ข้อมูลบน Facebook ของผู้สมัครงานทำนายประสิทธิภาพการทำงานได้

ข้อมูลบน Facebook ของผู้สมัครงานทำนายประสิทธิภาพการทำงานได้
Jobsdb ทีมเนื้อหาอัปเดตเมื่อ 07 July, 2023
Share

หากบริษัทอยากจะ จ้างงาน ใครสักคนเข้ามาทำงาน มาตรฐานโดยทั่วไปก็ต้องดูแหล่งอ้างอิง ตรวจดู จดหมายสมัครงาน เพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดว่าบุคคลใน เรซูเม่ นั้นมีอยู่จริงและเชื่อถือได้ แต่ปัจจุบันได้มีวิธีการที่ล้ำกว่านั้น จากการทำการศึกษาวิจัยของมหาวิทยาลัย Old Dominion ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แนะนำให้เพิ่มวิธีการตรวจสอบอีกช่องทางหนึ่ง คือการตรวจสอบประวัติของลูกจ้างบนเฟซบุค ปรากฏว่า โลกโซเชียลมีเดียยังรู้จักตัวตนของคุณมากกว่าตัวคุณเองเสียอีก

จากการศึกษาเรื่อง “ความเที่ยงตรงของสื่อออนไลน์ในการทำนายผลการปฏิบัติงาน” ดูนักเรียนที่จบปริญญาตรีจำนวน 146 คนผู้ซึ่งได้รับ การจ้างงาน จากบริษัทต่าง ๆ โดยแต่ละคนนั้นได้ทำแบบทดสอบบุคลิกภาพตนเอง และยินยอมให้มีทีมงานเข้ามาดูประวัติในหน้าโปรไฟล์ของพวกเขา และสรุปข้อมูลออกมา

พบว่าไม่เพียงแค่ลักษณะบุคลิกภาพที่สรุปจากประวัติในหน้าโปรไฟล์เฟซบุคเท่านั้น ที่สามารถทำนายผลการปฏิบัติงานได้ แต่ยังสัมพันธ์กับผลจากแบบทดสอบการประเมินตนเองที่พวกเขาได้ทำ และผลการปฏิบัติงานจริงจากนายจ้างอีกด้วย!

ข้อมูลจากโลกโซเชียลมีเดียไม่เพียงทำนายผลการปฏิบัติงานได้อย่างดีแล้ว ยังมีความสัมพันธ์กับเกรดของนักเรียน มากกว่าผลการทดสอบบุคลิกภาพตนเอง จากตัวนักเรียนเหล่านั้นเสียอีก และข้อมูลจากเฟซบุคนี้สามารถจับองค์ประกอบทางสังคมที่จำเป็นสำหรับ การทำงาน ในชีวิตจริง โดยที่ความสำเร็จทางการศึกษาก็ไม่สามารถเป็นตัวชี้วัดได้

ผู้ทำการศึกษากล่าวว่า การคาดการณ์ลักษณะตัวตนจากโซเชียลมีเดียนั้นมีข้อดีกว่าการทำแบบทดสอบประเมินบุคลิกภาพ เพราะว่าพวกเขาสามารถดูข้อมูลย้อนหลังได้เป็นปี ซึ่งดีกว่าการประเมินครั้งเดียวแน่อน

ประสิทธิภาพการทำงาน หลายบริษัทได้ใช้วิธีนี้จริงในการคัดคนเข้ามา สัมภาษณ์งาน แล้ว แต่การตัดสินใจจ้างงานจากการประเมินโดยใช้โซเชียลมีเดียมาช่วยตัดสินนั้น มีจุดอ่อนบางอย่างที่อาจส่งผลให้เกิดการฟ้องร้องได้ เช่น กรณีเข้าไปตรวจสอบประวัติคน ๆ หนึ่ง แล้วพบว่าเขาเป็นเกย์ หรือมีความเชื่อทางศาสนาที่ต่างออกไป และตัดสินไม่ให้คน ๆ นี้เข้ามา สมัครงาน ทำให้ผู้สมัครงานรายนี้ฟ้องร้องได้ว่าบริษัทเลือกปฏิบัติบนพื้นฐานทางด้านศาสนาหรือทางเพศ

อีกปัญหาหนึ่งคือ ผู้เล่นเฟซบุคหลายคนได้มีการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว เพื่อไม่ให้คนที่ไม่รู้จักเข้ามาดูข้อมูลประวัติ หรือกิจกรรมของตนเอง ทำให้บริษัทยากแก่การตรวจสอบ ถึงกระนั้น เมื่อได้ยินแบบนี้แล้วคงต้องขอตัวกลับไปแก้ไขในหน้าประวัติของตัวเองเสียก่อน ส่วนเรื่องที่ไม่ต้องการให้คนนอกเห็น คงต้องตั้งค่าความเป็นส่วนตัว เพื่ออุบเงียบกันต่อไป

ที่มา : Thumbsup.in.th

ภาพประกอบ : Mashable

เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เมื่อต้องสรรหาบุคลากรใหม่

4 วิธีคัดเลือกคนให้เหมาะกับวัฒนธรรมองค์กร

More from this category: การเป็นผู้นำ

เรียกดูคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

ทราบหรือไม่ว่ามีผู้สมัครจำนวนเท่าไหร่ที่เตรียมเรซูเม่ที่หาข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมของตนโดยการสำรวจด้วยคำค้นหาที่ได้รับความนิยม

สมัครรับคำแนะนำด้านอาชีพ

รับคำปรึกษาด้านอาชีพจากผู้เชี่ยวชาญส่งตรงถึงอินบ็อกซ์ของคุณ
เพียงคลิก 'สมัครสมาชิก' เพื่อยอมรับ คำชี้แจงสิทธิ์ส่วนบุคคลของ Jobsdb โดยคุณสามารถยกเลิกอีเมลเมื่อใดก็ได้
สงวนลิขสิทธิ์ 1998-2024 โดย บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด