เริ่มแล้วสำหรับ ภาษี e-service หรือการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างชาติที่ให้บริการผู้บริโภคในไทย นับว่าเป็นกฎหมายใหม่ที่ผู้ประกอบธุรกิจบนโลกออนไลน์ ผู้ซื้อสินค้าและใช้บริการต้องรู้และเตรียมรับมือให้ดี เพราะมีโอกาสโดนบวกเพิ่มอีก VAT 7%
ทำความรู้จักกับ ภาษี e-service
ภาษี e-service คืออะไร จริง ๆ แล้วเป็นการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) กับผู้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ (e-service) และอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มต่าง ๆ โดยผู้ให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ (e-service) และอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มที่มียอดขายเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี จะต้องนำส่ง VAT ให้กรมสรรพากร ซึ่งปัจจุบันคิดเป็นอัตรา 7% ของราคาค่าบริการ โดยกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป
ทำไมประเทศไทยถึงต้องมีภาษี e-service
โลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลและเกิดธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์จากบริษัทข้ามชาติที่ให้บริการออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ เป็นจำนวนมากในไทย โดยเหตุผลที่กรมสรรพากร ต้องออกกฎหมายฉบับนี้ มีดังนี้
- แพลตฟอร์มดิจิทัลต่างชาติ ไม่ได้เสียภาษีเช่นเดียวกับผู้ประกอบการไทยที่ต้องยื่นภาษีชำระ VAT 7% ดังนั้น ภาษี e-service จึงทำให้เกิดความเป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการจากต่างประเทศ
- ปัจจุบันมีกว่า 60 ประเทศ ที่ออกกฎหมายเพื่อจัดเก็บ ภาษี e-service ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ มาเลเซีย เพื่อให้ผู้ประกอบการต่างชาติต้องจดทะเบียนและเสียภาษี โดยกรมสรรพากรคาดว่าจะสามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้เพิ่มขึ้น ปีละ 5,000 ล้านบาท
ใครบ้างที่เกี่ยวข้องกับภาษี e-service และต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
สำหรับการกำหนดวิธีการดำเนินการจัดเก็บภาษี e – Service ตามที่ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวถึงกระบวนการจดทะเบียนในระบบ VES ขั้นตอนการติดต่อระหว่างกรมสรรพากรและผู้ประกอบการจากต่างประเทศ การจัดทำ ส่ง รับ เก็บรักษาเอกสาร การยื่นแบบและชำระภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบ Internet โดยมีขั้นตอนที่ผู้เกี่ยวข้องต้องดำเนิน ดังนี้
1.ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์จากบริษัทข้ามชาติ ที่ให้บริการออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ
ได้แก่ แพลตฟอร์ม E-Commerce ขายของออนไลน์ แพลตฟอร์มโฆษณายิง Ad เช่น Facebook, Google แพลตฟอร์ม Agency จองที่พัก โรงแรม ตั๋วเดินทาง หรือแม้แต่แพลตฟอร์มตัวกลาง เช่น บริการเรียกรถรับส่ง สั่งอาหาร และแพลตฟอร์มบริการออนไลน์ เช่น เกม ดูหนัง ฟังเพลง เป็นต้น
โดยขั้นตอนนั้นจะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มผ่านระบบงานภาษีมูลค่าเพิ่ม กรมสรรพากรเปิดระบบให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ (VAT for Electronic Service : VES) บนเว็บไซต์ของกรมสรรพากร ซึ่งแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างชาติสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป
เมื่อจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว กรมสรรพากรจะดำเนินการเผยแพร่รายชื่อผู้ประกอบการ e – Service จากต่างประเทศที่ได้จดทะเบียนแล้วบนเว็บไซต์ของกรมสรรพากรที่ https://eservice.rd.go.th/rd-ves-web/search/company และสามารถยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมชำระภาษีเป็นรายเดือน ได้ตั้งแต่วันที่ 1- 23 ในเดือนถัดไป
2.ผู้ใช้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ในเชิงของพาณิชย์ หรือ ผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจการบนแพลตฟอร์มข้ามชาติ
ในกรณีที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือเป็นบริษัทที่จดทะเบียน VAT อยู่แล้วและชำระภาษีเป็นรายเดือน ก็สามารถดำเนินการแจ้งหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี VAT ให้แพลตฟอร์มจากต่างประเทศเท่านั้น เพื่อที่ทางแพลตฟอร์มจะได้ไม่ชาร์จ VAT เพิ่ม
ส่วนขั้นตอนต่อไปนั้น ให้ดำเนินการยื่นแบบและชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามแบบ ภ.พ. 36 และสามารถนำภาษีมูลค่าเพิ่มตามใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรมาหักเป็นภาษีซื้อได้เช่นเดิม โดย ผู้ประกอบการ e – Service จากต่างประเทศไม่มีสิทธิออกใบกำกับภาษีและไม่มีสิทธินำภาษีซื้อมาหักออกจากภาษีขาย
ขณะที่ภาษี e-service ในส่วนของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทั่วไป ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการเก็บภาษี เพราะนโยบายดังกล่าวนี้จะเก็บภาษีมูลเพิ่มเฉพาะแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างชาติเท่านั้น
3.ผู้ซื้อสินค้าและบริการจากแพลตฟอร์มต่างประเทศ
ไม่ว่าจะเป็น การซื้อสินค้าผ่านทาง E-Commerce การจองที่พัก การสั่งอาหาร มีโอกาสที่ต้องจ่ายบริการด้วยการบวก VAT 7% เพราะผู้ประกอบการต่างประเทศที่มีต้นทุนการชำระภาษี VAT 7% เป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจที่จู่ ๆ จะมีค่าบริการเพิ่มขึ้น เช่น เมื่อซื้อสินค้า 100 บาท จะต้องจ่ายเพิ่มเป็น 107 บาท เป็นต้น
สิ่งที่ต้องพึงระวังและปรับเปลี่ยนตอบสนองต่อกฎหมาย
- ผู้ประกอบการแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ ต้องยื่นคำร้องขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่มีรายรับเกิน 8 ล้านบาท
- การคำนวณรายรับค่าบริการสำหรับผู้ประกอบการแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศที่เป็นนิติบุคคล ให้คำนวณจากรายรับค่าบริการตั้งแต่วันแรกของรอบระยะเวลาบัญชีที่ไม่สิ้น ก่อนวันที่ 1 กันยายน 2564
- สำหรับผู้ประกอบการแพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นบุคคลธรรมดาให้คำนวณจากรายรับค่าบริการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 เว้นแต่เริ่มประกอบกิจการระหว่างปี ให้เริ่มนับตั้งแต่วันเรื่มประกอบกิจการ
- การยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (P.30.9) พร้อมกับชำระภาษีเป็นรายเดือน โดยให้ดำเนินการผ่านระบบ SVE บนเว็บไซต์ของกรมสรรพากร ต้องยื่นทุกเดือน ไม่ว่าจะมีรายรับจากการให้บริการในเดือนภาษีนั้นหรือไม่
- การชำระภาษีสามารถชำระได้ 2 วิธี ด้วยสกุลเงินบาท ผ่านระบบ SVE โดยการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของกรมสรรพากรและชำระด้วยบัตรเครดิต
- กฎหมาย e-service ไม่ได้ใช้บังคับการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศทางออนไลน์และนำเข้าผ่านด่านศุลกากรมายังประเทศไทย เนื่องจากได้จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าสินค้าอยู่แล้ว
นี่จึงเป็นการบังคับใช้กฎหมายที่ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับบริการทางอิเล็กทรอนิกส์จากต่างประเทศ และอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มต่าง ๆ ควรสนใจศึกษา สำหรับใครที่กำลังมองหางานที่ใช่ หรือมองหาคนที่ใช่สำหรับบริษัทของคุณ สามารถเลือกใช้แพลตฟอร์มหาคนหางานอย่างแอปพลิเคชันJobsDB เพื่อค้นหาคนที่ใช่ให้กับองค์กรของคุณ
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android
เลือกงานที่ใช่ ใช้ชีวิตที่ชอบ ด้วยการค้นหางานที่ง่ายและรวดเร็ว พร้อมทั้งจัดการเรซูเม่อย่างมีประสิทธิภาพ ให้คุณอัปโหลด ดู และลบได้ทุกเมื่อที่ต้องการ เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การใช้งานแสนง่าย ด้วยระบบ AI ใหม่ ช่วยค้นหางานที่ตรงใจมากขึ้นถึง 6 เท่า
Silicon Valley หุบเขาแห่งเทคโนโลยี แหล่งผลิตคนไอที หัวกะทิ
มาทำความรู้จักกับ สายงานด้านไอทีกันเถอะ
Data Scientist คืออะไร? รู้จักอาชีพตัวท็อปรายได้เหยียบแสน!
Big Data Analyst ทำไมอาชีพนี้จึงจำเป็นต่อองค์กร