สำรวจตัวเองก่อนลงทุน

การลงทุนในตลาดหุ้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะเรียนรู้ มีคนจำนวนไม่น้อยที่รวยจากการลงทุนในตลาดหุ้น และก็มีคนอีกจำนวนมากที่ต้องหมดตัวและเป็นหนี้จากการเล่นหุ้น แล้วต้องทำอย่างไรเพื่อที่จะได้เป็นคนกลุ่มแรก ก่อนอื่น ต้องเริ่มจากการสำรวจตัวเองเสียก่อนว่า คุณพร้อมหรือยังกับที่จะเข้าลงทุนในตลาดหุ้น ลองสำรวจตัวคุณเองว่าคุณมีสิ่งเหล่านี้หรือไม่

1. ความรู้

คุณรู้จักตลาดหุ้นมากน้อยแค่ไหน คุณมีเวลาที่จะศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมหรือไม่ เมื่อคุณเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้น ความรู้เป็นส่วนสำคัญ ที่จะทำให้คุณได้กำไรหรือขาดทุน นอกจากความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ระเบียบต่างๆ ของตลาดหลักทรัพย์ ความรู้เกี่ยวกับหุ้นที่คุณ ลงทุนหรือสนใจลงทุน คุณควรมีความรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจ การเมือง หรือปัจจัยอื่นๆที่จะส่งผลต่อราคาหุ้น รู้ว่าทำไมคุณซื้อหุ้นตัวนั้น มันดีกว่าตัวอื่นอย่างไร จำไว้ว่า “อะไรที่คุณไม่รู้คือความเสี่ยง อะไรที่คุณรู้คือไม่เสี่ยง”

2. เงิน

คุณต้องมีเงิน ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเงินเก็บหรือเงินออมทั่วไป แต่หมายถึงเงินที่คุณมั่นใจแล้วว่า คุณไม่มีความจำเป็นต้องเบิกออกมาใช้ หรือนำออกมาใช้ในช่วงระยะเวลานานกว่า 1 ปี เพราะการลงทุนในตลาดหุ้นนั้นไม่แน่นอน คุณอาจจะได้ข่าวมาว่าหุ้นตัวนั้น ตัวนี้จะขึ้น ภายในวันสองวัน สัปดาห์ หรือสองสัปดาห์ หากคุณโชคดีหรือข่าวของคุณตรง คุณก็อาจไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น คุณจะทำอย่างไร เมื่อคุณต้องรอเป็นปี หรือสองปี ดังนั้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต คุณควรกันเงินไว้ส่วนหนึ่ง ในกรณีที่คุณเจ็บป่วย หรือมีอุบัติเหตุ ที่ต้องใช้เงิน คุณจะได้ไม่ต้องตัดใจขายหุ้นที่คุณลงทุน คุณควรกันเงินส่วนที่คุณต้องจ่ายประจำ ไม่ว่าจะเป็นค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่าเบี้ยประกันชีวิต หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ให้พร้อมเพื่อคุณจะได้ไม่ต้องมาถอนเงินในบัญชีที่ใช้ลงทุน

3. เวลา

คุณควรมีเวลาใสการวิเคราะห์ข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อหรือขายเวลาในการติดตามข่าวสารต่างๆ ที่อาจส่งผลกับราคาหุ้นที่คุณลงทุน หรือเวลาในการติดตามราคาหุ้นเพื่อหาจังหวะซื้อหรือขาย และเวลาที่จะศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม หากคุณไม่มีเวลาพอคุณควรลงทุน ในกองทุนรวมต่างๆ ซึ่งมีอยู่มากมายในปัจจุบัน ซึ่งคุณก็ต้องศึกษามันให้ดี เพราะกองทุนเองก็มีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ ทั้งลงทุนในหุ้น 100% หรือลงทุนในหุ้น 50% พันธบัตรรัฐบาลอีก 50% เป็นต้น

4. ความพร้อมในด้านจิตใจ

บางคนอาจจะพูดว่าถ้าคิดว่าลงทุนในหุ้นแล้วจะขาดทุน จะลงทุนไปทำไม อยู่เฉยๆ ไม่ดีกว่าหรือ อาจจะจริงที่ว่าการอยู่เฉยๆ ย่อมดีกว่า ก็เสมือนคุณลงทุนทำธุรกิจของตัวเองที่มีโอกาสประสบความสำเร็จและโอกาสที่จะล้มเหลว ถ้าคุณไม่ลงทุน คุณก็ไม่ล้มเหลวหรือล้มละลาย แต่คุณก็ไม่มีโอกาสร่ำรวยเช่นกัน คุณลองพิจารณาบุคคลที่ประสบความสำเร็จ ร่ำรวยแล้วก็จะเห็นว่าคนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของกิจการ ดังนั้น คุณควรเตรียมความพร้อมในด้านจิตใจเอาไว้ ในกรณีที่คุณได้กำไรหรือขาดทุนจากการลงทุน จำไว้ว่า “เมื่อได้ก็ให้ดีใจว่าได้ เมื่อเสียขาดทุนก็ให้ทำใจ” น้อยคนที่ลงทุนในตลาดหุ้นแล้วได้กำไรตลอด หรือขาดทุนตลอด

5. โชค

โชค เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยพูดถึง เพราะมันทำให้รู้สึกเหมือนคุณซื้อหวย คุณไม่สามารถควบคุมได้ว่าจะออกเลขอะไร ทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับดวง แต่การลงทุนในหุ้นนั้นไม่เหมือนกัน คุณสามารถเลือกได้ว่า หุ้นตัวไหนดีที่สามารถทำเงินให้แก่คุณได้ หากพื้นฐานของหุ้น ตัวนั้นดี หรือหุ้นตัวนั้นมีแนวโน้มทางเทคนิคที่จะขึ้น อย่างไรก็ตาม หุ้นที่มีพื้นฐานที่ดีนั้นไม่ได้มีอยู่ตัวเดียว หรือหุ้นที่มีแนวโน้มที่ดี ก็ไม่ได้มีอยู่ตัวเดียวเช่นกัน และการเลือกหุ้นที่คุณจะซื้อนั้น ก็เป็นเรื่องของโชคจากหุ้นที่เลือกมาแล้วทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม คุณคงไม่ปฏิเสธว่าทุกอย่างในโลกนั้น มีทั้งสิ่งที่มนุษย์ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้ ทั้งนี้ เราไม่ได้หมายความว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชคอย่างเดียว หากตลาดเป็นช่วงขาขึ้น ไม่ว่าคุณจะมีโชคหรือไม่ คุณก็ไม่สามารถหากำไรจากตลาดได้ไม่ยาก แต่จะมากน้อยแค่ไหนนั้นก็ยังขึ้นอยู่กับโชคอยู่ดี

ที่มา : www.siaminvestor.com