เรซูเม่สมัครงาน สายไอที ควรมีอะไรบ้าง

FacebookLineTwitterLinkedInEmailCopy LinkPrint

           แม้ว่าสายงานไอที จะเป็นอาชีพที่องค์กรต่าง ๆ ต้องการบุคลากรเข้าไปทำงานเป็นจำนวนมาก แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกวันนี้การแข่งขันก็มีสูงโดยเฉพาะองค์กรชั้นนำของประเทศ ดังนั้นใครที่ทำ เรซูเม่สมัครงาน ได้ปัง แตกต่างและโดนใจ HR ก็เหมือนเป็นใบเบิกทางด่านแรกสำหรับการถูกเรียกสัมภาษณ์นั่นเอง

เรซูเม่สมัครงาน สายไอที ควรมีอะไรบ้าง

           เรซูเม่ มีความสำคัญอย่างไรสำหรับสายไอที จริงๆ แล้ว สายไอทีเป็นอาชีพที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ในแต่ละสายงานมาก ๆ เช่น  นักพัฒนาระบบเว็บไซต์ ซอฟต์แวร์  วิศวกรคอมพิวเตอร์ นักวิเคราะห์ข้อมูล  หรือกระทั่ง นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล การเขียน เรซูเม่สมัครงาน สำหรับสายไอที เป็นสิ่งความสำคัญมาก เพราะทักษะเฉพาะทางเทคโนโลยีที่มีความแตกต่างกันและหลากหลาย

           ใครที่สามารถดึงจุดแข็งมานำเสนอได้อย่างน่าสนใจ เช่น ทักษะทางเทคโนโลยีที่กำลังเป็นเทรนด์มาแรงและต้องใช้ทักษะความชำนาญเฉพาะด้านมาก ๆ และทำเรซูเม่สมัครงานโดยให้ HR สามารถอ่านแล้วเข้าใจง่าย ซึ่งสามารถทำเป็นอินโฟกราฟิก หรือมีลูกเล่นใหม่ ๆ การประเมินให้คะแนนระดับความสามารถในด้านต่าง ๆ  ยิ่งจะทำให้คุณโดดเด่นสะดุดตากว่าผู้สมัครอื่น ๆ แต่เรซูเม่สมัครงานของคุณจะปังมากยิ่งขึ้น ด้วยเทคนิคการเขียนเรซูเม่สมัครงาน ดังนี้

 

1.โชว์เทคโนโลยีที่ถนัดและจำเป็นให้โดดเด่น การเขียนเรซูเม่ นอกจากการระบุประสบการณ์ทำงานลงในเรซูเม่แล้ว ควรระบุ “ทักษะ” ที่ตนเองมีความถนัดหรือเป็นจุดแข็งและจำเป็นต้องใช้ในสายงานที่สมัครก็เป็นสิ่งที่เราควรเขียนลงไป หากเรามีทักษะพิเศษที่น้อยคนจะสามารถทำได้ จะยิ่งทำให้คุณกลายเป็นคนที่ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น โดยอาจใส่เป็น Bullet เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ

  • ทักษะด้านเทคนิค (Technical Skills) ในสายงานไอทีที่สมัครงาน ต้องระบุทักษะเฉพาะตำแหน่งที่สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญที่ทำให้คุณเต๊ะตา HR เช่น ตำแหน่ง Programming  ต้องใช้ความรู้การเขียนโปรแกรม จึงควรระบุทักษะของภาษาโปรแกรม เพื่อบ่งชี้ถึงความสามารถการเขียนโปรแกรมต่างๆ ได้หลากหลาย อาทิ  Java , Python , PHP เป็นต้น
  • อฟต์แวร์เพิ่มประสิทธิภาพ (Productivity software applications) การทำเรซูเม่สมัครงานที่ทำให้โดดเด่นและแตกต่าง ควรระบุทักษะใช้ซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น Google Suite ,Trello ,Slack ,Zapier ,Zoom และ Salesforce แทนการระบุว่ามีความเชี่ยวชาญด้าน Microsoft Excel ซึ่งเป็นเพียงทักษะพื้นฐานเท่านั้น 

 

2.Hard Skills & Soft Skills ควรมีในเรซูเม่ ผู้สมัครงานสายไอทีไม่ควรมองข้าม การเขียนเรซูเม่ที่เพิ่มทักษะด้าน Hard Skills & Soft Skills ในแบบของชาวไอทีเข้าไปด้วย สามารถใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปให้เป็นอินโฟกราฟิกให้ดูเข้าใจง่ายก็ได้

  • Hard Skills เรซูเมสมัครงานควรระบุความรู้เกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ เช่น การประมวลผลกลาง (CPU) การจัดเก็บข้อมูล การทำความเข้าใจวิธีจัดการและบำรุงรักษาฮาร์ดแวร์ ความรู้ทางด้านซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาแอปพลิเคชันและผลิตภัณฑ์ดิจิทัลอื่นๆ หรือความรู้เกี่ยวกับ SCRUM  และ Agile เป็นต้น
  • Soft Skills เพราะจริงๆ แล้ว ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีจำเป็นต้องมีความสามารถในการทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการทำเรซูเม่สมัครควรระบุความสามารถ Soft Skills อาทิ ความคิดสร้างสรรค์ในการจัดหาโซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมและมีประสิทธิภาพให้กับทั้งนายจ้างและลูกค้า เป็นต้น

 

3.ครีเอทความสามารถของตัวเอง ปกติแล้วเมื่อทำเรซูเม่สมัครงาน เรามักจะใส่ประวัติการทำงานที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน แต่จริงๆ แล้ว คุณสามารถนำเสนอความสามารถการทำงานตัวเองว่าดีแค่ไหน โดยสามารถนำโปรเจกต์ต่างๆที่ดูแล ระยะเวลาของการทำงาน และโปรเจกต์ที่ทำแล้วประสบความสำเร็จได้รับการยอมรับในองค์กร

 

4.พิชิตงานในฝันด้วย Keyword ที่ใช่ สำหรับระบบคัดกรอง โลกไปไกลแล้ว ยุคนี้บริษัทต่างๆ มีระบบการค้นหาและคัดกรองเรซูเม่ที่เรียกว่า ATS (Applicant Tracking System)  โดยใช้  Keyword จากระบบฐานข้อมูลในระบบออนไลน์ เพื่อให้ค้นหาเจอได้นั้น ดังนั้นผู้สมัครต้องทำ Keyword

  • Keyword ที่ต้องมี ได้แก่ ชื่อตำแหน่ง ทักษะด้านไอทีและทักษะอื่นๆ เช่น การสื่อสาร การทำงานเป็นทีม หรือการใส่ชื่อเฉพาะควรเป็นภาษาอังกฤษ และหลีกเลี่ยงการเขียนเรซูเม่สมัครงานเป็นไฟล์รูป เนื่องจากโปรแกรมอ่านไม่ออก และที่สำคัญต้องสะกดให้ถูกต้อง

 

5.คอร์สเรียนเพิ่ม Skills ปั้นเรซูเม่ให้โดดเด่น  โลกแห่งการเรียนรู้ไม่สิ้นสุด สำหรับสายไอทีใครที่มี  IT Certificates อย่าลืมใส่เรซูเม่สมัครงาน เพราะจะทำให้คุณแตกต่างอย่างชัดเจนจากผู้สมัครคนอื่นๆ  อาทิ

  • Microsoft Certified Systems Engineer (MCSE) เป็นประกาศนียบัตรที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด เพราะผู้ที่ได้รับประกาศนียบัตร MCSE เป็นผู้ที่มีความรู้ในการวางแผนและจัดการระบบ สามารถติดตั้งและดูแลบริหารงานระบบ รวมถึงสามารถใช้งานในส่วนของเซิร์ฟเวอร์แบบต่างๆ และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นแก่ระบบปฏิบัติการได้
  • Cisco Certified Network Associate (CCNA) เป็น ประกาศนียบัตรวิชาชีพทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับผลิตภัณฑ์ของซิสโก้ (Cisco) ซึ่งทำงานเกี่ยวกับระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ แบ่งออกเป็น 5 ระดับได้แก่ ระดับแรกเข้า (entry-level) ระดับผู้ร่วมงาน (associate) ระดับมืออาชีพ (professional) ระดับผู้เชี่ยวชาญ (expert) และระดับผู้เชี่ยวชาญพิเศษ (specialist)

           เมื่อรู้เทคนิคการทำเรซูเม่สมัครงานให้ปังแล้ว สายไอทีที่กำลังอยากเปลี่ยนงานหรือมองหางานใหม่ สามารถสมัครงานได้ที่แอปพลิเคชัน JobsDB

ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android

JobsDB Mobile App

เลือกงานที่ใช่ ใช้ชีวิตที่ชอบ ด้วยการค้นหางานที่ง่ายและรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดการเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณอัปโหลด ดู และลบได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานแสนง่าย ด้วยระบบ AI ใหม่ ช่วยค้นหางานที่ตรงใจมากขึ้นถึง 6 เท่า​

หางานไอที สายงานนี้มีดีอย่างไร ค้นหาคำตอบที่ทำให้งานไอทีเป็นงานยอดนิยม

มาทำความรู้จักกับ สายงานด้านไอทีกันเถอะ

ประตูแห่งความสำเร็จ สำหรับนักไอทีหน้าใหม่

10 ศัพท์คอมพิวเตอร์ ที่สายไอทีตัวจริงควรรู้
บทความยอดนิยม

9 เทรนด์การทำงานในอนาคตสำหรับปี 2023เรซูเม่สมัครงาน สายไอที ควรมีอะไรบ้าง

นอกจากภาษีที่ผู้มีรายได้ตามเกณฑ์จะต้องถูกหักทุกเดือนแล้ว เงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมก็เป็นอีกหนึ่งรายจ่ายที่ชาวออฟฟิศห...
งานอดิเรกเป็นการสร้าง Work-life balance ที่ดีทางหนึ่ง เมื่อเราใช้เวลาว่างกับสิ่งที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นถักโครเชต์ ทำงานศิลปะ...
พนักงานยุคใหม่ที่มีคุณลักษณะแบบผู้ประกอบการ หรือ Intrapreneur คือพนักงานที่ทุ่มเททำงาน มีทักษะและความสามารถ มีจิตวิญญาณแ...

คำค้นหายอดนิยม

Scroll to Top