอาชีพให้กับตัวเองไว้อยู่แล้ว ว่าอยากจะพาตัวเองให้ไปถึงจุดใด แต่การจะไปถึงจุดหมายได้ เรื่องการพัฒนาตนเองในการทำงาน จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก และก็ไม่เรื่องยากเสมอไปที่ทุกคนจะพัฒนาตนเอง ดังนั้นมาดูกันดีกว่า ว่าวิธีง่าย ๆ ในการพัฒนาตนเองในการทํางานจะมีอะไรกันบ้าง

ทำไมต้องพัฒนาตนเองในการทํางาน

การทำงานในทุกๆ อาชีพล้วนต้องเริ่มจาก Passion และความชื่นชอบในอาชีพนั้นเสียก่อน ถึงจะสามารถทำมันออกมาได้เป็นอย่างดี หากเราไม่มี Passion ต่อสิ่งที่ทำ ก็อาจทำให้เราผลิตผลงานออกได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพมากนัก จนอาจลุกลามไปสู่อาการ Burn Out ด้วย ซึ่งหากเรารักในอาชีพของตนเองจริงๆ อย่างไรเสียเราก็ต้องอยากพัฒนาตนเองในการทำงานแทบทั้งสิ้น เพื่อเป็นการต่อยอดในสายอาชีพไปสู่ตำแหน่งที่สูงกว่าเดิม ค่าตอบแทนที่สูงขึ้น เพิ่มพูนทักษะ ปรับปรุงแก้ไขในสิ่งที่เคยทำพลาด จวบจนรู้วิธีในการรับมือกับแก้ปัญหาที่จะเข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนเราถึงต้องมีการพัฒนาตนเองในการทำงาน

ทำความรู้จัก Career Cycle

อีกหนึ่งหลักการสำคัญที่จะมีส่วนช่วยในการพัฒนาตนเองในการทำงานคือเรื่องของ Career Cycle ซึ่งก็คือเรื่องของการวางแผนในการพัฒนาตนเองในการทำงานแบบ 5 สเต็ป เปรียบเสมือนการกำหนดเฟรมเวิร์คเพื่อพัฒนาการทำงาน มีประโยชน์ในการช่วยให้เรารู้จักตนเองมากขึ้น รู้ว่าเราอยากไปถึงจุดไหนในสายอาชีพ รู้เป้าหมายว่าทำงานไปเพื่ออะไร หรือควรทำอย่างไรให้ตัวเองประสบความสำเร็จ อีกทั้งยังช่วยทำให้เราเป็นคนที่แอคทีฟในการทำงานมากขึ้นอีกด้วย

5 สเต็ปสำคัญของ Career Cycle

  1. Discover: อันดับแรกเลยคือเราต้องรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเราเองเสียก่อน ว่าเรารักในอาชีพนี้จริงๆ ใช่ไหม พร้อมทั้งประเมิน ทักษะ ของตัวเองว่าเพียงพอหรือเปล่า ไปจนถึงการมองหาจุดแข็งของตัวเอง ปิดท้ายด้วยการเห็นค่าของตัวเองอยู่เสมอ
  2. Explore:ต่อมาคือเราต้องรู้เป้าหมายว่าเราอยากพาตัวเองไปสู่จุดไหนในสายอาชีพ พยายามค้นหาข้อมูลหรือเทรนด์ ณ ปัจจุบันของอาชีพตนเองอยู่เสมอ และหากมีโอกาสดีๆ ที่ได้รับการหยิบยื่นเข้ามา การลองคว้ามันไว้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย
  3. Plan: เมื่อสำรวจตัวเองกับเทรนด์การทำงานแล้ว ก็ต้องควรที่จะรู้ว่าเราจะพาตัวเองไปถึงจุดที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้อย่างไร โดยอาจลองทำแพลนของตัวเองขึ้นมาแบบง่ายๆ ว่าภายในกี่ปีเราจะทำอะไรบ้าง อยากพัฒนาทักษะอย่างไร อยากก้าวขึ้นไปอยู่ตำแหน่งไหน อยากมีรายได้เท่าไร ด้วยเทคนิคการทำ SMART Goal จากนั้นก็คอยหาเวลาที่จะปรับปรุงแพลนนั้นอยู่เสมอ
  4. Execute: อย่างที่กล่าวไปว่า หากมีโอกาสใหม่ๆ เข้ามาในเส้นทางอาชีพของคุณ การจะลองรับมันไว้พิจารณา ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย  แม้คุณจะยังโอเคกับที่ทำงานปัจจุบันอยู่ แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะ อัปเดตเรซูเม่ ของตัวเองอยู่บ่อยๆ คอยฝึกฝนเรื่องของการตอบคำถามในการสัมภาษณ์งาน หรือไปจนถึงการลองหาโอกาสใหม่ๆ ด้วยตัวเอง ในกา รหางานใหม่ๆ ด้วย เพราะบางครั้งการอยู่ในที่เดิมๆ เป็นเวลานานๆ ก็อาจเจริญเติบโตช้ากว่า การไปเริ่มต้นที่ใหม่ก็เป็นได้ จากที่เราเห็นกันบ่อยๆ กับบางคนที่มักจะเปลี่ยนงานเพื่ออัปตำแหน่งหรืออัปเงินเดือนนั่นเอง
  5. Manage: ตัดกลับมาที่เรื่องของปัจจุบัน แม้ว่าเราจะแนะนำให้คุณลองเปิดโอกาสให้กับสิ่งใหม่ๆ แต่ก็ต้องอย่าลืมที่จะทำเรื่องของปัจจุบันให้ดีอยู่เสมอด้วย ดังนั้นจึงควรที่จะต้องทำผลงานในทุกๆ วันให้มีประสิทธิภาพ รักษาความสัมพันธ์กับหัวหน้างาน หรือเพื่อนร่วมงานให้ดีอยู่เสมอ ศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆ และพยายามมี Work Life Balance ให้ตนเอง เพื่อลดอาการเครียดด้วย

วิธีการพัฒนาตนเองในการทํางานให้เติบโตแบบก้าวกระโดด

ก่อนที่จะไปมองหาสิ่งใหม่ๆ หรือโอกาสเพิ่มเติมให้แก่ตัวเอง บางครั้งโอกาสดีๆ ก็มักอยู่ในที่ทำงานปัจจุบันของคุณด้วยเหมือนกัน ดังนั้นการพัฒนาตนเองในการทำงานในที่ปัจจุบันก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะในอดีตเรามักจะมีความเชื่อกันว่าการเติบโตในที่ทำงานมักต้องอาศัยระบบอาวุโสเป็นหลัก โดยเฉพาะในออฟิศของคนไทยเราเอง แต่ในปัจจุบันเทรนด์การทำงานได้เปลี่ยนไป องค์กรส่วนใหญ่จึงได้มีการปรับตัวเอง และเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีทักษะความสามารถได้เติบโตและมีตำแหน่งสูงๆ ไม่แพ้คนอายุมากเลยทีเดียว ดังนั้นลองมาดู 6 วิธีง่ายๆ ในการพัฒนาตนเองในการทำงานกันดีกว่า

1. เห็นคุณค่าของงานที่ตัวเองทำเสมอ

เมื่อรู้จักตัวเองแล้ว เราก็ต้องเรียนรู้ในหน้าที่การงานของเราด้วย ต้องรู้ว่าตำแหน่งที่เราทำ มีประโยชน์อย่างไรต่อองค์กรบ้าง แล้วจะช่วยพัฒนาให้กับองค์กรได้อย่างไร เพราะนี่ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจในการอยากพัฒนาตนเองในการทำงาน อีกทั้งหากเราไม่รู้คุณค่าของตัวเองและงานที่ทำ อาจทำให้เรารู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสำคัญในองค์กร และมองไม่เห็นอนาคตที่เติบโตกับที่นี่ จนอาจทำให้เกิดอาการ Burn Out ไม่อยากมาทำงาน หรือทำงานไปวันๆ และนำพาไปสู่การลาออกในที่สุด

2. สร้างความโดดเด่นด้วยการพัฒนาความสามารถ

อย่าลืมว่าเรื่องของการปรับเลื่อนตำแหน่งในองค์กร เหล่าผู้บริหารก็มักจะมีคนที่ปักธงไว้ในใจแล้ว ว่าคนที่พวกเขาปักหมุดไว้ มีความสามารถมากพอที่จะผลักดันให้รับตำแหน่งสูงๆ ดังนั้นหากเราอยากแซงหน้าหรือโตเร็วกว่าคนอื่น เราก็ต้องกล้าที่จะออกจากกรอบ แสดงตัวตนและสร้างความโดดเด่นให้ผู้บริหารเห็นว่าเราก็มีศักยภาพไม่แพ้คนอื่น เช่น สร้างความโดดเด่นในแง่ของ ภาษา หรือมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการทำงานเพื่อตอบโจทย์ยุค Digital Tranformation เป็นต้น พูดง่ายๆ คือพยายามหาจุดเด่นหรือทักษะใหม่ๆ ที่คิดว่าคนอื่นไม่มี แต่ตัวเราเองสามารถทำได้นั่นเอง

3. มีมนุษยสัมพันธ์ในออฟฟิศ

ไม่ว่าจะอยู่ในสังคมไหน การเป็นคนมีมนุษยสัมพันธ์ดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่ทำงาน ที่ต้องอาศัยการติดต่องานต่างๆ เป็นหลัก รวมไปถึงการขอความช่วยเหลือ ดังนั้นหากเราทำตัวเป็นคนไนซ์กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้างาน เพื่อนร่วมทีม หรือเพื่อนต่างแผนก ก็จะช่วยทำให้เราได้รับคะแนนบวกเสริมเข้าไปอีก เผื่อจะขอความช่วยเหลือใดๆ ในภายภาคหน้า คนเหล่านั้นก็คงพร้อมที่จะหยิบยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างเต็มใจ

4. คอยช่วยเหลือคนอื่น

เมื่อเราทำหน้าที่หรือภาระงานของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงเดดไลน์แล้ว หากมีเวลาเหลือก็ไม่ควรลังเลที่ช่วยเหลือคนอื่นในทุกครั้งที่มีโอกาส เขาก็จะได้เห็นว่าคุณเป็นคนมีน้ำใจและเสียสละ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงงานด้านอื่นๆ ขององค์กร เช่น กิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นเป็นพิเศษ ผู้บริหารก็อาจเล็งเห็นได้ว่าคุณก็มีความสามารถด้านอื่นๆ มี Employee Engagement ที่นอกเหนือจากขอบเขตงานของตัวเองด้วย

5. หมั่นสร้างผลงานชิ้นโบว์แดง

การทำงานไปวันๆ ให้ผ่านพ้นไป แล้วรอรับผลตอบแทนตอนสิ้นเดือน อาจไม่ได้ส่งผลด้านความก้าวหน้าสักเท่าไรนัก ดังนั้นเราจึงควรต้องตั้งใจทำงานทุกชิ้นออกมาให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นโปรเจคต์สำคัญยิ่งต้องตั้งใจทำเป็นพิเศษ หรือหากมีโอกาสได้พรีเซนต์งานใดๆ ก็ควรตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ เพราะนี่ถือเป็นโอกาสที่ได้แสดงศักยภาพให้ทางผู้บริหารเห็น

6. ไม่ควรมีเรื่องเสื่อมเสียในออฟฟิศ

เมื่อทำงานดี มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงเลยก็คือ อย่าทำให้ตัวเองมีเรื่องเสื่อมเสียจนเป็นที่นินทาของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเล็กๆ น้อย หรือเรื่องจุกจิก ก็ไม่ควรให้เกิดขึ้นเด็ดขาด เช่น การผิดกฎของบริษัท การทุจริตในหน้าที่ การแย่งผลงานคนอื่น การลอกงานคนอื่น หรือการร่วมวงนินทาคนอื่น เป็นต้น เพราะเรื่องเหล่านี้ก็อาจส่งผลให้เราได้รับคะแนนติดลบได้เช่นกัน

ตัวอย่างการพัฒนาตนเองในการทํางาน

ทุกสายอาชีพมักจะมีสิ่งใหม่ๆ ให้เรียนรู้และเพิ่มพูนทักษะของตนเองอยู่เสมอ ตามแต่ความถนัดและสกิลที่แต่ละอาชีพต้องใช้ ดังนั้นเราจะมาลองยกตัวอย่างคร่าวๆ ถึงทักษะต่างๆ ที่แต่ละสายอาชีพควรพัฒนาตนเอง

  • สาย Sales & Marketing: ควรศึกษาด้านการพูด การสื่อสาร เทรนด์การตลาดในปัจจุบัน หรือลองเทค คอร์สด้าน Digital Marketing เพราะด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จนก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัล การเรียนรู้เทรนด์และเครื่องมือด้านเทคโนโลยีต่างๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ
  • สาย Content Creator:ควรหาความรู้เพิ่มเติมด้านการเขียน การใช้คำใหม่ๆ ให้ดึงดูด รวมไปถึงการเทคคอร์สด้านการทำกราฟิกเบื้องต้น การตัดต่อวิดีโอ การทำ SEO หรือ Digital Marketing เพราะจะช่วยให้คอนเทนต์ที่เราทำ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุดมากขึ้น
  • สายงานด้านภาษา: หมั่นฝึกฝนตัวเองในเรื่องของการใช้ภาษา  ทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน เพราะเรื่องการใช้ภาษา ยังเป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา หรืออาจลองหาเวลาคุยกับเจ้าของภาษานั้นๆ บ่อยๆ ก็อาจช่วยเพิ่มทักษะได้ อีกทั้งหากมีเวลาว่างลองหาเวลาเทคคอร์สเรียนภาษาที่ 3 ก็อาจเป็นช่วยเพิ่มโอกาสในการหางานใหม่ๆ หรือเพิ่มเงินเดือนได้อีกด้วย
  • สายงานด้าน Tech: ศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ เช่น การเขียนโปรแกรม การพัฒนาโปรแกรม ระบบหลังบ้าน-หน้าบ้าน เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันต่างๆ เพราะตอนนี้เราอยู่โลกดิจิทัลที่กำลังพัฒนาอย่างก้าวกระโดด การพัฒนาตัวเองจึงสำคัญไม่แพ้กัน

ความก้าวหน้าและการเติบโตในสายอาชีพถือเป็นเรื่องที่ดีและสำคัญ ไม่ว่าใครจะทำอาชีพอะไร ทุกคนก็ล้วนวางแผนอยากให้ตัวเองเติบโตในสายงานนั้นอย่างมั่นคง แต่การจะไปสู่จุดหมายได้ ต้องอาศัยรากฐานที่มั่นคง นั่นคือเรื่องของการพัฒนาตนเองในการทำงาน สิ่งเหล่านี้จะช่วยเสริมทักษะ ประสบการณ์ และทัศนคติในการทำงานของเราอยู่เสมอ ซึ่งนี่แหละจะช่วยเป็นแรงผลักดันให้เราประสบความสำเร็จได้แน่นอน ส่วนใครที่อยากลองเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับหน้าที่การงานของตัวเอง JobsDB ก็มีงานคุณภาพจากบริษัทชั้นนำ ให้คุณได้ค้นหากันอย่างจุใจ เลือกงานที่ชอบ บริษัทที่ใช่ แล้วกดสมัครได้เลย!

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่ามีผู้สมัครจำนวนเท่าไหร่ที่เตรียมเรซูเม่ที่หาข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมของตนโดยการสำรวจด้วยคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
เพียงคลิก 'สมัครสมาชิก' เพื่อยอมรับ คำชี้แจงสิทธิ์ส่วนบุคคลของ Jobsdb โดยคุณสามารถยกเลิกอีเมลเมื่อใดก็ได้
สงวนลิขสิทธิ์ 1998-2024 โดย บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด