ตัดสินใจอย่างไรว่างานนั้นเหมาะกับเราหรือไม่
เมื่อพูดถึงความเหมาะสมในการทำงานคงไม่ได้ตัดสินกันที่ตัวเงิน สวัสดิการ หรือบ้านใกล้เท่านั้น แต่หมายถึงสภาพแวดล้อมที่คุณจะต้องเข้าไปทำงานด้วย การสัมภาษณ์งาน เป็นโอกาสที่คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศการทำงาน ตลอดจนผู้คนในองค์กรนั้น ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจของคุณเช่นกัน ดังนั้นเมื่อมีโอกาสถามควรเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุดเพื่อการตัดสินใจที่ไม่ผิดพลาด และได้งานที่ดีในองค์กรที่เหมาะกับคุณจริง ๆ
1. หัวหน้าของคุณเป็นใคร
หากคุณมีโอกาสได้สัมภาษณ์งานกับผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้างานในอนาคตของคุณ การได้พูดคุยจะทำให้คุณประเมินได้ว่า สไตล์ของเขาเป็นอย่างไร เข้ากับคุณได้หรือไม่ เขามีความคาดหวังกับคุณอย่างไร และมองว่าผู้ที่จะเข้ามาทำงานในตำแหน่งที่คุณสมัครนั้นจะสามารถพัฒนาต่อไปได้อย่างไรบ้าง หากพูดคุยกันแล้วคุณรู้สึกว่า หัวหน้าคนนี้ไม่ใช่แบบที่คุณสามารถร่วมงานได้อย่างสบายใจ ก็ไม่ควรตกปากรับคำ แม้ว่าเขาอยากจะรับคุณก็ตาม
2. เพื่อนร่วมงานของคุณเป็นอย่างไร
เมื่อผู้สัมภาษณ์งานเปิดโอกาสให้ถาม อย่าลืมถามถึงเพื่อนร่วมงานของคุณ เช่น มีพนักงานกี่คนในทีมของคุณ พวกเขาเป็นคนอย่างไร อยู่ในทีมมานานเท่าไรแล้ว ครั้งสุดท้ายที่มีคนลาออกคือเมื่อไร เป็นต้น คำถามเหล่านี้พอจะบอกคุณได้ว่า สถานการณ์ในทีมของคุณเป็นอย่างไร หากคุณเข้าไปจะเจอเพื่อนร่วมงานแบบไหน และหากฟังแล้วคุณรู้สึกไม่ประทับใจ ก็ขอให้เชื่อความรู้สึกของคุณด้วย เพราะการต้องทนอยู่กับคนที่คุณไม่ชอบทุกวันเป็นการบั่นทอนจิตใจและ ความสุขในการทำงาน อย่างยิ่ง
3. เข้าใจหน้าที่งานดีหรือยัง
ระหว่างสัมภาษณ์งานควรมีการพูดคุยกันให้ชัดเจนและเข้าใจตรงกันว่าขอบเขต หน้าที่งานของคุณมีอะไรบ้าง เป้าหมายอยู่ตรงไหน ต้องทำร่วมกับใคร หรือต้องประสานงานกับใครบ้าง โดยเฉพาะโปรเจ็กต์แรกที่หัวหน้างานคาดหวังจากคุณ คุณต้องมั่นใจว่าเป็นสิ่งที่อยากทำ และทำมันได้ดี สามารถแสดงศักยภาพในตัวคุณออกมาให้ทุกคนเห็นได้
4. เชื่อสัญชาตญาณของคุณ
แม้ว่าบริษัทจะตอบรับคุณเข้าทำงานแล้ว แต่คุณไม่จำเป็นต้องตกลงในทันที หากบริษัทนั้นยังไม่ใช่บริษัทที่คุณต้องการที่สุด คุณสามารถขอเวลาตัดสินใจก่อนได้ ลองทบทวนถึงเป้าหมายในอาชีพของคุณ สมดุลชีวิตและงาน รวมถึงผู้คนที่คุณพบในการสัมภาษณ์งาน แล้วใช้สัญชาตญาณของคุณในการตัดสินใจ
หากคุณกำลัง ว่างงาน ไม่เสียหายที่จะลอง แต่หากคุณมีงานทำอยู่แล้ว ควรชั่งน้ำหนักให้รอบด้านเสียก่อน ไม่ควรตัดสินใจแค่จากปัจจัยพื้นฐานอย่าง เงินเดือนเพิ่มขึ้น เดินทางสะดวกขึ้น วันหยุดเยอะขึ้นเท่านั้น เพราะเอาเข้าจริงอาจไม่คุ้มกับสุขภาพจิตที่จะต้องเสียไปกับการทำงานอย่างไม่มีความสุขก็ได้
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
