รวม 6 เทคนิครูปถ่ายสมัครงานยังไงให้โดนใจ HR รู้ไว้ไม่ตกม้าตายแน่นอน

เรื่องรูปถ่ายกับการสมัครงาน เคยเป็นประเด็นถกเถียงกันในโซเชียลครั้งใหญ่ ว่าจำเป็นไหมที่ผู้สมัครต้องแนบรูปถ่ายประกอบไปกับเอกสารสมัครงาน หลายคนมองว่า คุณสมบัติและความสามารถคือสิ่งที่บริษัทควรให้ความสำคัญมากกว่าหน้าตาของ Candidate ขณะที่มุมของ HR บ้างก็ว่าแนบรูปถ่ายไปก็ดีกว่า ครบถ้วน ครอบคลุม แสดงถึงความตั้งใจ เพราะบางแห่งก็พิจารณาคนจากใบหน้า วิธีการเลือกถ่ายรูป ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่

ทว่าผู้สมัครบางส่วนก็ไม่เห็นด้วยกับเหตุผลดังกล่าว เพราะเชื่อว่าหน้าตาไม่เกี่ยวข้องกับการทำงาน คุณสมบัติและ ทักษะ ต่าง ๆ คือสิ่งที่พวกเขาตั้งใจแลกกับค่าตอบแทน เอาจริง ๆ ประเด็นนี้ไม่มีใครผิดใครถูก อยู่ที่ว่าเลือกที่จะมองมุมไหน เพราะโดยมากแล้ว “รูปถ่าย” มักไม่ได้อยู่ในลิสต์เอกสารจำเป็นที่คุณต้องแนบไป เพราะสุดท้ายแล้วถ้าคุณสมบัติเราผ่าน กระทั่งเข้าสู่ขั้นตอน การสัมภาษณ์ ที่ได้พบปะเห็นหน้า พูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติอยู่ดี

“รูปถ่ายสมัครงาน” ยังจำเป็นต้องใส่ในเรซูเม่ไหม?

อ่านมาถึงตรงนี้ผู้อ่านคงสงสัยใช่ไหมว่าคำตอบของเรื่องนี้คืออย่างไร สรุปต้องแนบรูปถ่ายไปด้วยหรือไม่ ยังเป็นสิ่งจำเป็นไหม…

จริง ๆ คำตอบของเรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะบุคคลไม่มีผิดถูก ใครรู้สึกว่าใส่รูปถ่ายไปไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร สะดวกใจจะใส่ก็ไม่ผิด ขณะเดียวกัน ใครที่รู้สึกไม่สะดวกก็จำเป็นต้องใส่เพราะอยากให้องค์กรโฟกัสที่ความสามารถมากกว่า ก็ไม่ใช่เรื่องผิดเช่นเดียวกัน อย่าลืมว่าการที่บริษัทจะรับคุณเข้าทำงาน รูปร่างหน้าตาไม่ใช่ประเด็นสำคัญของการทำงานอยู่แล้ว ยกเว้นว่างานนั้นเป็นงานที่ใช้ความสวยงาม บุคลิกภาพเป็นต้นทุน

ถ่ายรูปสมัครงานอย่างไรให้โดนตา สะดุดใจฝ่าย HR

ส่วนใครที่รู้สึกว่า ในเมื่อ Resume คือ ตัวแทนความสามารถ รูปถ่ายก็ย่อมเปรียบเสมือนตัวแทนของหน้าตาและภาพลักษณ์ ดังนั้น การใส่รูปถ่ายไปก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้ได้งานมากขึ้น วันนี้ JobsDB รวมทริคดี ๆ เกี่ยวกับรูปถ่ายสมัครงานมาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกัน!

รูปถ่ายควรเป็นภาพสี

รูปถ่ายที่แนบไปกับการสมัครงาน แนะนำให้ใช้เป็นรูปสีมากกว่าขาวดำ ด้วยสีสันที่สดใสจะช่วยให้เอชอาร์เห็นรายละเอียดในรูปได้มากกว่า อย่าลืมว่ารูปที่ส่งไปนั้นแสดงถึงบุคลิกภาพของคุณได้เป็นอย่างดี ว่าดูเฟรนด์ลี เคร่งขรึม จริงจังหรือไม่ หากใช้เป็นภาพขาวดำ มิติหรือรายละเอียดต่าง ๆ จะถูกลดทอนลง ทั้งยังไม่เป็นที่สะดุดตาเวลาคนอ่านใบสมัคร หรือดูน่าสนใจน้อยกว่าผู้ที่ใช้รูปถ่ายสมัครงานแบบสีนั่นเอง

รูปถ่ายควรใกล้เคียงตัวจริงมากที่สุด

เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีรุดหน้า แอปพลิเคชันที่เสกสรรความสวยงามก็มีให้คุณเลือกมากมาย ง่าย ๆ เพียงปลายนิ้ว จริงอยู่ที่รูปถ่ายสวยหล่อที่ปรากฏบนใบสมัครมีส่วนให้ HR รู้สึกอยากหยิบใบสมัครมาพิจารณา โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้หน้าตาเป็นส่วนประกอบสำคัญ  อย่าง งานประชาสัมพันธ์ ลูกค้าสัมพันธ์ หรือพนักงานต้อนรับ

อย่างไรก็ตามการแต่งรูปสมัครงานที่มากเกินไป ก็ไม่เป็นผลดี ตาโต ปากแดง ขนตาเด้ง สิ่งเหล่านี้ทำให้ลดทอนความน่าเชื่อถือลงได้ อย่างไรก็ตามควรทำแต่พองามให้ออกมาดูดี และใกล้เคียงตัวจริงของคุณมากที่สุด อย่าให้รูปถ่ายเพียงใบเดียวกลายเป็นอุปสรรคในกระบวนการหางาน จากความคาดหวัง กลายเป็นความผิดหวัง จะได้ไม่ต้องเสียเวลากันทั้งสองฝ่าย

ควรใส่ชุดที่ดูสุภาพ

แม้ว่าจะดูเป็นเหมือนเรื่องที่ทุกคนรู้อยู่แล้ว แต่ก็มีอีกหลายคนที่ตกม้าตายด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะเรื่องของเสื้อผ้าหรือชุดที่เลือกใส่เพื่อถ่ายรูปสมัครงานเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากไม่แน่ใจว่าจะเลือกใส่ชุดอะไรดี ให้เลือกชุดที่มีลักษณะเป็นเสื้อเชิ้ต หรือเสื้อคอปกแบบเสื้อโปโลแทน สำหรับใครที่สมัครงานในตำแหน่งระดับหัวหน้างานขึ้นไป ควรเลือกใส่สูทหรือเบลเซอร์ตคลุมทับอีกชั่น เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพให้กับภาพลักษณ์ ทั้งนี้เสื้อผ้าที่ไม่ควรใส่เพื่อถ่ายรูปสมัครงานคือ เสื้อสายเดี่ยว เสื้อเกาะอก หรือเสื้อยืดตัวบาง ๆ ที่ดูไม่สุภาพ

นอกจากนีเรื่องของการทำผมอาจไม่จำเป็นต้องทำผมทรงทางการ แต่ควรจัดทรงเรียบร้อย สามารถทำสีผมได้ขึ้นอยู่กับองค์กรและตำแหน่งงานที่สมัครเข้าไป แต่หากเห็นสายงานที่ต้องติดต่อกับลูกค้าเป็นหน้าตาของบริษัท ควรใส่ใจรายละเอียดเรื่องของเสื้อผ้าหน้าผมในรูปสมัครงานเป็นพิเศษ

ท่าทางในการถ่ายรูปสมัครงาน

ท่าทางที่โพสต์ในรูปสมัครงานถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ แสดงออกถึงบุคลิกภาพเบื้องต้นของผู้สมัครงานได้ โดยแนะนำใหถ่ายรูปหน้าตรง หรือเอียงหน้าข้างที่มั่นใจ และยิ้มเล็กน้อย ไม่ควรก้มหน้าหรือเงยหน้ามากเกินไป สายตาควรมองที่กล้อง ที่สำคัญควรเป็นรูปที่ถ่ายในอาคารหรือในบ้านแทนรูปที่ถ่ายนอกสถานที่ เพื่อเลี่ยงไม่ให้มีพื้นหลังรบกวน และอย่าลืมเรื่องแสงในภาพควรสว่างเพียงพอ ไม่มืดเกินไป หรือมีเงาพาดในรูป ที่สำคัญต้องไม่เป็นภาพเซลฟี่ตัวเอง

ตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดรูป

อีกหนึ่งดีเทลเล็ก ๆ ที่น่าสนใจ อย่างตำแหน่งการติดรูป เชื่อว่าผู้สมัครส่วนใหญ่น่าจะติดรูปไว้ในมุมต่าง ๆ อยู่แล้ว แต่มุมที่ชวนสะดุดตามากที่สุดนั้น เห็นจะเป็น“มุมขวาบน”เพราะเป็นมุมที่คนส่วนมากจะเริ่มมองก่อนแล้วค่อย ๆ ไล่ระดับสายตาลงมา หากรูปสมัครงานถูกใจและวางถูกที่ก็ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง อย่างไรก็ตาม อย่าเผลอใส่รูปถ่ายไปในซองเฉย ๆ โดยไม่ได้ติดกับเอกสาร นอกจากจะตกหล่นหรือสูญหายได้ง่ายแล้ว ฝ่ายบุคคลอาจเข้าใจว่า คุณส่งหลักฐานไม่ครบ ไม่รอบคอบก็เป็นได้ ทำให้เสียโอกาสไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

รูปถ่ายควรเป็นรูปปัจจุบัน

อีกข้อที่หลายคนเลือกที่จะมองข้าม ยังคงใช้ภาพถ่ายเก่าเก็บหลายปีแล้ว ส่งสมัครงานไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะหมด เพราะขี้เกียจไปถ่ายใหม่ หรือไม่อยากเสียเงินอะไรก็ตาม อย่าลืมว่าร่างกายและหน้าตาหรือบุคลิกภาพของเราเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน ทำให้รูปเก่า ๆ อาจไม่ตรงกับปัจจุบันมากนัก ทำให้ควรใช้รูปปัจจุบันหรือรูปที่ถ่ายใหม่ในการสมัครงาน ดังนั้นรูปถ่ายสมัครงานที่ดี ควรเป็นรูปที่ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน เพื่อให้ใกล้เคียงกับตัวจริงมากที่สุด ดูตรงปก ตามปกติแล้วรูปถ่ายที่ใช้เป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ก็ไม่ควรเกิน 6 เดือนเหมือนกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม

ทั้งนี้หากใครไม่มั่นใจในฝีมือการถ่ายรูปของตัวเอง ก็สามารถไป ถ่ายรูปสมัครงานที่ร้านถ่ายรูป แทนได้ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้มั่นใจได้ว่า รูปที่ออกมาจะดูเหมาะสมและมีความเป็นมืออาชีพอย่างแน่นอน หากเลือกที่จะส่งรูปถ่ายเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการสมัครงาน และมองว่านี่คือช่องทางเพิ่มโอกาสแล้ว ก็ควรใช้ช่องทางนี้ให้เป็นประโยชน์สูงสุด รูปถ่ายสมัครงานด้วยความตั้งใจ ผ่านกระบวนการคิดที่ดี ผู้รับสารอย่าง HR ย่อมสัมผัสได้ถึงรายละเอียดและความตั้งใจสมัครงานอย่างแน่นอน ทั้งนี้การละเลยเรื่องรูปที่ใช้อาจทำให้ได้โอกาสกลายเป็นพลาดโอกาสเพราะรูปถ่ายสมัครงานได้

หากเตรียมทุกอย่างครบถ้วนจนมั่นใจแล้ว ทั้งรูปถ่ายและเรซูเม่ อย่าลืมเข้ามาหาโอกาสดี ๆ จากองค์กรชั้นนำมากมายได้ที่ JobsDB แพลตฟอร์มหางานอันดับหนึ่งในไทย หาคนตรงงาน หางานตรงใจ