4 นิสัยการทำงานที่ควรหลีกเลี่ยง
การทำงานนั้นบางครั้งก็ยุ่งเสียจนไม่มีเวลาพักผ่อน จนนำไปสู่การทำลายสุขภาพโดยไม่รู้ตัว เป็นการตกหลุมพรางของการทำงาน หากไม่รีบแก้เสียแต่เนิ่น ๆ ก็อาจจะทำให้คุณแก้ไขนิสัยเหล่านี้ไม่ได้ เราจึงมีนิสัยที่ควรหลีกเลี่ยงมาบอกกล่าวให้คุณรู้จักระวังตัว ก่อนที่คุณจะรู้สึกว่าการทำงานนั้นกำลังทำร้ายตัวคุณเอง
1. ดื่มกาแฟแทนน้ำ
กาแฟเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของคนทำงาน เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้หายง่วง และช่วยให้กระปรี้กระเปร่าในคราวเดียวกัน แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าหากดื่มในปริมาณมาก ๆ เกินความต้องการของร่างกายแล้ว จะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของคุณได้เช่นเดียวกัน การดื่มกาแฟจะทำให้ประสาทของคุณตื่นตัว เหมือนจะพร้อมในการทำงานอยู่ตลอดเวลา แต่ร่างกายของคุณกลับเหนื่อยอ่อน นั่นเป็นผลมาจากการที่ร่างกายของคุณไม่สามารถปรับเวลานอนให้เป็นปรกติได้ คุณอาจเลิกนิสัยการติดกาแฟอย่างหนักของคุณด้วยการค่อย ๆ ลดปริมาณการดื่มลง เมื่อถึงตอนนั้นร่างกายคุณก็จะเข้าสู่ภาวะปกติ ร่างกายคุณสามารถปรับเวลาการนอนได้ ทำให้ร่างกายได้พักผ่อนจริง ๆ ไม่ต้องรู้สึกว่าตื่นขึ้นมาแล้วแต่ยังรู้สึกอ่อนเพลียอยู่เหมือนเดิม
2. มีทีวีเป็นเพื่อน
ความเครียดไม่ได้จากการทำงานเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่อาจเกิดจากการบริโภคข่าวสารบ้านเมืองที่มากเกินไปด้วย บางคนเมื่อกลับถึงบ้านแล้วก็ยังไม่ยอมพักผ่อน ยังคงอยู่หน้าจอทีวี ทั้งที่เวลาพักผ่อนก็แทบจะไม่มีอยู่แล้ว คุณควรเลิกพฤติกรรมนี้ให้ได้ แล้วหันไปทำกิจกรรมอื่นที่ให้ความสดชื่นแทน แต่สำหรับบางคนอาจจะเป็นเรื่องยากที่จะเลิก เพราะได้ทำจนติดเป็นนิสัยเสียแล้วจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเลิก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อจะทำให้เช้าวันใหม่ของคุณพร้อมสำหรับการทำงาน
3. บ่ายทีไรเป็นง่วง
บางคนอาจจะรู้สึกว่าอาการง่วงเหงาหาวนอนเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็เป็นกัน เพราะหลังจากเวลารับประทานอาหารกลางวันแล้วทีไรเป็นต้องง่วงทุกที แต่พฤติกรรมนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้เพื่อช่วยให้คุณสามารถทำงานได้ดีขึ้น แทนที่จะมัวมานั่งหาวในช่วงเวลาบ่าย อาหารเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยทำให้คุณผ่านพ้นอาการง่วงนอนยามบ่ายได้ ควรเลือกรับประทานโปรตีนให้มากกว่าแป้งหรือน้ำตาลในทุกมื้ออาหาร เพื่อนำไปสร้างพลังงานแบบไม่ทำร้ายร่างกาย และทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณเลิกอาการง่วงนอนเมื่อถึงเวลาบ่ายไปได้
4. มีเวลาไม่พอ
