สวัสดิการและผลประโยชน์ดี ๆ ที่พนักงานควรได้รับ

สวัสดิการและผลประโยชน์ดี ๆ ที่พนักงานควรได้รับ
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 07 July, 2023
Share

สมัยนี้จะหาพนักงานเก่ง ๆ มีความสามารถสูงเข้ามาทำงานด้วย ถ้ามีแค่เงินเดือนอาจจะไม่เพียงพออีกแล้ว เพราะพนักงานส่วนใหญ่ยังให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงานของบริษัทไม่แพ้เงินเดือน หากบริษัทไหน benefit ดี ดูแลพนักงานดี เหล่า Talent ที่มีความสามารถก็อาจจะเลือกไปอยู่กับบริษัทนั้น แทนที่จะไปอยู่กับบริษัทที่เสนอเงินเดือนให้พอ ๆ กันแต่มีสวัสดิการให้พนักงานน้อยกว่า เรียกได้ว่าเรื่องของสวัสดิการและผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่องค์กรสามารถมอบให้พนักงานได้จะช่วยดึงดูด Talent หรือเหล่าแรงงานชั้นดีที่มีความรู้ความสามารถให้เข้ามาทำงานด้วยได้ไม่ยาก

ทำความรู้จักสวัสดิการในประเทศไทย

ก่อนอื่นมารู้จักกับประเภทของสวัสดิการในประเทศไทยกันก่อน โดยสามารถแบ่งง่าย ๆ ได้เป็น 2 รูปแบบด้วยกัน คือ

  1. สวัสดิการตามกฎหมาย (Legal Welfare)
  2. สวัสดิการนอกเหนือกฎหมาย (Special Welfare)

สวัสดิการตามกฎหมาย (Legal Welfare)

คือ การจัดสรรสวัสดิการในสถานประกอบการ ตามกฎหมายที่นายจ้างต้องจัดให้กับผู้ปฏิบัติงานซึ่งสวัสดิการตามกฎหมาย ซึ่งถูกกำหนดโดยกฎกระทรวงแรงงาน ว่าด้วยการจัดสวัสดิการในสถานประกอบกิจการ พ.ศ.2548 ซึ่งในกฎกระทรวงฉบับนี้จะพูดถึงสวัสดิภาพขั้นพื้นฐานของแรงงาน ซึ่งก็คือการจัดหาน้ำดื่ม ห้องน้ำ การปฐมพยาบาลและการรักษาพยาบาลในที่ทำงาน ที่นายจ้างจะต้องจัดหาให้กับลูกจ้าง โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • การจัดหาน้ำดื่มและห้องน้ำ

ตามกฎหมายกำหนดให้สถานที่ทำงานต้องมีน้ำสะอาดสำหรับดื่ม 1 ที่ ต่อพนักงาน 40 คน เศษของ 40 คน ถ้าเกิน 20 คนให้ถือว่าเป็น 40 คน และห้องน้ำและห้องส้วม ที่จะต้องแยกชายและหญิง และถ้าหากมีลูกจ้างที่เป็นคนพิการ ก็ต้องจัดให้มีห้องน้ำสำหรับคนพิการโดยเฉพาะด้วย ซึ่งจำนวนห้องน้ำและห้องส้วม จะถูกแบ่งตามชนิดหรือประเภทของอาคาร ตัวอย่างเช่น อาคารสำนักงาน จะถูกกำหนดให้มีห้องน้ำสำหรับถ่ายอุจจาระและปัสสาวะโดยแบ่งเป็นห้องน้ำชายและห้องน้ำหญิงอย่างละ 3 ห้อง และมีอ่างล้างมือแบ่งตามห้องน้ำชายและหญิง อย่างละ 1 อ่าง

  • ห้องพยาบาล

ในสถานที่ทำงานที่มีพนักงานหรือลูกจ้างมากกว่า 10 คนขึ้นไป นายจ้างจะต้องจัดให้มีเวชภัณฑ์และยาเพื่อใช้ในการปฐมพยาบาลในจำนวนที่เพียงพอ อย่างน้อย 29 รายการ ดังนี้

  1. กรรไกร
  2. แก้วยาน้ำ และแก้วยาเม็ด
  3. เข็มกลัด
  4. ถ้วยน้ำ
  5. ที่ป้ายยา
  6. ปรอทวัดไข้
  7. ปากคีบปลายทู่
  8. ผ้าพันยืด
  9. ผ้าสามเหลี่ยม
  10. สายยางรัดห้ามเลือด
  11. สำลี ผ้าก๊อซ ผ้าพันแผล และผ้ายางปลาสเตอร์ปิดแผล
  12. หลอดหยดยา
  13. ขี้ผึ้งแก้ปวดบวม
  14. ทิงเจอร์ไอโอดีน หรือโพวิโดน-ไอโอดีน
  15. น้ำยาโพวิโดน-ไอโอดีน ชนิดฟอกแผล
  16. ผงน้ำตาลเกลือแร่
  17. ยาแก้ผดผื่นที่ไม่ได้มาจากการติดเชื้อ
  18. ยาแก้แพ้
  19. ยาทาแก้ผดผื่นคัน
  20. ยาธาตุน้ำแดง
  21. ยาบรรเทาปวดลดไข้
  22. ยารักษาแผลน้ำร้อนลวก
  23. ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร
  24. เหล้าแอมโมเนียหอม
  25. แอลกอฮอล์เช็ดแผล
  26. ขี้ผึ้งป้ายตา
  27. ถ้วยล้างตา
  28. น้ำกรดบอริคล้างตา
  29. ยาหยอดตา

และในสถานที่ทำงานที่มีลูกจ้างมากกว่า 200 คนขึ้นไป นอกจากจะต้องมีเวชภัณฑ์และยาอย่างน้อง 29 รายการตามลิสต์ด้านบนแล้ว ยังต้องมีห้องรักษาพยาบาลพร้อมเตียงพักคนไข้อย่างน้อย 1 เตียง เวชภัณฑ์และยานอกจากที่ระบุไว้ ตามความจำเป็นและเพียงพอแก่การรักษาพยาบาลเบื้องต้น พยาบาลตั้งแต่ระดับเทคนิคขึ้นไป ประจำอย่างน้อย 1 คน ตลอดเวลาทำงาน และแพทย์แผนปัจจุบันชั้นหนึ่งอย่างน้อย 1 คน เพื่อตรวจรักษาพยาบาลไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และเมื่อรวมเวลาแล้วต้องไม่น้อยกว่าสัปดาห์ละ 6 ชั่วโมงในเวลาทำงาน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่

  • มีข้อตกลงกับสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน

นายจ้างอาจทำข้อตกลงกับสถานพยาบาลเพื่อส่งลูกจ้างเข้ารับการรักษาพยาบาลกับสถานพยาบาลที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถนำลูกจ้างส่งได้โดยเร็ว เพื่อทดแทนการมีแพทย์ประจำที่ทำงานก็ได้ ซึ่งคำขออนุญาตใช้สถานพยาบาลแทนการจัดให้มีแพทย์ เราเรียกว่า แบบ กสว.1 และใบอนุญาตให้ใช้สถานพยาบาลแทนการจัดให้มีแพทย์ จะถูกเรียกว่า แบบ กสว.2

สวัสดิการนอกเหนือกฎหมาย (Special Welfare)

ซึ่งก็คือผลประโยชน์ที่นายจ้างหรือบริษัทมอบให้กับพนักงานเป็นพิเศษนอกเหนือจากสวัสดิการขั้นพื้นฐานตามกฎหมายที่พนักงานควรที่จะได้รับ และผลประโยชน์ตรงนี้เอง ที่หลายบริษัทแข่งกันจัดหาสวัสดิการพิเศษนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด เพื่อสร้างแรงจูงใจใช้ดึงดูดพนักงานที่มีความรู้ความสามารถสูง (Talent) ให้เข้ามาร่วมงานกับบริษัท โดยตัวอย่างของสวัสดิการนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนดมีดังนี้

  • โบนัส
  • เบี้ยขยัน หรือ เงิน O.T.
  • ค่าอาหาร และค่าครองชีพ
  • ค่าที่พัก
  • เงินค่าเดินทาง
  • รถประจำตำแหน่ง
  • ที่จอดรถในบริษัท
  • หอพัก หรือ รถรับ - ส่ง
  • ประกันสุขภาพหรือประกับชีวิต
  • ประกันทันตกรรม
  • การลาหยุดโดยยังได้รับค่าจ้าง
  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund) / สหกรณ์ออมทรัพย์
  • เงินกู้เพื่อที่พักอาศัยที่มีดอกเบี้ยเรตพิเศษ
  • สถานที่เลี้ยงดูบุตรของพนักงาน (Nursery)
  • สิทธิพิเศษในสินค้าและบริการของบริษัท
  • ฟิตเนสหรือห้องออกกำลังกายของบริษัท
  • อาหาร เครื่องดื่ม หรือขนมฟรี ที่มีบริการให้กับลูกจ้างอย่างไม่จำกัดเวลา

ประโยชน์จากการมอบสวัสดิการดี ๆ ให้กับพนักงานที่นอกเหนือไปจากการดึงดูดคนเก่ง ๆ ให้เข้ามาร่วมงานกับบริษัทได้แล้ว ยังเป็นการช่วยลดอัตราการลาออก (Turnover) ของพนักงานปัจจุบันอีกด้วย เพราะการที่บริษัทดูแลพนักงานดี ก็จะทำให้พนักงานมีความสุข มีแรงกายแรงใจไปทำงานให้มีประสิทธิภาพ และยังเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบริษัท จนกลายเป็นองค์กรที่ใคร ๆ ก็อยากเข้ามาทำงานด้วย

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ค่ารักษาพยาบาลที่ให้นายจ้างจ่าย เปรียบเทียบปี 58 และปี 51

เสียงกระซิบจากพนักงาน หัวหน้างานโปรดฟัง

More from this category: การเป็นผู้นำ

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่ามีผู้สมัครจำนวนเท่าไหร่ที่เตรียมเรซูเม่ที่หาข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมของตนโดยการสำรวจด้วยคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
เพียงคลิก 'สมัครสมาชิก' เพื่อยอมรับ คำชี้แจงสิทธิ์ส่วนบุคคลของ Jobsdb โดยคุณสามารถยกเลิกอีเมลเมื่อใดก็ได้
สงวนลิขสิทธิ์ 1998-2024 โดย บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด