ความเชื่อที่ผิดในการทำงาน

ความเชื่อที่ผิดในการทำงาน บางเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์และไม่ทำให้หน้าที่การงานก้าวหน้าขึ้นด้วย ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ผิดและยังคงมีคนเชื่ออยู่คือ

ความเชื่อที่ผิดหาความสมดุลระหว่างชีวิตกับการทำงานให้ได้

ความเชื่อที่ถูกหยุดพยายามทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เสียที ถ้าคุณพยายามให้เวลาแก่การทำงานและเรื่องส่วนตัวเท่า ๆ กัน คุณอาจลงเอยด้วยการไม่ประสบความสำเร็จกับอะไรสักอย่าง ฉะนั้น มองชีวิตเป็นช่วง ๆ ไปและเลือกสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ นี่อาจหมายความว่าคุณต้องบอกผ่านโอกาสในการทำงาน ถ้าคุณต้องการเน้นเรื่องครอบครัวแต่การบอกปฏิเสธบางอย่าง ไม่ได้หมายความว่าจะต้องปฏิเสธมันไปตลอดชีวิต

ความเชื่อที่ผิดมีเพียงคนที่มีอำนาจวาสนาเท่านั้นที่ควรค่าแก่การสร้างสานสัมพันธ์

ความเชื่อที่ถูกสนิทสนมกับดาวรุ่งของพรุ่งนี้แทนที่จะประจบแต่คนที่มีตำแหน่งหน้าที่การงาน ที่ดีอยู่แล้วในวันนี้ มองหาคนที่มีความสามารถอย่างแท้จริง และมีแววจะก้าวหน้าขึ้น วิธีนี้จะทำให้คุณดูไม่เป็นคนขี้ประจบ และสร้างสัมพันธภาพที่ยั่งยืนอันจะส่งผลดีในระยะยาว

ความเชื่อที่ผิดเปลี่ยนงานบ่อย ๆ เพื่อที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสุดยอด

ความเชื่อที่ถูกตรึงเท้าของคุณไว้กับที่ ทุกวันนี้บริษัทจำนวนมากเน้นการสร้างคนที่มีความสามารถในองค์กรของตัวเอง แต่ถ้าคุณเบื่อบทบาทของตัวเองลองหาความรับผิดชอบใหม่ ๆ เข้ามา เพื่อสร้างแรงจูงใจใหม่ ๆ แต่ถ้าลองแล้วและรู้สึกว่าคุณยังคงไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ มันอาจถึงเวลาที่จะจากไปก็ได้

ความเชื่อที่ผิดต้องแสดงออกจึงจะเป็นที่สังเกตเห็น

ความเชื่อที่ถูกมันไม่เกี่ยวกับว่าคุณเสียงดังแค่ไหน แต่สิ่งที่คุณพูดต่างหากที่สำคัญกว่าการกล้าแสดงออกทำให้คนอื่นรู้ว่า คุณทำงานได้ดีแค่ไหน แต่หัวใจสำคัญไม่ใช่การตะโกนให้ดังที่สุด แต่เป็นการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ขอคำแนะนำและแบ่งปันเครดิตให้คนอื่นบ้าง คนจะชอบคุณและอยากช่วยคุณอีก แต่คนที่แสดงออกก็มีข้อได้เปรียบ พลังงานของพวกเขาเป็นที่ดึงดูดใจ สิ่งที่ดีที่สุดก็คือการสลับไปมาระหว่างการแสดงออกกับเก็บความรู้สึกตามแต่สถานการณ์

ที่มา : lisaguru.com