มันเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อการทำงานของเรารึเปล่า ? คำตอบก็คือ “ใช่” ความแตกต่างเห็นได้อย่างชัดเจนระหว่างคนที่รักในสิ่งที่ทำ กับทำในสิ่งที่ชอบ ผลลัพธ์จะแตกต่างกันอย่างแน่นอน เพราะหากว่ามีความรักในงานที่ทำอยู่ มันจะไม่ใช่เพียงแค่งาน แต่มันหมายถึงความสุขที่ได้ทำ ในระยะยาวคน ๆ นั้นจะไม่มีปัญหากับงานที่ทำอยู่แต่หากเป็นคนที่ทำในสิ่งที่ชอบ โดยธรรมชาติของมนุษย์นั้นเปลี่ยนสิ่งที่ชอบมักจะง่ายยิ่งกว่าเปลี่ยนสิ่งที่ตัวเองรัก ดังนั้นการมีความรักต่องานที่ทำอยู่จะมั่นคงและถาวรกว่า
5 เหตุผลที่สำคัญต่อการมีความรักในอาชีพการงานของเรา
- ในวันทำงาน ถ้าเกิดคุณเริ่มรู้สึกเบื่อ หรือรู้สึกไม่ค่อยอยากจะทำงานขึ้นมา นั่นหมายถึงได้ว่าคุณอาจจะไม่เหมาะกับงานนั้น ๆ แล้วก็ได้
- คุณอาจจะไม่ลงทุนลงแรงกับงานที่ทำอยู่ อาจจะเป็นเพราะว่าคุณยังไม่รู้ตัวเองว่ารักงานที่ทำอยู่รึเปล่า หรืออาจจะยิ่งทำให้คุณเสียเวลา แล้วผลลัพธ์ที่ออกมาจะส่งผลเสียต่อบริษัทก็เป็นได้
- คุณจะไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มความสามารถ ถ้าหากว่างานที่คุณทำอยู่ไม่ได้ทำให้คุณมีความสุข และอาจจะทำให้ตัวคุณไม่อยากพัฒนาทักษะการทำงานด้วย
- คุณจะไม่ได้รับการโปรโมทจากบริษัทใด ๆ ถ้าหากว่าคุณทำงานได้ไม่เต็มที่
- คุณจะไม่มีชีวิตชีวาเลย หากว่าคุณไม่ได้มีความสุขกับการทำงาน คุณอาจจะคอยแต่มองนาฬิกาว่าเมื่อไหร่จะเลิกงาน
จะทำอย่างไรถ้าหากคุณไม่ได้รักงานที่กำลังทำอยู่
สิ่งแรกที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นคือ การลงมือ “ทำ” บางสิ่งบางอย่าง มองหาความสามารถในตัวคุณและใช้ให้เกิดประโยชน์กับการทำงาน และพยายามมองหาจุดเด่นของงานนั้น ๆ เพื่อเพิ่มกำลังใจในการทำงาน และสิ่งที่สำคัญคือการคิดแง่บวกเสมอ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณลบจุดด้อยให้เป็นจุดเด่นกับงานที่ทำอยู่ได้ และอาจจะเปลี่ยนให้คุณรักในงานที่ทำก็เป็นได้
อันดับแรก ให้คุณค้นหาตัวเองว่าความต้องการของคุณคืออะไร ถ้าหากว่ายังหาไม่พบให้ไปขั้นตอนที่ 2
อันดับที่ 2 ลงมือทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน คุณควรที่จะมุ่งมั่นลงมือทำต่อไปให้เต็มที่ที่สุด เพื่อเปลี่ยนสถานการณ์ที่คุณกำลังเผชิญอยู่
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ