คลายข้อสงสัยมนุษย์เงินกู้ เงินเดือนเท่าไหร่ซื้อบ้านได้?

เงินเดือนเท่าไหร่ซื้อบ้านได้? คำถามยอดฮิตที่พบได้บ่อยตามสื่อโซเชียล และได้ยินได้ฟังจาก เพื่อนร่วมงาน ของเราเอง โดยปกติแล้วคนที่ทำงานมาได้สักระยะหนึ่ง ก็ฝันอยากจะมีบ้านจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ซึ่งบ้านถือเป็นสินทรัพย์ทรัพย์ที่มีราคาสูง การขอสินเชื่อกู้ซื้อบ้านจึงเป็นวิธีที่คนนิยม เพราะอาจจะมีเงินสดไม่พอ หรือไม่อยากเสียเวลานานๆ ในการเก็บเงินก้อน แล้วต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่ซื้อบ้านได้? เพราะบางอาชีพเงินเดือนเหยียบแสนยังบ่นว่าไม่พอใช้เลย... ใจเย็นๆ ก่อน เรามีหลักเกณฑ์ง่ายๆ ที่ควรพิจารณาก่อนจะตัดสินใจซื้อบ้านดังนี้

• ความสามารถในการกู้

ควรศึกษาข้อมูลของบ้านให้ดี เลือกบ้านให้เหมาะสมกับกำลังผ่อน โดยเราควรมีเงินเก็บเพื่อดาวน์บ้านอย่างน้อย 20% และจำนวนเงินที่จะต้องผ่อนในแต่ละเดือนไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ทั้งหมด

ตัวอย่างการคำนวณของผู้กู้ เงินเดือน 30,000 บาท

ผ่อนบ้านจำนวนเงินสูงสุด 30,000 x 40% = 12,000 บาท

หมายความว่าผู้กู้มี เงินเดือน 30,000 บาท สามารถผ่อนบ้านจำนวนเงินสูงสุดที่ 12,000 บาท ต่อเดือน แต่ถ้าเรามีหนี้สินอื่นๆ เป็นภาระติดตัว ความสามารถในการผ่อนก็จะลดลง เพราะต้องแบ่งไปชำระหนี้ด้วย ซึ่งจะส่งผลทำให้ระยะเวลาในการผ่อนชำระนานขึ้นไปอีก

• อัตราดอกเบี้ย

เมื่อรู้จำนวนเงินเดือนเท่าไหร่ซื้อบ้านได้แล้ว ต่อมาคือการเปรียบเทียบข้อมูลของสถาบันการเงินที่เราต้องการจะใช้บริการขอสินเชื่อ โดยปกติแล้วการกู้ซื้อบ้านจะเป็นการกู้ระยะยาวนาน 30 ปี ในระหว่างนี้เราจะต้องผ่อนชำระกับธนาคารทุกเดือนไปเรื่อยๆ เงินจำนวนที่จ่ายไป ส่วนแรกคือการชำระดอกเบี้ย ส่วนที่สองคือการชำระเงินต้น สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาก็คืออัตราดอกเบี้ย แต่ละธนาคารก็แตกต่างกันไป สามารถแบ่งอัตราดอกเบี้ยออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

1) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ เป็นเงินกู้ที่มีกำหนดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ประมาณ 1-5 ปีแรก หลังจากนั้นจะมีการปรับเปลี่ยนเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว ซึ่งผู้กู้ก้ต้องมาลุ้นว่าถ้าลอยตัวแล้วดอกเบี้ยจะสูงหรือต่ำ

2) อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว เป็นอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดในปัจจุบัน โดยจะใช้อัตรานี้ไปสักพัก จากนั้นอาจจะมีการปรับเปลี่ยนขึ้นลงได้ตามเทรนด์ตลาดการเงิน ไม่สามารถรู้ล่วงหน้าว่าจะปรับเมื่อไหร่

ผ่อนบ้านอย่างไรให้หมดเร็ว

เมื่อนึกถึงระยะเวลาอีก 30 ปีกว่าจะได้เป็นเจ้าของบ้านอย่างเต็มตัว ก็รู้สึกว่านานเสียเหลือเกิน ทางเลือกที่จะทำให้จ่ายดอกเบี้ยน้อยลงและผ่อนบ้านให้หมดเร็วก็คือการชำระคืนในแต่ละเดือนให้มากกว่าเงินงวดปกติ ภาษาบ้านๆ เรียกว่าการโปะ จากตัวอย่างผู้กู้ในข้อ 1. มีเงินเดือน 30,000 บาท ถ้าชำระคืนได้เป็นสองเท่าของเงิน 12,000 ต่อเดือน จะช่วยให้ผ่อนบ้านหมดภายใน 10 ปี เพราะเงินจำนวนนี้จะไปหักเงินต้นทำให้จำนวนหนี้ลดลง อีกวิธีหนึ่งที่ได้รับความนิยมก็คือการรีไฟแนนซ์เปลี่ยนธนาคารไปเรื่อยๆ เพื่อขอกู้ใหม่ จะได้นำเงินมาปิดหนี้กับธนาคารเดิม เพราะในระยะ 3-5 ปีแรก ธนาคารจะให้อัตราดอกเบี้ยถูกสุด จากนั้นก็จะคิดดอกเบี้ยเต็ม

• หยุดสร้างหนี้ใหม่

ในช่วงที่คุณมีภาระใหญ่ผ่อนบ้าน พยายามอย่างสร้างหนี้ใหม่ที่ไม่จำเป็น อดทนอดกลั้นกับสินค้าผ่อน 0% เพราะถ้าคุณมีภาระหนี้พัวพันอยู่จะทำให้ความสามารถในการผ่อนบ้านลดลง ยิ่งมีประวัติการชำระหนี้ไม่ตรงต่อเวลา บางเดือนก็ช้า บางเดือนก็เบี้ยว เครดิตบูโรจะขึ้น Blacklist แน่นอน ควรทยอยปิดหนี้บางอย่างให้หมดก่อนจะตัดสินใจผ่อนบ้าน จะได้ผ่อนอย่างสบายใจ และธนาคารก็จะอนุมัติวงเงินได้ตามที่คุณต้องการ

• เก็บออม อย่างสม่ำเสมอ

จริงๆ แล้วแทนที่จะถามว่าเงินเดือนเท่าไหร่ซื้อบ้านได้ ควรรู้ว่าเราเก็บเงินได้เท่าไหร่ในแต่ละเดือน เพราะเราไม่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอะไรขึ้น ดังนั้นควรออมเงินอย่าให้ขาด ในแต่ละเดือนควรมีเงินเก็บ 20% ของราคาบ้านที่จะซื้อ เป็นค่าใช้จ่ายสำรองในอนาคต นอกจากนี้ควรให้เงินทำงานด้วยตัวเองบ้าง โดยหารายได้จาก Passive Income นำเงินไป ลงทุน ในหุ้น หรือกองทุนรวม บางคนอาจจะหารายได้เสริมจากงานอดิเรกที่ชอบ ซึ่งก็เป็นวิธีเพิ่มรายได้หลายๆ ทางทำให้เราเก็บเงินออมได้มากขึ้น

หายสงสัยกันหรือยังว่าต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่ถึงซื้อบ้านได้ สิ่งสำคัญกว่ารายได้ก็คือ วินัยทางการเงิน ถึงคุณจะมีรายได้เหยียบแสน แต่ถ้าไม่รู้จักควบคุมการใช้จ่าย ก็อาจกระทบกับค่าใช้จ่ายในอนาคตที่มีมากกว่าการผ่อนบ้านแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น เช่น ค่ารักษาพยาบาล หรือเงินที่ต้องแบ่งเก็บสำรองฉุกเฉิน ทางที่ดีคือต้องมีสติในการใช้เงินอยู่ตลอดเวลานั่นเอง

#คว้าโอกาสที่ใช่ให้ชีวิตได้เรียนรู้
#jobsDB

หางานได้ง่ายกว่าเดิมผ่าน application บนมือถือจากjobsDBทั้ง iOS และ Android โหลดเลย